อธิบดีกรมสรรพากร ยืนยันเดินหน้าเรียกเก็บภาษีผู้กระทำผิดในคดีเมจิกสกิน เลี่ยงหรือจงใจไม่เสียภาษีให้ถึงที่สุด พร้อมรอ ปปง. สรุปเส้นทางการเงินอีกครั้ง
ความคืบหน้าการดำเนินคดีเมจิกสกิน หลังจากที่ พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ไม่ได้คุณภาพ ในเครือบริษัท เมจิกสกิน ได้แถลงผลการดำเนินคดีกับศิลปิน ดารา นักแสดง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรีวิวสินค้าไปเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า มี ดารา นักแสดง รีวิวสินค้าดังกล่าวทั้งหมด 59 คน ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. อาหาร มาตรา 41 พ.ศ. 2522 จำนวน 46 คน และรอผลการพิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ. เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 จำนวน 27 คน แต่พบว่า มีดารา 36 คน ที่คดีขาดอายุความ จึงไม่สามารถดำเนินคดีได้ โดยเหลือดาราเพียง 10 ราย ที่จะต้องถูกดำเนินคดี เพราะพบความผิดชัดเจน และคดีใกล้หมดอายุความ ส่วนดารานักแสดงที่เหลือ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความผิดข้อหาอื่นเพิ่มเติม และยังเหลืออายุความให้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
ขณะที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการเรียกเก็บภาษีจากกลุ่มดารา บุคคลที่มีชื่อเสียงในสื่อออนไลน์ หรือ เน็ตไอดอล ที่เข้าไปรับจ้างรีวิวผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน ว่า ขณะนี้ กรมสรรพากรได้ทำหนังสือข้อข้อมูลจากสำนักงานการป้องและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพิ่มเติม เพื่อมาตรวจสอบและทำการเรียกเก็บภาษีจากกลุ่มดาราบุคคลมีชื่อเสียงที่รีวิวสินค้า เพราะ ปปง. ถือเป็นต้นทางของการตวรจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนกรณีที่มีดาราคดีหมดอายุความไป 36 คนนั้น จะมีผลต่อการเรียกเก็บภาษีหรือไม่นั้น อธิบดีกรมสรรพกร กล่าวว่า จะต้องรอข้อมูลที่ ปปง. ได้ตรวจสอบมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมสรรพากร ยืนยันว่า กรมสรรพากร จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีจากผู้ที่กระทำความผิดในคดีเมจิกสกิน ทั้งบุคคลที่เลี่ยง หรือจงใจไม่เสียภาษีให้ถึงที่สุด