การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก ประจำปี 2561” อย่างยิ่งใหญ่ ร่วมสืบสานประเพณีไทย และเฉลิมฉลองที่คณะกรรมการมรดกโลก แห่งองค์การสหประชาชาติ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำพิธีเปิดงานแห่งปีประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธา “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก พ.ศ. 2561” อย่างเป็นทางการโดย นายธนาคม จงจิระ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายทวีเดช ทองอ่อน ผู้อำนวยการ กองการตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และตัวแทนจากท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวแทนภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักท่องเที่ยวและประขาชนทั่วไปร่วมงานจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักมีสีสันด้วยการแต่งชุดไทยย้อนยุค “นุ่งโจง ห่มสไบ” ไปเที่ยวงาน ณ บริเวณศูนย์บริการท่องเที่ยวหรือศาลากลางหลังเก่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง
โดยก่อนหน้าที่จะมีการเปิดงานอย่างเป็นทางการในช่วงเวลา 14.00 น. ได้มีขบวนแห่การแสดงต่างๆ ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความเป็นมาของกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน จำนวน 8 ขบวน สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
โดยนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า “สำหรับภาพรวมของงานปีนี้มีีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตรย์ การเฉลิมฉลองงานมรดกโลก และสิ่งทีี่เรามุ่งหวังมากที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ซึ่งในปีนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งและคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับประชานในการพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยวให้แข็งแรงยิ่งขึ้นครับ” ทั้งนี้ นายสุจินต์ ยังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวมาร่วมชมงาน โดยทางจังหวัดเชิมชวนให้นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งชุดผ้าไทย มาร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วย
ขณะที่ นายทวีเดช ทองอ่อน ผู้อำนวยการกองการตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เผยว่า “งานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก พ.ศ. 2561” เป็นอีกหนึ่งงานของพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งอยู่ในภูมิภาคภาคกลาง การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญ และเป็นงานที่สำคัญที่เรียกว่าเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ความเจริญรุ่งเรืองของพระนครศรีอยุธยาตั้งแต่ 600 กว่าปี ในเชิงประวัติศาสตร์ที่เราทราบกันดีจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ความยิ่งใหญ่ของพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองแห่งมรดกโลกแห่งนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างเดินทางมาเยือนพระนครศรีอยุธยาในปีๆ หนึ่งเป็นจำนวนมาก “งานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก พ.ศ. 2561” ถือเป็นงานสำคัญ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเล็งเห็นความสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ จึงร่วมสนับสนุนในการจัดงานและกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ไฮไลท์ในงานจะอยู่ที่งานแสดงแสงสีเสียง การออกร้าน การแสดงต่างๆ และกิจกรมครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญ
การท่องเที่ยวห่งประเทศไทยขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาเที่ยวงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก พ.ศ. 2561” ในครั้งนี้ ท่านจะได้พบความยิ่งใหญ่ การแสดงแสงสีเสียงในรูปแบบการแสดงทางศิลปะ วัฒนธรรม และร่วมกันแต่งชุดไทยมาเดินในครั้งนี้ เพื่อยืนยันในความเป็นชนชาติไทยของเราด้วย ร่วมสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ในพื้นที่มากขึ้นครับ”
สำหรับงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก ประจำปี 2561” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-16 ธันวาคม พ.ศ. 2661 ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงแสงสีเสียงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ในชุด “อยุธยา แผ่นดินนี้ไม่สิ้นคนดี” ซึ่งมีเนื้อหา เทคนิค วิธีการนำเสนอ การดำเนินเรื่อง แบ่งเนื้อหาของการแสดง ออกเป็น 4 องค์หลัก ร้อยเรียงเป็นบทละครอิงประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยา โดยเฉพาะศิลปะการแสดงแบบมิวสิคเกิล ดราม่า (Musiccal Drama) และการออกแบบฉากมิติใหม่ กับการใช้ (CB) ที่ตื่นตาตื่นใจ ใช้นักแสดงเกือบ 400 ชีวิต และดาราผู้มีชื่อเสียง นักแสดงศิลปินอาชีพ คงไว้ในการยุทธหัตถี ใช้ช้างศึกจากวังช้างอยุทธยาแลเพนียดในการแสดง
ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ นอกจากการแสดงแสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา แล้วยังมีการออกร้านกาชาด ตลาดย้อนยุค ถนนกินเส้น ลานวัฒนธรรม กิจกรรมเวทีกลางแจ้ง มหกรรมสินค้า OTOP และมหกรรมคาราวานสินค้ามากมาย นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้ประดับไฟสวยงามเพื่อเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้เข้ามาท่องเที่ยวและเก็บภาพความประทับใจเป็นที่ระลึก รวมถึงขบวนแห่ถึง 8 ขบวน ที่จะยกทัพมาสร้างสีสันรอบเมืองมรดกโลก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB : ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก Ayutthaya World Heritage, FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 035 336 550
นอกจากงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก ประจำปี 2561” จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และน่าสนใจในช่วงนี้แล้ว สำหรับคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดพรนครศรีอยุธยาก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ี่น่าสนใจอื่นๆ อีก อาทิิ “วัดเชิงท่า” วัดสวยงามเก่าแก่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าอู่ทอง ซึ่งครั้งหนึ่ง“พระยาโกษาปาน” ผู้เป็นราชทูตไทยกลับมาจากฝรั่งเศสแล้วได้ปฏิสังขรณ์วัดนี้
และ “วัดหน้าพระเมรุ” เป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเคยเป็นวัดที่พม่าใช้ตั้งฐานบัญชาการจึงเป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
“ร้านอาหารเรือนทับทิม” สไตล์ทรงไทยของต้นตระกูล มีชูธน เป็นเรือนไทยอายุกว่าร้อยปี ริมน้ำสายสำคัญอย่างป่าสักและลพบุรี ตั้งอยู่ย่านเก่าที่เรียกว่าบ้านเกาะ มีของสะสมของรัชกาลที่ 7 เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาสที่นี่ด้วย
แวะเยี่ยมชม “โรงเรียนสำนักดาบและมวยไทยพุทไธสวรรย์” แห่งกรุงศรีอยุธยา สำนักดาบเก่าแก่ที่สืบทอดความรู้ศิลปะการต่อสู้มาแต่ดั้งเดิม ซึ่งพึ่งเปิดตัวไปไม่นานและเป็นที่สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เดินทางมาเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้คู่ชาติไทย
หากยังเที่ยวไม่จุใจสามารถเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งทาง ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับช่วงปีใหม่นี้ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ “เขื่อนกระเสียว” จ.สุพรรณบุรี แหล่งท่องเที่ยวชุมชนธรรมชาติวิถี หากในช่วงปีใหม่นี้ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนที่ไม่ไกลแต่ใกล้ธรรมชาติขอแนะนำ “แพกิ่งกาญจน์ฟิชชิ่ง & โฮมสเตย์ แค้มป์คาร์” ที่นี่เขาพึ่งเปิดใหม่แต่ไม่ธรรมดา แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ธรรมชาติวิถี “คืนไม้สู่ป่า คืนปลาสู่เขื่อน ชวนเพื่อนมาดูดาว”
มีกิจกรรมหลากหลาย ลานกางเต้นท์พื้นที่มากมาย แพลากจูงแพเปียกพร้อมอาหาร พายเรือคายัค เล่นน้ำ สไลเดอร์ ฯลฯ นั่งเรือชมจุดชมวิวรอบเขื่อนกระเสียวแบบ 360 องศา สัมผัสบรรยากาศพระอาทิตย์ยามอัสดงลับขอบฟ้า สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล แพกิ่งกาญจน์ฟิชชิ่ง & โฮมสเตย์ แค้มป์คาร์ โทร. 0954269458
นอกจากนี้บริเวณรอบเขื่อนกระเสียวก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกให้สามารถเที่ยวชมได้อีก เช่น ทุ่งปอเทืองท้ายเขื่อนกระเสียวบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ จิบกาแฟชมบรรยากาศที่ “บ้านไร่ท้ายเขื่อน”
เดินเที่ยววิถีชุมชนป่าสะแก “นวัตวิถีตลาดกลางดงเสือ” อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
ตลาดชุมชนสินค้าพื้นถิ่นแบบชาวบ้าน มีทั้งสินค้าเกษตรปลอดสารพิษ เครื่องจักสาน ผ้าทอมือ และสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านหลากหลาย ชมพิพิธภัณฑ์ของสะสมเก่าแก่ที่หาชมยาก เป็นต้น
เรื่อง/ภาพ : อรวรรณ เหม่นแหลม