บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดตัวศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ในชื่อว่า “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” ภายใต้แนวคิด ‘การแบ่งปันที่ไม่สิ้นสุด’ ณ ตำบลหัวรอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีวัตถุประสงค์ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสีเขียว สะท้อนการใช้ชีวิตในเมืองอย่างมีคุณภาพร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดย มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวว่า
“เราริเริ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด Toyota Green Town หรือ โตโยต้า เมืองสีเขียว ที่สั่งสมขึ้นในโรงงานของเราสู่สังคมภายนอก โดยเริ่มจากการปลูกป่านิเวศ การสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการปลูกป่าชายเลน กิจกรรมลดเมืองร้อนด้วยมือเรา และกิจกรรมที่ทางโตโยต้าได้เริ่มโครงการขึ้น โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา นี้มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างชุมชน ที่ไม่เพียงแต่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบของศูนย์กลางเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงที่แห่งนี้ยังได้แสดงเห็นถึงผลของความพยายามที่จะประยุกต์หลัการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า โดยเรามีเจตนารมณ์ในการแบ่งปันบทเรียน และความสำเร็จจากโครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในสังคมเมือง

“โดยเมืองสีเขียวแห่งนี้จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของโตโยต้าที่ตั้งอยู่นอกโรงงานของเรา วันนี้ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้พร้อมแล้วที่จะต้อนรับทุกคนในการเข้ามาแสวงหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ ที่แห่งนี้จะเปิดให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยว ที่คาดหวังในการค้นคว้าข้อมูลและความรู้ที่น่าสนใจในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม 5 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ การบริหารจัดการน้ำ การใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทน และการเดินทางอย่างยั่งยืน
“เรายินดีเป็นอย่างมากถ้าทุกคนสามารถนำความรู้จากสถานที่แห่งนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ โตโยต้า เมืองสีเขียว ก็จะเป็นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุดท้ายนี้ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาที่ได้ให้ความร่วมมือต่อโครงการ ทางเราขอมอบโตโยต้า เมืองสีเขียวแห่งนี้ เป็นของขวัญให้แก่ชาวอยุธยา เพราะนี่คือความตั้งใจของโตโยต้าที่จะขับเคลื่อนความสุขสู่สังคมไทย เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต”

ด้าน นายกลินท์ สารสิน นายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ อดีตประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามของประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มางานวันเปิดโตโยต้า เมืองสีเขียวแห่งนี้ เมื่อได้ฟังประธานโตโยต้าพูด รู้สึกได้ว่าทางโตโยต้ามีความตั้งใจมากที่มีโครงการดีๆ อย่างนี้ ได้เกิดขึ้นมาในส่วนนี้ ได้มีการพัฒนาให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยในตอนนี้ถือว่าอยู่ที่ประมาณ 20% จาก GDP ของประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากของประเทศ และเกี่ยวข้องกับคนเป็นจำนวนมากของประเทศไทย”

“ตอนนี้รัฐบาลก็ใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นการกระจายรายได้ของประเทศ ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมาก มีอาหารอร่อย มีวัฒนธรรมที่ดีๆ มีเอกลักษณ์ที่ดี มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก ผมเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานองค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 4 ปีเต็ม ที่ผ่านมาทาง ททท.ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยอยู่ในแถวหน้าของโลก ตอนนี้เราได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ผ่านการร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน และโครงการประชารัฐ ขณะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็อยู่ในโครงการประชารัฐในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตอนนี้ก็มีการศึกษาในเรื่องของเนรมิตอยุธยา คล้ายๆ พัฒนาเมืองเกียวโตซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นในรูปแบบค่อยเป็นค่อยไปซึ่งยังไม่ล้มเลิกโครงการนะครับ โดยงบประมาณจากภาครัฐก็มีอยู่แล้ว และหวังว่าจะทำโครงการนี้ต่อไป

