ย้ายลูกช้างป่าขาเจ็บรักษาต่อสวนนงนุช เหตุมีความพร้อมมากกว่า

ย้ายใบตอง ลูกช้างป่าขาเจ็บมีบาดแผลโดนบ่วงรัดบริเวณขาหน้าข้างซ้าย เข้าดูแลต่อที่สวนนงนุช พัทยา หลังทางทีมสัตวแพทย์ สสป.สบอ.2 ดูแลมาแล้วกว่า 5 วัน เหตุสวนนงนุชมีความพร้อมมากกว่า นอกจากนี้พบว่าลูกช้างป่ามีพฤติกรรมสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสามารถปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้แล้ว

จากกรณี "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" เผยภาพลูกช้างป่าพลัดหลง จำนวน 1 ตัว มีบาดแผลโดนบ่วงรัดบริเวณขาหน้าข้างซ้าย และทางทีมสัตวแพทย์เข้าดูแลรักษาลูกช้างป่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดวันนี้ (23 ธ.ค.) เพจ "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้ออกมาโพสต์ข้อความอัปเดตอาการล่าสุดของ "ใบตอง" ลูกช้างป่าที่พลัดหลงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. และพบว่ามีบาดแผลโดนบ่วงรัดบริเวณขาหน้าข้างซ้าย ซึ่งทีมสัตวแพทย์ สสป.สบอ.2 (ศรีราชา) ได้เข้าดูแลและรักษาเบื้องต้น หลังผ่านการดูแลมา 5 วัน ทีมสัตวแพทย์จากมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่สวนนงนุช พัทยา จะทำการเคลื่อนย้ายลูกช้างป่าตัวดังกล่าวจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน มาทำการดูแลรักษาต่อ ณ สวนนงนุช พัทยา

ซึ่งทางเพจ "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้ออกมาเปิดเผยให้เหตุผลในการเคลื่อนย้ายลูกช้างป่าในครั้งนี้ว่า "เนื่องจากทางสวนนงนุชมีแม่ช้างเลี้ยงเพิ่งจะคลอดลูก เพื่อสุขภาพของลูกสัตว์ที่ดีควรได้รับนมจากแม่ช้าง และทีมสัตวแพทย์ สบอ.2 (ศรีราชา)​ ทีมสัตวแพทย์จากกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจะทำการรักษาแผลจากการโดนบ่วงรัดบริเวณขาหน้าซ้ายร่วมกับทีมสัตวแพทย์สวนนงนุช โดยทำการตรวจเช็กการมาเลี้ยงของเลือดบริเวณปลายขาว่ายังมีเลือดมาเลี้ยงหรือไม่ โดยใช้เครื่องอัลตราโซนิกแบบดรอปเปอร์ พบว่ายังมีเลือดมาเลี้ยงเล็กน้อยและทำการทำแผลภายนอก จากนั้นได้ทำการรักษาขอบบนของแผลด้วยเครื่องยิงเลเซอร์ ซึ่งทีมสัตวแพทย์ทำการวางแผนการรักษาโดยจะทำการรักษาแผลภายนอก (ทำแผลทุกวัน)​ ทำการยิงเลเซอร์ด้านบนของขอบแผล (เพื่อเป็นการสลายเซลล์เนื้อตายและสร้างเซลล์ใหม่)​ และกดรั้งปิดแผลเพื่อที่จะให้เส้นเลือดที่มาเลี้ยงปลายขาฝ่อลีบซึ่งมีผลดีต่อการผ่าตัดในอนาคต (โดยใช้เทปเหนียวพันยึด)​"