“พยาบาลวิชาชีพ” เจอชายขี้เมาข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย หนำซ้ำผู้บริหารไม่ปกป้องอ้างเรื่องส่วนตัว

ชายขี้เมารักเมียที่สุดในโลก ข่มขู่พยาบาลวิชาชีพโชว์พาว พะวงอ้างขาหักจะขอเอกซเรย์ให้ได้ ทั้งที่หมอกำลังดูคนไข้ฉุกเฉินอยู่ เท่านั้นแหละ ด่าพยาบาลด้วยถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่จะเอาเรื่องไม่พอ ยังดักรอเป็นชั่วโมงจะทำร้ายร่างกาย หนำซ้ำผู้บริหารโรงพยาบาลไม่ปกป้อง ให้ไปแจ้งความเองอ้างเรื่องส่วนตัว กังขานี่เหรอ สิ่งที่หน่วยงานราชการดูแล หมดกันศักดิ์ศรีพยาบาลวิชาชีพ

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ในโลกโซเชียลแชร์เฟซบุ๊กพยาบาลวิชาชีพ ประจำโรงพยาบาลจังหวัดแห่งหนึ่ง เล่าถึงเหตุการณ์ที่ถูกสามีผู้บาดเจ็บ ที่อยู่ในอาการเมาสุรา ข่มขู่คุกคาม กล่าวหาว่าดูแลคนไข้ไม่ดี ไม่มีจรรยาบรรณ จะทำร้ายร่างกาย เพียงเพราะรักษาภรรยาที่ประสบอุบัติเหตุมีแผลที่ขาแล้วไม่ได้ดังใจ หนำซ้ำยังถูกผู้บริหารโรงพยาบาลให้ไปแจ้งความเอง อ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งที่ถูกคุกคามถูกทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่

พยาบาลรายนี้เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 25 พ.ย. มีผู้หญิงคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ มีแผลที่ขา เข้ามาที่ห้องฉุกเฉิน จึงทำการตรวจร่างกายและประเมินเบื้องต้น ก่อนจะตรวจแผลบริเวณขาขวา และรีบล้างแผลเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกติดเชื้อ ปรากฏว่า สามีของผู้หญิงคนดังกล่าวเดินเข้ามายืนข้างๆ เตียง ในลักษณะเมาสุรา กล่าวว่า “ขาคนไข้หักต้องรีบเอกซเรย์” ตนเข้าใจว่าเป็นห่วงภรรยา จึงอธิบายว่า ต้องให้แพทย์มาประเมินผู้ป่วย และความรุนแรงของบาดแผลก่อน จึงจะทำการเอกซเรย์ได้

ปรากฏว่า สามีผู้บาดเจ็บรายดังกล่าวตะคอกใส่ว่า “แล้วหมออยู่ไหน” จึงตอบกลับไปว่า กำลังดูคนไข้ฉุกเฉินอยู่ เดี๋ยวจะมาดูภรรยาคุณ ก่อนจะมองหน้าแล้วกล่าวว่า “แล้วมองหน้าทำไม ไม่พอใจเหรอ จะเอาเหรอ ถ้าเป็นญาติจะว่ายังไง” พร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย กล่าวหาว่า เป็นพยาบาลเลว บริการแย่ พร้อมถามว่าชื่ออะไร และกล่าวว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงถอดถุงมือแล้วหลบออกมา แต่ชายคนดังกล่าวกลับเดินประชิดแล้วเอามือล้วงกระเป๋าสะพาย ด้วยความกลัวว่าจะมีอาวุธจึงรีบก้าวถอยหลัง

ระหว่างนั้นถามว่าตนไปทำอะไรไม่ดี สามีผู้บาดเจ็บกล่าวด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำนองว่า ดูแลคนไข้ไม่ดี ไม่มีจรรยาบรรณ มารยาทแย่ มองหน้าตน พูดกับตนไม่ดี และท้าให้บอกชื่อมาเพื่อจะเอาเรื่อง เมื่อเห็นท่าทีคุกคาม จึงหลบไปนั่งร้องไห้ในห้องพักพยาบาล ประมาณ 20 นาทีให้หลัง พยาบาลรุ่นพี่เดินเข้ามาบอกว่า อย่าเพิ่งออกไปด้านนอก สามีผู้บาดเจ็บยังเดินตามหา สอบถามจากเพื่อนร่วมงาน เพื่อที่จะทำร้าย รอประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่กลับพูดว่าจะดักรอด้านนอก

เมื่อแจ้งไปยังผู้บริหารโรงพยาบาล กลับบอกว่า “ถ้าอยากแจ้งความก็แจ้งเองเลย” อ้างว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมการถูกคุกคามถูกทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่ ถึงกลายเป็นเรื่องวิวาทส่วนตัวไปได้ จึง โทร.แจ้งตำรวจ ประมาณ 10 นาที ตำรวจมาถึง จึงพาออกไปเจรจากับสามีผู้บาดเจ็บที่รอทำร้ายด้านนอก อีกฝ่ายชี้หน้าด่าทอต่อหน้าตำรวจด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย กล่าวหาว่ามองหน้า พูดไม่ดี

ตนจึงถามว่า แล้วมาพูดขึ้นมึงขึ้นกูใส่ จะให้ยิ้มเหรอ จึงบอกว่าจบก็ได้ แต่ไม่ขอโทษ เลยไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ แล้วกลับมาทำงานต่อ ก่อนกลับประมาณ 4 ทุ่มกว่า สามีผู้บาดเจ็บก็ยังเดินเข้ามาอีกรอบ แต่ตนกลัวกลับบ้านแล้วโดนดักตี เป็นธุระ พ่อแม่ ต้องขับรถมากลางดึกเพื่อมารับ กลับกันชายคนนั้นก็ยังกลับบ้านไปแบบปกติสุข ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย

“การทำงาน บนวิชาชีพนี้ ผ่านมา 6 ปี รับราชการมา 3 ปี ไม่เคยมีวันไหนที่เราถอดใจเท่าวันนี้ เราทำงานเพื่อประชาชนมา 6 ปี เจอเรื่องหนักๆ ถูกทำร้ายจิตใจ และร่างกาย การด่าทอจากคนไข้และญาติคนเมาเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่บั่นทอนจิตใจของเราที่สุด”

“นี่เหรอ สิ่งที่หน่วยงานราชการดูแลเรา สิ่งตอบแทนกรรมกรชุดขาว แบบพวกเรา ที่ต้องดูแลตัวเอง หมดกันศักดิ์ศรีพยาบาลวิชาชีพที่จำต้องยอมให้เค้าใช้เท้าเหยียบหัวใจเรา กี่ครั้งที่สองเราเงียบ กี่คนที่ตาย ที่เจ็บตัว สุขภาพจิตเสีย หวาดกลัว เนี่ยเหรอ สิ่งตอบแทนที่เราได้รับ พยาบาลวิชาชีพของพระราชา เจ็บปวด”

อ่านโพสต์ คลิกที่นี่