“ปานเทพ” ย้ำ เดินหน้าสู้เรื่องพลังงานต่อ ประเดินงานเสวนา “กระชากหน้ากากพลังงานก่อนปรับ ครม.” 8 พ.ย.นี้ อภิปรายประเด็นซักค้าน “ปิยสวัสดิ์” ที่ชิงถอนฟ้องไปก่อน ท้าขึ้นเวทีอภิปรายสลับกันได้เลย ถ้าไม่กลัวซักค้านจริง
วันที่ 6 พ.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “จุดยืนปานเทพหลังปิยสวัสดิ์ถอนฟ้อง” ตอนที่ 2
โดยกล่าวว่า การที่ นายปิยสวัสดิ์ ถอนฟ้องในครั้งนี้ ทำให้รู้ว่าถ้าผู้ถูกฟ้องไม่ต้องการไกล่เกลี่ย อย่าไปยอมเซ็นชื่ออะไร ให้ทนายโจทก์ไปเซ็นต่อศาลเอาเอง ครั้งนี้ตนยอมรับว่าพลาด เพราะไม่เชี่ยวพอทางกฎหมาย เลยเป็นผลให้ไม่สามารถฟ้องกลับได้
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า บทความ “บันทึกลับ! ไพ่ฝากจากทักษิณในรัฐบาลทหาร” ที่เกิดการฟ้องร้องนั้น ตนมีเจตนาเขียนเพื่อตั้งคำถามกับเหตุการณ์ที่บังเอิญหรือเจตนาหรือไม่อย่างไร คือ มี 2 บริษัท บริษัทนึงเคยรู้จัก นายทักษิณ มาสัมปทานปิโตรเลียม เป็นบริษัทเพิ่งตั้งใหม่ ทุนจดทะเบียนไม่เยอะ แล้วมาถือหุ้นกับบริษัทชิปปิง และได้รับสัมปทานรวม แต่ว่าหนังสือที่ได้รับนั้นเป็นหนังสือรับรองจากธนาคารที่สงสัยว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะ 2 รายนี้ไม่เคยมีอุปกรณ์ ไม่เคยมีประสบการณ์ ทำได้ไหมที่มาขอสัมปทานรวม แล้วขอเยอะด้วยจำนวน 3.78 หมื่นตรารางกิโลเมตร นายปิยสวัสดิ์เข้ามาได้ 16 วัน ก็เสนอเข้า ครม. ให้สัมปทานรอบที่ 19 ตนใช้คำว่าเร่งรัด ซึ่งนายปิยสวัสดิ์บอกว่าคำนี้ทำให้เขาเสียหาย
หลังจากนั้น มีการโอนสัมปทานให้กลุ่มเพิร์ลออย ปรากฏว่า เพิร์ลออยถูกซื้อกิจการโดยบริษัทลูกของกลุ่มทุนธุรกิจที่ดูไบ ซึ่งบังเอิญกลุ่มทุนนี้ไปซื้อสโมสรแมนฯซิตี้จากทักษิณ 1 หมื่นล้าน โดยที่ทักษิณซื้อมา 5 พันล้าน ลองคิดดูจะเกิดคำถามอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายปานเทพ กล่าวต่ออีกว่า นายปิยสวัสดิ์ สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ก่อนพ้นจากตำแหน่งเลขานุการของ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ ซึ่งเป็นประธาน กพช. มีมติให้ ปตท. ต้องแยกท่อส่งก๊าซออกมาอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการผูกขาด แต่พอสมัยรัฐบาลทักษิณ นายปิยสวัสดิ์ กลับมาเป็นเลขานุการของ นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ ประธาน กพช. กลับมีมติใหม่ไม่ต้องแยกท่อก๊าซก่อนการแปรรูป ปตท. แต่ให้แยกหลังระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว 1 ปี อยู่อีกรัฐบาลบอกให้แยกท่อก๊าซก่อน พออีกรัฐบาลบอกให้แยกทีหลัง ทรัพย์สินที่จะตกเป็นของรัฐ ก็เลยตกเป็นของ ปตท. บทความที่ตนเขียนอ้างอิงจากเอกสารราชการทั้งสิ้น ถ้ายังติดใจอยู่ฟ้องได้ หรือถ้าเห็นว่าสิ่งที่เขียนไม่ถูก อภิปรายคู่กันได้