“นอกจากนี้แล้ว โตโยต้าก็ยังได้สนับสนุนการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวเมืองรองผ่าน Hilux Vigo ในแคมเปญ Amazing Thailand Go Local คือตอนนี้ทางเราพยายามโปรโมตในการท่องเที่ยวเมืองรอง หรือแคมเปญเที่ยวท้องถิ่นไทยชุมชนเติบโต เมืองไทยเติบโต การขานรับนโยบายการท่องเที่ยวจากจากรัฐบาล ผ่านการใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ สร้างและยกระดับให้ชุมชนมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นอกจากสอดคล้องกับนโยบายจาก ททท.แล้ว เรายังมีนโยบายไทยเท่ เมื่อเร็วๆ นี้ภายใต้แนวคิดว่าเมืองไทยมีพื้นที่ที่ทุกเวลา เพื่อเป็นการสร้างเรื่องราว หรือว่าสร้างมูลค่าเพิ่ม มีการสร้างเอกลักษณ์ต่างๆ เพื่อให้คนได้มาเที่ยวตรงนี้ด้วย เพื่อให้คนไทยรักเมืองไทยมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้แต่ละคนมาสัมผัสแล้ว มีความอิ่มใจในเรื่องต่างๆ แล้ว อย่างที่ผมได้บอกไปจากโครงการต่างๆ มีหลายอย่างให้ดูนะครับ มากินอาหารหรือเที่ยวก็ได้ เมื่อตอนนี้เรามีความหลากหลายแล้วก็ทำให้มาเที่ยวอย่างมีความสุข

สำหรับโตโยต้า เมืองสีเขียว สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ต่างจากที่อื่น อย่างที่ท่านผู้จัดการใหญ่บอกไปแล้วว่าอยากให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มาแวะรับประทานอาหารหรือเรื่องของชุมชนก็ได้ โดยใช้รถ Hamo หรือจักรยานก็ได้ ในฐานะของนายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ปีที่ผ่านมาเราฉลองครบรอบ 130 ปีของความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่น ซึ่งหมู่บ้านญี่ปุ่นก็มีมานานแล้ว แต่ก็มีความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นตัวเชื่อม เราก็มีการปรับปรุงทางหมู่บ้าน โดยมีนิทรรศการเสมือนจริง สามารถโหลดแอปพลิเคชันเข้าสู่มือถือท่านได้ จะได้รู้ว่าในอดีตหมู่บ้านนี้เป็นอย่างไร อีกทั้งเป็นถนนแรกที่เราได้ใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และที่สำคัญสามารถเปิดใช้งานง่ายๆ และทำให้เกิดความเพลิดเพลินในการเรียนรู้จากสถานที่ที่เคยเกิดขึ้นประมาณ 400-500 ปีมาแล้ว

“ผมขอขอบคุณโตโยต้าที่ช่วยสนับสนุนปรับปรุงนิทรรศการและที่จอดรถคาร์โก้ โครงการโตโยต้า เพื่อการท่องเที่ยว สุดท้ายนี้ ผมขอยินดีและขอร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้นกับอุทยานนี้ เพราะเชื่อมั่นโตโยต้าว่าที่แห่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสังคมที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประโยชน์ทั้งคนอยุธยาและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวแห่งนี้”

ขณะที่ ดร.สุจินทร์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวว่า “ในนามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องขอขอบคุณและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นประธานในการเปิดงานในครั้งนี้ ต้องขอชื่นชมว่าโครงการโตโยต้า เมืองสีเขียว จากทุกภาคส่วน รวมถึงทางโตโยต้าเองเป็นโครงการที่มาลงในส่วนท้องถิ่นแห่งนี้ซึ่งเป็นโครงการที่ดีมาก จากพื้นที่เล็กๆ ตรงนี้ เราจะเห็นในมิติต่างๆ ทั้งเรื่องความคิดในเรื่องการพัฒนา ทั้งในเรื่องห้องน้ำ หรือศูนย์พลังงานสีเขียว และในส่วนอื่นๆ ซี่งมีแนวคิดที่แบบว่าเห็นในนี้เป็นสีเขียว แต่ก็อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทางความคิดทั้งสิ้น เราขอขอบคุณตรงนี้

