MGR Online - ผู้บริหารธนาคารธนชาต เผย ภายในสิ้นปีนี้เตรียมเพิ่มฟีเจอร์แอปฯ “ธนชาต คอนเน็ก” ให้ใกล้เคียงกับธนาคารอื่น แจงคิดเรื่องเสถียรไว้ก่อน หลังธนาคารอื่นแห่ล่มช่วงสิ้นเดือน พร้อมพัฒนาอีกเวอร์ชันรองรับ NDID ตามนโยบายแบงก์ชาติ แจงปรับสาขาเป็น 3-4 รูปแบบ รองรับเฉพาะกลุ่ม มุ่งพัฒนาทักษะพนักงานให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแทนการขาย
นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ MGR Online ว่า ภายในสิ้นปี 2561 จะมีการอัปเดตแอปพลิเคชัน ธนชาต คอนเน็ก (Thanachart Connect) ซึ่งให้บริการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังจากพัฒนาระบบโดยเพิ่มคุณสมบัติ (Feature) ต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับธนาคารอื่น โดยใช้ระยะเวลามาระยะหนึ่ง
โดยธนาคารฯ จะคำนึงถึงความเสถียรของระบบก่อน เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่า ธนาคารอื่น มักประสบปัญหาแอปพลิเคชันล่ม โดยเฉพาะสิ้นเดือนที่มีปริมาณธุรกรรมสูง ขณะเดียวกัน ธนาคารฯ กำลังพัฒนาอีกเวอร์ชันหนึ่งเพื่อยกระดับการให้บริการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (National Digital ID หรือ NDID) ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่า จะแล้วเสร็จประมาณกลางปีหน้า
ที่ผ่านมา ได้พัฒนาระบบ ALDX (Automatic Lending Digital Experience) ให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเข้าสู่ระบบใดๆ เริ่มจากผู้ที่สนใจเช่าซื้อรถยนต์สามารถสมัครผ่านช่องทางดังกล่าวได้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ โดยให้เลือกระหว่างยื่นเอกสารเพิ่มเติมผ่านสาขา หรือให้เจ้าหน้าที่มารับเอกสารถึงที่ รวมทั้งยังตรวจสอบสถานะสินเชื่อได้อีกด้วย และต่อไปจะพัฒนาระบบนี้ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของธนาคาร
ส่วนการปรับรูปแบบสาขา ในกระแสการยุบสาขาของธนาคารแต่ละแห่งนั้น นายอนุวัติร์ กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารธนชาต มีสาขาประมาณ 500 แห่ง โดยจะปรับรูปแบบสาขาออกเป็น 3-4 รูปแบบ คือ Traditional Branch สาขารูปแบบดั้งเดิม, Wealth Center ให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน, Business Center ให้บริการด้านสินเชื่อรูปแบบต่างๆ และ Digital Branch สาขาอิเล็กทรอนิกส์
“ปัจจัยในการปรับรูปแบบสาขา ขึ้นอยู่กับทำเล ความต้องการของลูกค้า และความพร้อมของพนักงาน แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องทำทั้งหมดกี่สาขา ขึ้นอยู่กับผู้บริหารสาขาจะคัดเลือกในระดับเขต ถ้าสาขาไหนมีความพร้อมก็จะปรับรูปแบบ” นายอนุวัติร์ กล่าว
ในส่วนของพนักงานสาขาที่มีอยู่เดิม จะต้องพัฒนาทักษะจากพนักงานขาย (Sales) ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Advisor) โดยให้พนักงานคุยกับลูกค้า เพื่อให้รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร และให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น ออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อลูกค้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าอยู่กับธนาคารอย่างต่อเนื่อง สร้างกำไรต่อลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะสมัยก่อนลูกค้าเดินมาที่ธนาคารเยอะ แต่ต่อไปจะเดินมาที่ธนาคารน้อยลง
“การดำเนินการของแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน ธนาคารอื่นเกิดขึ้นมานานแล้ว มีจำนวนสาขาเยอะ ลูกค้าเยอะ แต่ของเราเริ่มจากปรับพื้นฐานของเราก่อน เช่น โมบายแบงกิ้ง จากลูกค้าใช้น้อยก็ใช้เยอะขึ้น ลูกค้าสองเท่า กำไรสองเท่า” นายอนุวัติร์ กล่าว
ปัจจุบัน ธนาคารธนชาตมีลูกค้าราว 4 ล้านราย แบ่งออกเป็นสินเชื่อรถยนต์ ราว 1 ล้านราย ยอดสินเชื่อคงค้าง 4 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นเจ้าตลาดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ส่วนเงินฝากและสินเชื่ออยู่ที่ 3 ล้านราย ประกอบด้วย เงินฝาก 6 แสนล้านบาท สินเชื่อประเภทอื่นคงค้าง 2 แสนล้านบาท รวม 8 แสนล้านบาท ประมาณการว่าสิ้นปี 2561 จะมีกำไรเกือบ 1.4 หมื่นล้านบาท