มุ่งมั่นทำงาน-เดินตามรอยธรรม แนวคิด “อี๊ด รณิดา” บริหารงานและชีวิต

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. แรงบันดาลใจ คือ พี่เห็นองค์หลวงตาที่นับถือมากสององค์นี้ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี และ หลวงปู่แบน วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร ท่านเป็นพระ ไม่ได้มีเงินเดือน แต่ท่านออกทำทาน แจกจ่ายให้คนจน ทำโรงพยาบาล ทำอะไรเยอะแยะ ทำ ทำ มันก็เลยว่า ทำไมเราเป็นข้าราชการ กินเงินหลวง จะนิ่งเฉยได้อย่างไร เราก็เลยเป็นแรงบันดาลใจในการทุ่มเททำงานให้ประเทศชาติและประชาชน การที่เรามีโอกาสดีๆ แค่เราตั้งใจทำงานก็เป็นบุญสำหรับเรา

“งานที่ได้รับมอบหมาย ต้องทำเต็มที่ และดีที่สุด” บทสัมภาษณ์ของ อี๊ด-รณิดา เหลืองฐิติสกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งดูจากภายนอกหลายคนที่พบเห็นร้อยทั้งร้อยก็ต้องมองว่าเป็นผู้หญิงเก่ง คล่องแคล่ว ฉะฉาน คุณอี๊ด ทำงานราชการมาหลายสิบปี นับตั้งแต่เรียนจบ เป็นคนทำงาน ลักษณะที่คนอื่นสัมผัสการทำงานกับพี่ จริงจัง ทุ่มเท ยึดความสำเร็จ ประโยชน์ประชาชน ทำงานราชาการ งบประมาณจำกัดเกิดประโยชน์สูงสุด ดูว่าประชาชนและประเทศชาติได้อะไร เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงตลอดการทำงาน ฉะนั้น เวลาทำงาน ความสำเร็จของการทำงานก็จะปรากฏ รูปแบบงานที่เราทำ ส่วนใหญ่คนจะบอกว่าไม่เหมือนงานทั่วไป แตกต่าง ฉีกออก มีความทันสมัย เพราะเราเชื่อว่าไม่มีใครเก่งทุกอย่าง การทำงานต้องหลายส่วนประกอบกับ จึงมีการเชิญคนนั้นคนนี้เข้ามา เรียกว่า ประสานงานบุคคลภายนอกมาร่วมในการทำงาน ของเรา และแต่ละท่านที่เรารู้จัก ยึดถือ ทุกคนมีอุดมการณ์ในการทำงาน ดึงมาเป็นเครือข่าย เมื่อได้คนที่เก่งที่สุด มาทำสิ่งที่ดีร่วมกันอยู่แล้ว ทำไมผลงานจะออกมาไม่ดี

ชีวิตนี้เดินตามฝัน

“เป็นความฝันว่าอยากรับราชการ พอมีโอกาสต้องทำเต็มที่ ชีวิตราชการ อาจทำให้ยุ่ง ไม่มีเวลา แต่พี่ถือว่า ทำงานคือการพักผ่อนอย่างหนึ่ง หลักการคือเราต้องชอบในสิ่งที่เราทำ เราจะไม่เหนื่อย อยากทำเรื่อยๆ ส่วนตัวเป็นคนพูดเก่ง มนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบงานพบปะผู้คน ประสานงานหลายฝ่าย ต้อนรับคณะศึกษาดูงานผู้มาเยือน ซึ่งงานในส่วนของหัวหน้าสำนักงานจังหวัด จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง ทุกอย่างอยู่แล้ว ในจุดนี้ถือว่าโชคดีเพราะได้ทำในสิ่งที่รัก ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก

ถามถึงความฝัน การเติบโตในสายงานเป็นไปตามอายุและผลงานอยู่แล้ว อี๊ดอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้มีความสุข ความที่อยู่ที่ทำงาน หรือไม่ก็ลงพื้นที่ไปตำบล อำเภอต่างๆ เป็นเรื่องสนุก ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วล่าสุดภูมิใจกับงาน ASEAN CONNECT เชื่อมสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา กระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและเพื่อนบ้าน จัดขึ้นมาเพื่อสานสัมพันธ์เขตชายแดนลุ่มแม่น้ำมูล เพราะเขตจังหวัดเราติดกับกัมพูชา และนับวัน จุดผ่านแดนถาวร ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ เป็นย่านการค้าที่คึกคัก โดยพิกัดถือว่ามีศักยภาพมาก มีโอกาสในการเติบโตหลายๆ ด้าน นอกจากผู้คนในพื้นที่ที่ข้ามฝั่งสัญจรแล้ว การเปิดเป็นเมืองท่องเที่ยว มีคนนอกเข้ามาใช้จ่าย ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน คุณภาพชีวิตดีขึ้น จังหวัดก็พัฒนาไปได้รุดหน้ารวดเร็ว
โอกาสนี้ จึงมีการจัดงาน คล้ายๆ ให้เป็นต้นแบบสำหรับการท่องเที่ยวจังหวัด ทริปเบิกฤกษ์ เชิญบรรดาข้าราชการอย่างเรานี่แหล่ะ แล้วก็พ่อค้า, ตัวแทนบริษัททัวร์ท่องเที่ยว ฯลฯ จากประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา 90 ท่าน ร่วมงานสื่อมวลชนทั่วประเทศเข้าร่วมงาน พร้อมจัดโปรแกรมแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใน “อันซีน-ไทยเท่” ทั้งหลาย ถือเป็นการเปิดเมืองครั้งแรกในรอบหลายปี และเปิดให้สื่อมวลชนได้ไปสัมผัส ลอดประตูสู่เมืองศรีลำดวน-ศรีสะเกษ ไปพร้อมๆ กัน