นายปานเทพ ยังกล่าวว่า เชิญชวนร่วมฟังเสวนาวิชาการ “กระชากหน้ากากพลังงานก่อนปรับ ครม.” วันที่ 8 พ.ย.นี้ ที่อาคาร TST ซึ่งตนจะนำคำถามที่จะซักค้านนายปิยสวัสดิ์ในศาล แต่ชิงถอนฟ้องไปก่อน คัดออกมาอภิปรายประมาณ 10 คำถามจาก 500 คำถาม และประเด็นสำคัญ ต้องมีรัฐมนตรี4 ท่านพ้นตำแหน่งเพราะไปทำพรรคการเมือง ตนสงสัยว่าจะมีคนเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาควบตำแหน่งรมว.พลังงานเพื่อประเคนเอราวัณ-บงกชหรือไม่
ตนอยากขอเรียนเชิญนายปิยสวัสดิ์มาขึ้นเวทีกลางเลย ผลัดกันอภิปรายคนละรอบสลับกัน ให้เวลาเท่ากัน ถ้าไม่กลัวซักค้านจริงต้องกล้ารับคำท้านี้
เติมศักดิ์- ถ้าผู้ถูกฟ้องไม่ต้องการไกล่เกลี่ย ในที่นี้อาจารย์ปานเทพไม่ต้องการไกล่เกลี่ย
ปานเทพ- ไม่ต้องการไกล่เกลี่ย
เติมศักดิ์- แต่โจทก์ไม่ยอมสู้คดีในศาล
ปานเทพ- ครับ
เติมศักดิ์- ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น ก็จงให้โจทก์ไปถอนฟ้องคดีเอง ส่วนผู้ถูกฟ้อง ในที่นี้คืออาจารย์ปานเทพ อย่าไปยอมเซ็นต์ชื่ออะไร ควรปล่อยให้ทนายโจทก์ไปเซ็นต์ถอนฟ้องกับศาลเอาเอง ถูกต้องไหมครับ
ปานเทพ- ถูกต้อง
เติมศักดิ์- ข้อความนี้ถูกต้องไหม
ปานเทพ- ถูกต้องครับ ถูก เพราะเวลาในตอนนั้นผมอยู่ในฐานะเป็นจำเลยที่มาที่ศาล แล้วก็ถ้าผมไม่เซ็นต์เอง คือทนายเอง เขาก็เป็นทนายตามกฎหมาย ผมตั้งใจซักค้านเอง
เติมศักดิ์- วันนั้นก็มีทนายมาประกบด้วยใช่ไหมครับ
ปานเทพ- มี
เติมศักดิ์- คอยให้ความเห็นกฎหมาย
ปานเทพ- จริงๆ แล้ว ความเห็นอยู่ที่ผม แต่ผมไม่เขี้ยวพอทางด้านกฎหมาย ตั้งใจจะมาซักข้อเท็จจริง ก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ว่า เรามีสิทธิ์ที่จะไม่เซ็นต์ด้วย ศาลบอกให้เซ็นต์ ผมก็เซ็นต์ไป แต่ไม่คิดว่าจะเป็นผล ทำให้ผมไม่สามารถฟ้องกลับได้เท่านั้น
เติมศักดิ์- จากข้อความนี้หรือเปล่าครับว่า โจทก์จึงขออนุญาตศาลถอนฟ้องคดีนี้ โดยคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันว่า จะไม่ดำเนินคดีใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีก
ปานเทพ- เพราะผมคิดว่าทั้ง 2 ฝ่าย หมายถึงคดีที่เขาฟ้องผม ทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ติดใจในคดีที่ผมฟ้องอีก ไม่ได้คิดว่าตัวเองตัดสิทธิ์ที่จะไม่มีสิทธิ์ฟ้องเขา เราเนี่ยไม่ใช่นักกฎหมาย คำพวกนี้บางเราก็ไม่ทันได้สังเกต
เติมศักดิ์- อันนี้ยอมรับว่าพาด
ปานเทพ- ยอมรับว่าพาด
เติมศักดิ์- แต่พาดไปโดยบริสุทธิ์ใจ
ปานเทพ- บริสุทธิ์ใจ คิดว่า ยังคงเป็นคดีเก่า ที่ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ติดใจฟ้องผมในประเด็นเนื้อหาแบบนี้ ไม่ได้คิดว่าตัดสิทธิ์ตัวเองในการฟ้องกลับ แต่เอาเถอะ พอเซ็นต์มาแล้ว มันพาดแล้ว อย่างน้อยผมไม่ต้องทำอะไร ผมพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์ ผมไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย
เติมศักดิ์- ไม่ต้องลบบทความ ไม่ต้องลบลิงก์
ปานเทพ- ไม่ต้องลบลิงก์ ไม่ต้องลบบทความ เผยแพร่ต่อไปด้วย แล้วถ้าอยากจะฟ้องกลับ เอาเลย ผมพร้อมขึ้นศาลไต่สวนอีก ผมคิดว่าเขาไม่กล้าแล้ว ที่นี้ พอเสร็จ ศาลท่านก็ หลังจากเซ็นต์เสร็จ ท่านก็ให้ผมขึ้นไปไหว้พระชั้นบน ชั้น 10 ของศาลอาญา ผมก็ดีใจ ท่านพูดว่าเราทำความดีให้บ้านเมือง เราก็ไปไหว้พระ พระท่านเป็นพระปรำจำศาลอาญา ผมขออนุญาตไม่เอ่ยขั้นตอนนี้นะครับ แล้วก็ไปกราบไหว้ แล้วก็กลับมา ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ 2 อย่างพลิกแพลง คุณอานิก ออกมาโพสต์ว่าทนายทำโดยพลการ ถอนไปโดนที่ปานเทพไม่มีเงื่อนไขใดๆ กับปานเทพ ก็ไม่มีจริงๆ ครับผมไม่ต้องทำอะไรเลย นี่คือข้อที่หนึ่ง
เติมศักดิ์- เหมือนกับว่า ทำโดยไปไม่ได้ปรึกษาคุณปิยสวัสดิ์
ปานเทพ- ไม่จริงหรอกครับ ไม่อย่างนั้นก็ถูกถอนใบอนุญาตไปแล้ว ประการที่สอง ก็คือว่าเกิดมาพูดว่ามีการตีคลุม ว่าปานเทพตกลงเมื่อปี 58 มีการลบ 2 บทความ ไม่ลบ 1 บทความ แล้วก็มากระบวนไกล่เกลี่ย เอาดหตุการณ์ปี 58 ซึ่งเป้นเครือผู้จัดการ แล้วยผมไม่ได้เขียนบทความ เป็นคนอื่นเขียนบทความ ไปลบบทความบางอันของค่ายผู้จัดการมาปะปนกับคดีนี้ แล้วก็มีการบอกลบ 2 บทความ จาก 3 บทความออกไป ทำให้คนเข้าใจผิด ผมบอกว่านั้นมันเมื่อปี 58 คดีผมปี 2560 คนละคดีกัน และผมไม่ได้ลบอะไรเลย 3 บทความ ยังอยู่เหมือนเดิม แม้กระทั่งแผนภูมิอันนี้ ให้ดูนะครับ แผนภูมิที่หนึ่ง อันนี้นะครับ ว่าคุณปิยสวัสดิ์ดำเนินการขั้นตอนเสนอ ครม. ให้สัมปทานปิโตรเลียม ทั้งกลุ่มนอร์ลเทิร์น กัลฟ์ ออย แล้วก็อนุญาตโอนสัมปทานให้กลุ่มเพิร์ล ออย แล้วก็มีเสนอ ครม. ให้กับกลุ่มเพิร์ล ออย ทั้งหมด มันเขียนเรื่องนี้ 1 ขั้นตอน ผมวันนี้ยังโพสต์ได้ และให้ท่านผู้ชมแชร์ได้เลย เพราะว่าคุณปิยสวัสดิ์ถอนฟ้องไปแล้ว
เติมศักดิ์- โทษนะครับ ในแง่ข้อกฎหมาย ขอความรู้นิดหนึ่ง คนที่แชร์บทความนี้ก็เป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่อาจารย์ปานเทพ เขาถอนฟ้องอาจารย์ปานเทพ แต่คนที่แชร์บทความนี้ โดนฟ้องหมิ่นประมาท อาจารย์มีส่วนได้ไหม
ปานเทพ- ไม่มีปัญหา ได้ครับ คือผมคิดว่าอาจฟ้องได้ แต่ว่าคุณเรียกกระบวนการมันฟ้องซ้ำไม่ได้ในประเด็น แล้วก็อย่ากลัวครับ คนไหนถกฟ้องมาหาผมเลย ให้มาผมเลย ผมรู้ว่าจะทำอะไรต่อ พอเสร็จ ทั้ง 3 บทความ ขออนุญาตว่าคุณปิยสวัสดิ์อยู่ในบทความนี้ขนาดไหน ผมผู้ชมไปหาอ่านดูนะครับ ว่าบริษัทที่ถูกต้องสงสัยว่าไม่เคยมีประวัติทำปิโตรเลียมมาก่อน กับบริษัทชิปปิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทขนส่ง มาทำสัมปทานปิโตรเลียมได้ไง โดยที่ไม่มีประสบการณ์ตรงมาก่อน บริษัทการเงินที่รับรองจากธนาคารนั้นถูกต้อง และแตกต่างจากผู้รับสัมปทานทุกรายจริงรึเปล่า มีข้อสงสัยเต็มไปหมด และสุดท้าย 7 เดือนผ่านไป โอนให้บริษัทอื่น อย่างนี้ผมตั้งคำถามไว้
