xs
xsm
sm
md
lg

“อาร์ต พศุตม์” เปิด 3 ตัวละครร่วมฉ้อโกง “ธุรกิจอาหารเสริม” เสียหาย 14 ล้าน แฉเคยตีเช็คเด้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นักแสดงหนุ่ม “อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” เผย 3 ตัวละครที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารเสริม ที่ตนไปร่วมลงทุนแล้วพบว่ามีปัญหา พอเรียกคืนสินค้าแล้วกลับไม่โอนเงินคืนตัวแทนจำหน่าย เสียหายกว่า 200 คน ราว 14 ล้านบาท ชี้ ทั้งแก๊งยังลอยนวล วอนช่วยกันแชร์ ใครมีเบาะแสมีรางวัลให้

กลายเป็นบทเรียนการทำธุรกิจของดารา นักแสดง และบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกกรณีหนึ่ง เมื่อดารานักแสดงหนุ่มวัย 35 ปี “อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” ออกมาเปิดเผยถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังคดีฉ้อโกง หลังร่วมกันทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อ บริษัท ดีซูส (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว โดยระบุว่า เป็นภาพในช่วงที่ นายณภัทช์ จุมพลกุล หรือ แอร์ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา มาติดต่อตนเพื่อชักชวนร่วมกันทำธุรกิจ ประกอบด้วย น.ส.ออย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ที่ นายณภัทช์ อ้างว่า เป็นเจ้าของโรงงานทำให้หลายแบรนด์ เป็นที่ปรึกษา และ รู้เรื่องทุกอย่างของบัญชีบริษัทฯ และเป็นคนนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตต่างๆ

คนต่อมา คือ นางวิภา จุมพลกุล ซึ่ง นายณภัทช์ กล่าวว่า เป็นเจ้าของศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร แต่พอสืบเรื่องราวด้วยตัวเอง พบว่า เป็นเพียงแค่ผู้จัดการรถมือสองเท่านั้น ซึ่งนางวิภาเคยมีประวัติถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามหน้าเช็ค (เช็คเด้ง) ตั้งแต่ปี 2557 พร้อมกับ นายณภัทช์ ที่ขณะนั้นใช้ชื่อว่า เจษตภร จุมพลกุล ซึ่งชื่อเดิมคือ ประสิทธิ์ จุมพลกุล และเคยเปลี่ยนชื่อมา 3 ชื่อแล้ว และคนที่สาม คือ นายหมี (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ที่เป็นสามีของ น.ส.ออย ตอนนั้นเป็นคนจัดแจงคิดบัญชีให้นายณภัทช์ ก่อนจะส่งของล็อตแรก ในวันที่ 9 ธ.ค. 2560

อาร์ต พศุตม์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นเวลา 24 วันแล้ว ที่ นายณภัทช์ และ นายณัฐพงศ์ มณีทรัพย์สุคนธ์ หุ้นส่วนบริษัท ดีซูสไทยแลนด์ และผู้ร่วมขบวนการ ได้หายตัวไปจากตัวแทน ตนขอให้ชี้แจงบัญชีบริษัทฯ เป็นเวลาหลายเดือน แต่ไม่สามารถชี้แจงได้ และได้ทำความเดือดร้อนกับตัวแทนจำหน่ายประมาณ 200-300 คน โดยหลอกว่าจะรับซื้อสินค้าคืนและจะจ่ายเงินในวันที่ 31 ต.ค. ถึง 1 พ.ย. รวมจำนวน 5.6 ล้านบาทเศษ มีบางส่วนได้คืนแล้วแต่รวมกันไม่ถึง 200,000 บาท อีกทั้งยังค้างชำระกับโรงงานอีกเกือบ 9 ล้านบาท และหนี้อื่นๆ อีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ โปรดช่วยกันแชร์ และหาตัวบุคคลดังกล่าว ใครมีเบาะแสมีรางวัลให้