“อีกส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณ คุณกลินท์ ที่ช่วยแนะนำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่กว่า 10,600 ไร่ มีประชากรประมาณ 800,000 คน เรามีความโดดเด่นใน 3 ด้าน เรื่องแรกในเรื่องของการท่องเที่ยว ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวนั้นสามารถทำยอดถึง 10 ล้านคน อย่างปีที่ผ่านมาเราก็ได้จากทั้งกระแสจากละครต่างๆ ทำให้เกิดความขับเคลื่อนที่มาจากรากหญ้า สื่อมวลชนทั้งหมด ความร่วมมือจากส่วนราชการ สื่อมวลชน แม้แต่ทางรัฐบาล รวมถึงภาคส่วนและเอกชน เช่น ทางหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนา แล้วเราก็เป็นไม่กี่จังหวัดที่อยู่ภายใต้โครงการเนรมิตอยุธยาที่มีงบประมาณในการขับเคลื่อนกว่าหมื่นล้าน เป็นเรื่องรายละเอียดที่ต้องทำในส่วนนี้ต่อไป

“เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของอุตสาหกรรม เรามีกว่า 2,500 โรง เท่าที่ผมทราบโตโยต้าก็มีฐานการผลิตอยู่ที่อยุธยา ก็คิดว่าในอนาคตน่าจะมีการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนนี้ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องอุตสาหกรรม อย่างอยุธยามี GDP อันดับ 3 ของประเทศ รองจากชลบุรี และระยอง โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเอง ชาวญี่ปุ่นก็อยู่ที่นี่เยอะมาก เท่าที่ผมรับทราบอยุธยาก็มีประวัติศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กัน ถือว่าเป็นความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างสอง ประเทศตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แล้วในวันนี้ผมต้องขอขอบคุณแทนชาวอยุธยา รวมถึงหลายหน่วยงานที่เราไม่ได้เอ่ยถึงที่ได้ร่วมกัน ซึ่งท่านประธานก็ได้บอกว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ท่านอยากเห็นอยุธยาจากเมืองเล็กๆ ได้ร่วมกันพัฒนากันต่อไป ผมมั่นใจว่าในความร่วมมือตรงนี้จะทำให้เรามีความเข้มแข็งขึ้น มีการเติบโต มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ชาวอยุธยาได้ประโยชน์ร่วมกัน ได้เข้าใจรูปแบบและความร่วมมือต่างๆ”
โดย มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวว่า
“เราริเริ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด Toyota Green Town หรือ โตโยต้า เมืองสีเขียว ที่สั่งสมขึ้นในโรงงานของเราสู่สังคมภายนอก โดยเริ่มจากการปลูกป่านิเวศ การสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการปลูกป่าชายเลน กิจกรรมลดเมืองร้อนด้วยมือเรา และกิจกรรมที่ทางโตโยต้าได้เริ่มโครงการขึ้น โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา นี้มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างชุมชน ที่ไม่เพียงแต่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบของศูนย์กลางเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงที่แห่งนี้ยังได้แสดงเห็นถึงผลของความพยายามที่จะประยุกต์หลัการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า โดยเรามีเจตนารมณ์ในการแบ่งปันบทเรียน และความสำเร็จจากโครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในสังคมเมือง
“โดยเมืองสีเขียวแห่งนี้จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของโตโยต้าที่ตั้งอยู่นอกโรงงานของเรา วันนี้ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้พร้อมแล้วที่จะต้อนรับทุกคนในการเข้ามาแสวงหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ ที่แห่งนี้จะเปิดให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยว ที่คาดหวังในการค้นคว้าข้อมูลและความรู้ที่น่าสนใจในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม 5 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ การบริหารจัดการน้ำ การใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทน และการเดินทางอย่างยั่งยืน