เติมศักดิ์- อาจารย์เล่าภาพรวมก่อนว่า บทความชุดบันทึกลับไพ่ฝากทักษิณ ในรัฐบาลทหาร ซึ่งลงตอนแรก 20 มกรา 60 เจตนาในการเขียนบทความนี้ เพื่ออะไร
ปานเทพ- เพื่อตั้งคำถามกับเหตุการณ์ที่มันบังเอิญเกิดขึ้น และเชื่อมโยงกันอย่างน่าสนใจว่าเป็นความบังเอิญหรือเป็นเจตนาอย่างไรหรือไม่ ให้ท่านผู้ชมลองอ่านดู คือกระบวนการอย่างที่ผมเล่าสรุปให้ฟัง มี 2 บริษัท ซึ่งบางบริษัท มีบริษัทหนึ่งเคยรู้จักคุณทักษิณ ชินวัตร มาสัมปทานปิโตรเลียม และเป็นบริษัทที่เพิ่งจะตั้งใหม่ทุนจดทะเบียนไม่เยอะ แล้วก็มาถือหุ้นกับบริษัทชิปปิ้ง มาถือในบริษัทชิปปิ้งและก็มาร่วมทุน และก็ได้สัมปทานรวม แต่ว่าหนังสือที่ได้รับนั้น เป็นหนังสือรับรองจากธนาคารที่สงสัยว่าถูกต้องหรือไม่ หรือแตกต่างจากผู้รับสัมปทานหรือไม่ ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีประสบการณ์มาก่อน จะทำได้ไหม มาขอสัมปทานรวมเยอะด้วยครับ 38,780 ตารางกิโลเมตร คุณปิยสวัสดิ์เข้ามาไม่นานมากนัก ก็ให้สัมปทาน เสนอเข้า ครม.
เติมศักดิ์- ย้ำนิดหนึ่งว่าตรงนี้เป็นนี่เป็นบริบทของสัมปทานรอบที่ 19 นะครับ
ปานเทพ- รอบที่ 19 แล้วก็ที่สำคัญก็คือคุณปิยสวัสดิ์เข้ามา 16 วัน เริ่มเสนอ ครม. แล้วว่าให้สัมปทานรอบที่ 19 ผมว่าเร่งรัดไหม คุณปิยสวัสดิ์ฟ้องผมว่าเร่งรัดเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรง ทำให้เขาได้รับการเสียชื่อ การเร่งรัดนี่เป็นการเสียหาย ผมและ
เติมศักดิ์- คือโดยเจตนาต้องการให้ข้อมูลนี้เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ในการให้สัมภาษณ์รอบที่ 21
ปานเทพ- ถูกต้องครับ ผมต้องการนำบทเรียนรอบที่ 19 มาเพื่อปฏิรูปกฎหมาย ก่อนที่จะมีการเปิดสมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21
เติมศักดิ์- เพื่อไม่ให้มีการเกิดข้อผิดพลาดซ้ำรอย
ปานเทพ- ไม่ให้เกิดข้อสงสัยแบบนี้ซ้ำอีกนะครับ ที่นี้เพราะอะไร เพราะเหตุการณ์หลังจากมีการโอนให้กับกลุ่มเพิร์ล ออย แล้ว บริษัทต้องสงสัยเหล่านี้ ที่ผมตั้งคำถามอยู่ แล้วมีการโอนให้เพิร์ล ออย เพิร์ล ออย ได้รับสัมปทานเพิ่มมากขึ้น ปรากฏว่ากลุ่มเพิร์ล ออย ถูกซื้อกิจการโดยบริษัทลูกของกลุ่มทุนธุรกิจที่ดูไบ ซึ่งบังเอิญ กลุ่มทุนนี้ไปซื้อสโมสรแมนซิตี้ของคุณทักษิณมา 5 พันล้าน แต่กลับขายให้กับกลุ่มนี้หมื่นล้าน ลองคิดดูสิครับ ท่านผู้ชมจะเกิดคำถามอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็น 1 ในบทความที่ผมตั้งคำถามไป โดยภาพรวมอย่างเร็วๆ อันที่สองก็คือเหตุการณ์ที่คุณปิยสวัสดิ์เรื่องท่อก๊าซ ตอนสมัยรัฐบาลคุณชวน หลีกภัย แล้วก็คุณปิยสวัสดิ์พ้นจากตำแหน่ง แต่ก่อนพ้นจากตำแหน่งไป คุณปิยสวัสดิ์เป็นเลขาฯ ของคุณศุภชัย พานิชภักดิ์ ซึ่งเป็นกพช. มีมติให้ปตท. แบ่งแยกกิจการท่อส่งก๊าซออกจากปตท. อย่างเด็ดขาด และเปิดให้บริการท่อก๊าซแก่บุคคลที่ 3 