xs
xsm
sm
md
lg

“หมอเหรียญทอง” แฉปมไล่ออกพนักงานเปล อวดอ้างทำตัวตาสว่าง ฉีกธนบัตรยั่วยุเพื่อนร่วมงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เผยไล่ออกพนักงานเปลรายหนึ่ง หลังฉีกธนบัตรที่มีรูปพระบรมสาทิสลักษณ์ยั่วยุเพื่อนร่วมงาน แถมพยายามใช้กระแสสังคมกดดันให้จ่ายค่าชดเชย ทั้งที่พฤติกรรมยั่วยุให้เกิดความไม่สงบในองค์กร ล่าสุดมีกลุ่มคนอ้างนักสิทธิมนุษยชนช่วยเหลือเขาลี้ภัยทางการเมือง ระบุชอบอวดอ้างต่อเพื่อนร่วมงานว่าตัวเองตาสว่าง แถมเคยขอหนังสือรับรองไปสหรัฐฯ

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ได้ไล่ออกพนักงานเปลของโรงพยายาลรายหนึ่ง และไม่จ่ายค่าชดเชย เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังพนักงานเปลคนดังกล่าวมีพฤติกรรมขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน ฉีกธนบัตรที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์ออกเป็นชิ้นๆ เพื่อท้าทายเพื่อนร่วมงาน ถือว่าเป็นความประพฤติที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ หากไม่พอใจเพื่อนร่วมงานแล้วก็ควรแสดงออกกับเพื่อนร่วมงานโดยตรง ไม่ใช่ยั่วยุด้วยการทำลายพระบรมสาทิสลักษณ์เพื่อย่ำยีความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานให้เกิดความโกรธแค้น และนำมาซึ่งความไม่สงบภายในองค์กรที่ประกาศตนว่าจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พฤติกรรมของพนักงานดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมที่ท้าทายกฎเกณฑ์สังคมไทย ถือว่าเป็นการผิดวินัยอย่างร้ายแรง

พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าวว่า พนักงานเปลคนดังกล่าวได้ท้าให้ตนไล่ออกโดยจะต้องชดเชยเงินเลิกจ้าง ทั้งที่หากชดเชยเงินเลิกจ้างตามคำท้าทายแล้ว อาจกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานสังคมว่าพนักงานทำลายพระบรมสาทิสลักษณ์แล้วได้เงินชดเชยจากการไล่ออก ตนไม่มีวันยอมให้สังคมไทยมีบรรทัดฐานอย่างนี้ และเชื่อว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่ยอมรับบรรทัดฐานนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ การแจ้งความดำเนินคดีกรณีทำลายพระบรมสาทิสลักษณ์ในทางอาญานั้นมีความคลุมเครือ ทั้งยังอาจเสี่ยงจากคำพิพากษายกฟ้องโดยศาลยุติธรรมอีก ซึ่งจะทำให้กรณีทำลายพระบรมสาทิสลักษณ์นั้นเป็นกรณีที่ไม่ผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงใช้การลงโทษพนักงานรายนี้ทางวินัยด้วยกฎระเบียบของโรงพยาบาล ที่ถือว่าการทำลายพระบรมสาทิสลักษณ์เป็นกรณีความประพฤติที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์สังคมและนำมาซึ่งความโกรธแค้น ยั่วยุให้เกิดความไม่สงบภายในองค์กร เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงที่มีโทษให้ไล่ออกโดยไม่มีการชดเชยเงินเลิกจ้าง

ทั้งนี้ ตนได้ขอให้พนักงานรายนี้เปิดเผยไอพีแอดเดรส และข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือต่อหน้าพนักงานหลายคน เพื่อพิสูจน์ตนเองว่าไม่ได้มีพฤติกรรมต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่พนักงานรายนี้ไม่ยอมเปิดเผย จึงยิ่งเป็นการท้าทายให้ต้องไล่ออกโดยไม่ชดเชยเงินเลิกจ้าง ภายหลังพนักงานรายนี้ต้องการอาศัยกระแสสังคมเพื่อกดดันให้ตนและโรงพยาบาลเป็นจำเลยสังคม

ล่าสุด มีโทรศัพท์อ้างว่าเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกาจะช่วยเหลือพนักงานที่ถูกไล่ออกเพื่อลี้ภัยการเมือง ตนได้ชี้แจงว่าการไล่ออกพนักงานคนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ไม่เคยโพสต์ชื่อ-นามสกุลของพนักงานคนนี้เสียด้วยซ้ำ แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกลับกล่าวชื่อพนักงานที่ถูกไล่ออกได้อย่างถูกต้อง และทราบว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มคนที่ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในต่างประเทศ

“พนักงานคนนี้มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานมาโดยตลอดจนทำให้ไม่มีเพื่อนร่วมงานคบด้วย โดยมักจะแสดงตนว่าตนเป็นผู้รู้ ตาสว่าง ไม่โง่เขลาเหมือนเพื่อนร่วมงาน ดังนั้นเมื่อกระทำการฉีกธนบัตร จึงเป็นการก่อชนวนสร้างความไม่สงบ โดยจะมีการก่อเหตุทำร้ายพนักงานคนนี้ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสิ้นปีนี้ หากผมปล่อยให้เป็นไปจะเกิดปัญหาบานปลายและนำมาซึ่งการใช้ความรุนแรง เกิดผลเสียหายต่อทั้งพนักงานคนนี้ พนักงานคนอื่นๆ และโรงพยาบาล การที่ผมตัดสินใจไล่ออกไปเสีย แล้วเหตุความรุนแรงไม่เกิดขึ้น ผมคิดว่าผมตัดสินใจถูกต้องแล้วก่อนที่จะเกิดเหตุบานปลายและสายไป” พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว

พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าวว่า เมื่อหลายเดือนก่อนพนักงานคนนี้ต้องการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา โดยขอหนังสือรับรองจากโรงพยาบาลเพื่อประกอบการขอวีซ่ากับสถานทูตสหรัฐอเมริกา และได้ออกหนังสือรับรองตำแหน่งงานให้ สอดคล้องกับโทรศัพท์จากสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย. ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกาจะช่วยเหลือพนักงานที่ไล่ออกเพื่อลี้ภัยการเมือง จึงเห็นว่าตนไล่ออกพนักงานที่เป็นแนวร่วมขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจากโรงพยาบาลได้อย่างถูกต้องแล้ว โดยจะไม่ดำเนินคดีใดๆ แต่จะเก็บไว้เป็นช่องทางในการสืบค้นสำหรับทีมงานเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย






กำลังโหลดความคิดเห็น