“เรายินดีเป็นอย่างมากถ้าทุกคนสามารถนำความรู้จากสถานที่แห่งนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ โตโยต้า เมืองสีเขียว ก็จะเป็นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุดท้ายนี้ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาที่ได้ให้ความร่วมมือต่อโครงการ ทางเราขอมอบโตโยต้า เมืองสีเขียวแห่งนี้ เป็นของขวัญให้แก่ชาวอยุธยา เพราะนี่คือความตั้งใจของโตโยต้าที่จะขับเคลื่อนความสุขสู่สังคมไทย เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต”
ด้าน นายกลินท์ สารสิน นายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ อดีตประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามของประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มางานวันเปิดโตโยต้า เมืองสีเขียวแห่งนี้ เมื่อได้ฟังประธานโตโยต้าพูด รู้สึกได้ว่าทางโตโยต้ามีความตั้งใจมากที่มีโครงการดีๆ อย่างนี้ ได้เกิดขึ้นมาในส่วนนี้ ได้มีการพัฒนาให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยในตอนนี้ถือว่าอยู่ที่ประมาณ 20% จาก GDP ของประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากของประเทศ และเกี่ยวข้องกับคนเป็นจำนวนมากของประเทศไทย”
“ตอนนี้รัฐบาลก็ใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นการกระจายรายได้ของประเทศ ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมาก มีอาหารอร่อย มีวัฒนธรรมที่ดีๆ มีเอกลักษณ์ที่ดี มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก ผมเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานองค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 4 ปีเต็ม ที่ผ่านมาทาง ททท.ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยอยู่ในแถวหน้าของโลก ตอนนี้เราได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ผ่านการร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน และโครงการประชารัฐ ขณะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็อยู่ในโครงการประชารัฐในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตอนนี้ก็มีการศึกษาในเรื่องของเนรมิตอยุธยา คล้ายๆ พัฒนาเมืองเกียวโตซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นในรูปแบบค่อยเป็นค่อยไปซึ่งยังไม่ล้มเลิกโครงการนะครับ โดยงบประมาณจากภาครัฐก็มีอยู่แล้ว และหวังว่าจะทำโครงการนี้ต่อไป
“นอกจากนี้แล้ว โตโยต้าก็ยังได้สนับสนุนการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวเมืองรองผ่าน Hilux Vigo ในแคมเปญ Amazing Thailand Go Local คือตอนนี้ทางเราพยายามโปรโมตในการท่องเที่ยวเมืองรอง หรือแคมเปญเที่ยวท้องถิ่นไทยชุมชนเติบโต เมืองไทยเติบโต การขานรับนโยบายการท่องเที่ยวจากจากรัฐบาล ผ่านการใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ สร้างและยกระดับให้ชุมชนมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นอกจากสอดคล้องกับนโยบายจาก ททท.แล้ว เรายังมีนโยบายไทยเท่ เมื่อเร็วๆ นี้ภายใต้แนวคิดว่าเมืองไทยมีพื้นที่ที่ทุกเวลา เพื่อเป็นการสร้างเรื่องราว หรือว่าสร้างมูลค่าเพิ่ม มีการสร้างเอกลักษณ์ต่างๆ เพื่อให้คนได้มาเที่ยวตรงนี้ด้วย เพื่อให้คนไทยรักเมืองไทยมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้แต่ละคนมาสัมผัสแล้ว มีความอิ่มใจในเรื่องต่างๆ แล้ว อย่างที่ผมได้บอกไปจากโครงการต่างๆ มีหลายอย่างให้ดูนะครับ มากินอาหารหรือเที่ยวก็ได้ เมื่อตอนนี้เรามีความหลากหลายแล้วก็ทำให้มาเที่ยวอย่างมีความสุข