ให้แนะนำจุดเช็คอินใหม่ๆ ของ ศรีสะเกษ สวยต้องไปเบิ่ง

ตามทริปเดินทาง ASEAN CONNECT เลยนะคะ ถือเป็นโปรแกรมพิเศษแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใน “อันซีน-ไทยเท่” ในคอนเซปต์ใหม่ “ศรีจ๋า.. ศรีสะเกษ #สวยไปเบิ่ง เริ่มโปรแกรม วันแรก ไหว้ศาลหลักเมือง นมัสการหลวงพ่อโต วงเวียนแม่ศรี นำชมสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมือ ศรีสะเกษ จุดเช็กอินที่น่าสนใจหลายแห่ง, หนองตะเคียน ปราสาทสันกำแพงใหญ่ เกาะกลางน้ำ รับประทานอาหารเย็น ร้านสีเขียว เข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย โรงแรมแกลลอรี่ ห้าดาว ของศรีสะเกษ และเดินทางไปร้านอาหารสีเขียวร้านต้นตำหรับอาหารพื้นเมือง วันที่สอง แวะตลาดวัฒนธรรม วัดสุพรรณหงส์ บ้านหว้าน ตักบาตรข้าวเหนียว เดินทางพาชมตลาดเช้า ณ วัดปราสาทเยอเหนือ สัมผัสวิถีชุมชนที่ ตลาดโบราณ วัฒนธรรม (วัดปราสาทเยอเหนือ 1 ใน 13 แห่งวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จ.ศรีสะเกษ) ชุมชนเผ่าเยอ ขบวนรำต้อนรับ ไกด์ ไทบ้านแนะนำ จุดเช็กอินของนักท่องเที่ยว มีกิจกรรมจะทอผ้า เห็นการตกแต่งเครื่องประดับด้วยกระดุมเงิน ที่บ่งบอกถึงฐานะความร่ำรวย การทำสุราพื้นบ้าน (จัดเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ถูกต้องตามกฎหมาย) จากนั้นไป สวนผลไม้ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนหอมแดงลุงละม้าย เทศบาลตำบลยางชุมน้อย และ สวนลุงบุญมี กลุ่มข้าวเกษตรอินทรีย์ที่โด่งดังที่สุด (ขนาดนายกฯ นั่ง ฮ. มาดู) หรือแม้กระทั่งสุดเขตชายแดน ต้องใช้เวลาเดินทาง 1.5 ชม. เพื่อไปจุดผ่านแดนถาวร ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จากนั้นเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติ ผามออีแดง เนินนับดาว วันที่สาม เดินทางลงมาไม่ถึง 15 นาที จุดน่าแวะซื้อของฝาก คือ “กลุ่มทอผ้าขาวม้าพื้นเมือง” OTOP นวัตวิถี บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดดเด่นเรื่องผ้าขาวม้า น้ำกลั่นบริสุทธิ์จากใบย่านาง สมุนไพรพื้นบ้านต่างๆ ตามด้วยกิจกรรมจัดเต็มจาก หมู่บ้านนวัตวิถีโอทอป บ้านโนนสว่าง อ.พายุห์ จ.ศรีสะเกษ ชมวิถีชีวิตชุมชน วัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม การทอผ้า การแซวผ้า มีขบวนต้อนรับ พาดูการทอไหม การแซวผ้า เป็นเอกลักษณ์ของศรีสะเกษ มีไกด์ชาวบ้านบรรยาย หมวกก้านมะพร้าวให้สื่อมวลชนสวมใส่ แนะนำให้ชมกระบวนการทำหม่อนไหมที่นี่-การแซวผ้าลูกแก้ว ชมบ้านโบราณอายุกว่าร้อยปี ฯลฯ ระหว่างทางมีพาหนะรถ อีแต๋นพาท่านไปกลางทุ่ง ชมความงามสองข้างทางว่าสวยแล้ว แต่ไฮไลต์คือ สะพานไม้ไผ่ ห้วยทา ทอดยาวกลางผืนน้ำ รับลมชายทุ่งเต็มๆ แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ชุมชน ซึ่งเตรียมอาหารท้องถิ่นแบบชาวลาวเอาไว้ต้อนรับ พร้อมจัดบายศรีสู่ขวัญเสริมมงคล อบอุ่น และขลังเกินบรรยาย เป็นแบบพื้นบ้านชาวลาวก่อนแวะตลาดชุมชนที่บ้านหนองสามขา อ.โนนคูณ แวะเช็กอินจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี “ดอนแก้วหนองสามขา” อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ

โปรแกรมดังกล่าวนับเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการค้า การลงทุน กระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ รวมถึงในภาพใหญ่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เป็นการเปิดศักราชใหม่ที่แสดงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นกรีนซิตี้และเมืองน่าท่องเที่ยวอย่างเต็มภาคภูมิ

ไลฟ์สไตล์วันว่าง ครอบครัวสามีผู้พิพากษาและลูกๆ สามคน

ถามถึงไลฟ์สไตล์วันว่าง คุณอี๊ดมีครอบครัวที่อบอุ่น กับสามีผู้พิพากษา ทำงานอยู่ที่ จ.ขอนแก่น แต่งงานมาได้ประมาณ 20 ปี มีลูกสามคน กำลังเรียนหนังสือ ยามว่างก็จะใช้เวลาพักผ่อนร่วมกัน ไปทานข้าวพร้อมหน้าทุกอาทิตย์ เป็นกติกาของครอบครัว พร้อมรับฟังเรื่องราวต่างๆ แม้ลูกจะอยู่ในวัยรุ่นแล้วแต่ก็พยายามที่จะเป็นเพื่อนกับเขา ให้เขารู้สึกว่าคุยกับเราได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่ทิ้งเราไว้ข้างหลัง ครอบครัวและทีมงาน อี๊ดถือว่าต้องไปด้วยกัน ต้องรู้จัก เข้าใจ แล้วก็จริงใจ ปรับตัวเข้าหากัน ไม่มีทางหรอกว่าทำอย่างนี้แล้วจะถูกใจใครไปทั้งหมด สำคัญว่าได้สื่อสารกัน

ลองเริ่มต้นว่า ครอบครัว หรือ เพื่อนที่ทำงาน เป็นทีมเนื้อเดียวกันแล้ว ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ อย่างหนึ่งของอี๊ดที่คนจำได้ เจอครั้งต่อไปแล้วประทับใจ น่าจะเป็นเรื่อง “ความจำ” นี่แหล่ะค่ะ เราจะจำเกี่ยวกับตัวเขาได้ว่าคนนี้ชอบอะไร สไตล์ไหน แล้วก็จะพยายามจัดให้ถูกใจเขา เท่าที่เราทำได้นะคะ

หลักในการเลี้ยงลูก หลักของพี่ ไม่ทำสิ่งที่ดีไม่ดีให้ลูกเห็น พี่จะยึดมั่นในศีลธรรม พี่เชื่อว่าถ้าเราไม่ทำสิ่งที่ดี การปฏิบัติของเรานี่เป็นคำสอนที่ดีกวี่คำพูด และเข้าวัดเข้าวาแต่เด็ก จะพาลูกไปวัดแต่เช้า ด้วยความที่แม่ ทุ่มเททำงาน เวลาสอนลูก ไม่มีเวลามากนัก แต่ก็อยากให้ใช้เวลาร่วมกันให้คุ้มค่า พี่ไม่เล่นหวย เล่นเลข ล็อตเตอรี่ กินเหล้า ฯลฯ นานๆ จะดูทีวีสักครั้ง มีครั้งหนึ่งไปติดหนังดังๆ ดูทั้งวันจนลูกทัก บอกแม่ไม่เคยปิดอย่างนั้น หลังจากนั้น ไม่ดูเลย กลัวติด หลังจากนั้น เวลาว่างเปิดเพลงธรรมมะฟัง ทำงานหนักๆ จิตเราไม่สงบ พักจิต พักจากความวุ่นวาย

กิจกรรมยามว่าง-อาสาเพื่อส่วนรวม

พี่เป็นประธาน มูลนิธิบูชาคุณพระพุทธเจ้าและแทนคุณแผ่นดิน มูลนิธิของพี่ช่วยเหลือ พุทธศาสนา สาธารณสุข การศึกษา ฯลฯ บางทีออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาฟรี ด้วยความที่เราทำงาน เห็นคนยากจน เห็นคนด้อยโอกาส จึงอยากสร้างเครือข่ายแทนคุณความดี เงินเหลือจากเงินเดือน กินแค่อิ่ม ส่วนที่เหลือเข้ามูลนิธิฯแบ่งปันให้คนที่ด้อยโอกาส เพราะบางทีไปประสานงาน ได้เห็น บางทีส่วนราชการ ช่วยเหลือไม่ได้ พอทำไปเรื่อยๆ รู้จักคนนั้นคนนี้ มีคนที่เขาดี มีจิตที่อยากช่วยเหลือ ให้ของไปแจกจ่ายมา แต่ให้พี่ไปขอมั๊ย ไม่เคยนะคะ เพราะตั้งใจทำงานและทุ่มเท คนอื่นเห็นก็อยากทำด้วย