View this post on Instagram

⋆อ่านให้จบรบกวนเวลาสักนิดอาจจะไม่ตกเป็นเหยื่อ ⋆ฝากพี่ๆสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวด้วยคับพวกเราจะขอบคุณมากๆฝากเพจดังหลายๆเพจช่วยด้วยคับข่าวนี้เป็นภัยต่อสังคมจริงๆคับ กราบขอบพระคุณ ***** ⋆รูปทุกคน ที่ผมลงตอนนี้คือตอน ที่นาย ⋆ณภัทรหรือแอร์ มาติดต่อผมทำธุระกิจ คนทั้งหมดนี้มากับเค้าด้วยทุกคน ถ้าใครไม่เกี่ยว กรุณาแสดงตัวด้วยคับ ** ⋆คนที่1 ชื่อ ⋆ออย โดยแอร์อ้างว่า เป็นเจ้าของโรงงานทำให้หลายแบรน เช่น ลอรีอัล ...ชวาร์สคอฟ (กราบขอประทานอภัยในแบรนที่ยกตัวอย่างมา ) ซึ่งแอร์ ได้อ้างว่า เป็นที่ปรึกษา และ รู้เรื่องทุกอย่างของบัญชีบริษัท ดีซุสไทยแลนด์ และ เป็นคนนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตต่างๆ (มีหลักฐานด้วย) ....⋆คนที่ 2 ชื่อ ⋆วิภา ⋆จุมพลกุล แอร์บอกเป็นเจ้าของศุนย์ รถแห่งนึง (toyo...)ใน ชุมพรพอสืบไปเป็นแค่ ผจก มือสองเท่านั้น toyo... มือสอง) ซึ่ง นาง ⋆วิภา ⋆จุมพลกุล เคยมีประวัติ เช็คเด้ง ตั้งแต่ ปี 57 เซ็น พร้อมกับนาย ณภัทร ( แต่ตอนนั้น เค้ายังชื่อ ⋆เจษตภร ก่อนหน้า นั้น ชื่อ ⋆ประสิทธิ คือเปลี่ยนมา 3 ชื่อแล้ว ) ⋆คนที่ 3 ชื่อ ⋆หมีเป็นสามีออย ซึ่งตอนนั้น เป็นคนจัดแจงคิดบัญชี ให้แอร์ก่อนจะส่งของล็อตแรก ในวันที่ 9 ธค 2560 .....ตอนนี้เป็นเวลา 24 แล้ว วันที่ นาย ⋆ณภัทร ⋆จุมพลกุล และ ⋆ณัฐพงษ์ ⋆มณีทรัพย์สุคนธ์ หุ้นส่วน บริษัท ดีซูสไทยแลนด์ และ เดอะแก็งค์ ได้หายตัวไปจากตัวแทน ผมขอให้ชี้แจงบัญชีบริษัท เป็นเวลาหลายเดือนมากๆ และไม่สามารถชี้แจงได้ และ ได้ทำความเดือดร้อนให้คนประมาณ 200 ถึง 300 คน โดย หลอกทางตัวแทนว่าจะรับซื้อของคืนและจะจ่ายตังค์ ในวันที่ 31 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายน 2561 รวมจำนวน ⋆5,600,000 ล้านบาท เศษ ได้มีบางส่วนได้คืนแล้วนิดหน่อยไม่น่าเกิน 200,000 บาท ยังมีหนี้กับ โรงงานอีก เกือบ 9,000,000 ล้านบาท และ หนี้อื่นๆ อีก จำนวนมากที่ยังไม่รู้ ⋆โปรดช่วยกันแชร์กราบหละคับ ช่วยกันหาตัวให้หน่อยนะคับ ⋆ใครมีเบาะแสมีรางวัลให้

A post shared by art_phasut (@art_phasut888) on



ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. อาร์ต พศุตม์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีกับนายณภัทช์ จุมพลกุล หรือ แอร์ อายุ 28 ปี และนายณัฐพงศ์ มณีทรัพย์สุคนธ์ อายุ 28 ปี กรรมการหุ้นส่วนบริษัทฯ ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัท มาตรา 41 วรรค 2 เพราะตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากทั่วประเทศกว่า 200 คน จ่ายเงินสั่งสินค้าแล้ว แต่ไม่ได้รับสินค้า บางรายได้รับสินค้าแล้วเกิดปัญหาคืนสินค้าแต่ไม่ได้รับเงินคืน อีกทั้งยังพบว่า นายณภัทช์ และนายณัฐพงศ์ ยังไปทำนิติกรรมสั่งสินค้า และเก็บเงินจากตัวแทน โอนเงินจากการขายสินค้าเข้าบัญชีส่วนตัว มูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท

ในวันดังกล่าว นายณภัทช์ได้เผชิญหน้ากับ อาร์ต พศุตม์ และได้พยายามเดินหนีเข้าไปในโรงพัก ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ที่เรียกรับสินค้าคืนเพราะมีปัญหากันภายใน ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ในเชิงธุรกิจถ้ามีปัญหากันภายใน ผู้บริหารควรเรียกมาคุยกันก่อน ก่อนที่จะแจ้งให้ตัวแทนจำหน่ายและพนักงานบริษัท แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้บริษัทฯ ประกอบธุรกิจต่อไปไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องหาข้อยุติในการเรียกรับสินค้าคืน เพื่อสรุปผลประกอบการและค่าใช้จ่าย

นายณภัทช์ อ้างว่า หนึ่งในกรรมการ 3 คนเป็นผู้ลงแรง ส่วนตนและนายณัฐพงศ์เป็นผู้ลงเงิน แต่ผลประกอบการแบ่งกันครึ่งต่อครึ่ง เจตนาที่เรียกสินค้าคืนเพื่อชำระบัญชีและปิดบริษัทฯ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ ตนชี้แจงได้ถ้ามีการคุยกัน แต่หากมีการแจ้งความดำเนินคดีก็ต้องไปเจอกันในศาล และพร้อมที่แจ้งความกลับเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับนายณภัทช์ และนายณัฐพงศ์ อ้างว่าต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ถึงจะออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา










กำลังโหลดความคิดเห็น