สำหรับโตโยต้า เมืองสีเขียว สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ต่างจากที่อื่น อย่างที่ท่านผู้จัดการใหญ่บอกไปแล้วว่าอยากให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มาแวะรับประทานอาหารหรือเรื่องของชุมชนก็ได้ โดยใช้รถ Hamo หรือจักรยานก็ได้ ในฐานะของนายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ปีที่ผ่านมาเราฉลองครบรอบ 130 ปีของความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่น ซึ่งหมู่บ้านญี่ปุ่นก็มีมานานแล้ว แต่ก็มีความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นตัวเชื่อม เราก็มีการปรับปรุงทางหมู่บ้าน โดยมีนิทรรศการเสมือนจริง สามารถโหลดแอปพลิเคชันเข้าสู่มือถือท่านได้ จะได้รู้ว่าในอดีตหมู่บ้านนี้เป็นอย่างไร อีกทั้งเป็นถนนแรกที่เราได้ใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และที่สำคัญสามารถเปิดใช้งานง่ายๆ และทำให้เกิดความเพลิดเพลินในการเรียนรู้จากสถานที่ที่เคยเกิดขึ้นประมาณ 400-500 ปีมาแล้ว
“ผมขอขอบคุณโตโยต้าที่ช่วยสนับสนุนปรับปรุงนิทรรศการและที่จอดรถคาร์โก้ โครงการโตโยต้า เพื่อการท่องเที่ยว สุดท้ายนี้ ผมขอยินดีและขอร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้นกับอุทยานนี้ เพราะเชื่อมั่นโตโยต้าว่าที่แห่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสังคมที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประโยชน์ทั้งคนอยุธยาและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวแห่งนี้”
ขณะที่ ดร.สุจินทร์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวว่า “ในนามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องขอขอบคุณและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นประธานในการเปิดงานในครั้งนี้ ต้องขอชื่นชมว่าโครงการโตโยต้า เมืองสีเขียว จากทุกภาคส่วน รวมถึงทางโตโยต้าเองเป็นโครงการที่มาลงในส่วนท้องถิ่นแห่งนี้ซึ่งเป็นโครงการที่ดีมาก จากพื้นที่เล็กๆ ตรงนี้ เราจะเห็นในมิติต่างๆ ทั้งเรื่องความคิดในเรื่องการพัฒนา ทั้งในเรื่องห้องน้ำ หรือศูนย์พลังงานสีเขียว และในส่วนอื่นๆ ซี่งมีแนวคิดที่แบบว่าเห็นในนี้เป็นสีเขียว แต่ก็อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทางความคิดทั้งสิ้น เราขอขอบคุณตรงนี้
“อีกส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณ คุณกลินท์ ที่ช่วยแนะนำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่กว่า 10,600 ไร่ มีประชากรประมาณ 800,000 คน เรามีความโดดเด่นใน 3 ด้าน เรื่องแรกในเรื่องของการท่องเที่ยว ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวนั้นสามารถทำยอดถึง 10 ล้านคน อย่างปีที่ผ่านมาเราก็ได้จากทั้งกระแสจากละครต่างๆ ทำให้เกิดความขับเคลื่อนที่มาจากรากหญ้า สื่อมวลชนทั้งหมด ความร่วมมือจากส่วนราชการ สื่อมวลชน แม้แต่ทางรัฐบาล รวมถึงภาคส่วนและเอกชน เช่น ทางหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนา แล้วเราก็เป็นไม่กี่จังหวัดที่อยู่ภายใต้โครงการเนรมิตอยุธยาที่มีงบประมาณในการขับเคลื่อนกว่าหมื่นล้าน เป็นเรื่องรายละเอียดที่ต้องทำในส่วนนี้ต่อไป
“เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของอุตสาหกรรม เรามีกว่า 2,500 โรง เท่าที่ผมทราบโตโยต้าก็มีฐานการผลิตอยู่ที่อยุธยา ก็คิดว่าในอนาคตน่าจะมีการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนนี้ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องอุตสาหกรรม อย่างอยุธยามี GDP อันดับ 3 ของประเทศ รองจากชลบุรี และระยอง โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเอง ชาวญี่ปุ่นก็อยู่ที่นี่เยอะมาก เท่าที่ผมรับทราบอยุธยาก็มีประวัติศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กัน ถือว่าเป็นความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างสอง ประเทศตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แล้วในวันนี้ผมต้องขอขอบคุณแทนชาวอยุธยา รวมถึงหลายหน่วยงานที่เราไม่ได้เอ่ยถึงที่ได้ร่วมกัน ซึ่งท่านประธานก็ได้บอกว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ท่านอยากเห็นอยุธยาจากเมืองเล็กๆ ได้ร่วมกันพัฒนากันต่อไป ผมมั่นใจว่าในความร่วมมือตรงนี้จะทำให้เรามีความเข้มแข็งขึ้น มีการเติบโต มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ชาวอยุธยาได้ประโยชน์ร่วมกัน ได้เข้าใจรูปแบบและความร่วมมือต่างๆ”