หมายถึงอยากให้ท่อมันอยู่ใน ปตท. ให้แยกมาตรงอ่าง เพราะว่ามันจะอันตรายเป็นการผูกขาด กลับกลายเป็นว่าพอคุณทักษิณกลับมา หลังจากที่คุณปิยสวัสดิ์พ้นตำแหน่งเพราะว่าอยู่ในตำแหน่งครบ 2 ครั้งแล้ว กลับกลายเป็นว่าคุณปิยสวัสดิ์กลับมาที่รัฐบาลคุณทักษิณใหม่ ควรนี้มติ กพช. คุณพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ ประธาน และคุณปิยสวัสดิ์เป็นเลขาฯ อีก มีมติใหม่ไม่ต้องแยกท่อก๊าซก่อนการแปรรูป ดูแลสิครับ แต่ให้ท่อก๊าซแยกตามกฎหมาย หลังระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ 1 ปี ปรากฏว่าคุณปิยสวัสดิ์เลขาฯ กพช. แจ้งผลต่อ กพช. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2544 ให้คณะรัฐมนตรีทราบ ท่านผู้ชมครับ คนหนึ่งบอกขอให้แยกท่อก๊าซก่อน มาอีกครั้งหนึ่ง อยู่อีกรัฐบาลหนึ่งบอกว่าให้แยกทีหลัง ทรัพย์สินแทนที่จะตกเป็นของรัฐ มันก็ตกเป็นของ ปตท. ที่นี้พอมันเกิดเหตุนี้ ปรากฏว่าคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ ทักท้วงการศึกษาให้แยกท่อก๊าซออกไปก่อนการแปรรูป โดยคุณปองพล อดิเรกสาร และบอกว่าหากปตท. ทำไม่ได้ ต้องแยกให้ชัดเจนอย่างแท้จริงภายใน 1 ปี คุณปิยสวัสดิ์แจ้งต่อที่ประชุม 17 กันยายน 2544 ว่าคณะการจัดตั้งปตท. ว่าการแยกกิจการท่อก๊าซออกเป็นบริษัทแยกออกมาหลังจากการแปรรูป 1 ปี ไม่มีปัญหา ปรากฏว่า 2 กันยายน 2544 คณะรัฐมนตรีแปรรูป ปตท. และได้รับท่อก๊าซเป็นทรัพย์สินไปด้วย 28 กรกฎาคม 2546 คือ 1 ปี 9 เดือน ผ่านไป จากเดิมบอกว่าหลังจากนั้นให้แยกภายใน 1 ปี 1 ปี 9 เดือนผ่านไปหลังการแปรรูป ปตท. คุณพรหมมินทร์ เลิศสุรีย์เดช รัฐมนตรีพลังงาน ทำเรื่องถึงเลาขาธิการคณะรัฐมนตรีขอถอนเรื่องการแยกกิจการท่อก๊าซไปปรับปรุงและเงียบหายไปจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน นี่คือเหตุการณ์เรื่องที่ 2 เรื่องท่อก๊าซ และผมก็โยงบทความที่ 3 ว่า คุณปิยสวัสดิ์สมัยคุณทักษิณ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เสนอว่าไม่ต้องแยกท่อก๊าซตามกฎหมายก่อนการแปรรูป ปตท. แต่ให้แยกท่อก๊าซออกมาหลังการแปรรูป ปตท. เข้าตลาดไปแล้ว 1 ปี ต่อมาคุณปิยสวัสดิ์ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเร่งเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 19 และ 20 ถ้าจะฟ้องผมอีกได้นะครับ หาว่าไม่เร่ง ผมมีหลักฐาน และต่ออายุสัมปทานปิโตรเลียม โดยได้ถูกตั้งข้อสงสัยว่า มีการอนุมัติให้ผู้รับสัมปทานที่คุณสมบัติไม่ครบถ้วนหรือไม่
เติมศักดิ์- ไม่ครบถ้วน
ปานเทพ- มีการอนุมัติให้โอนสัมปทานและให้สัมปทานกับกลุ่มเพิร์ล ออย ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจที่ซื้อทีมฟุตบอลของทักษิณ ในราคาสูงผิดสังเกตจริงหรือไม่ ในขณะที่ท่อก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ก็ไม่ได้ส่งคืนในส่วนที่อยู่ในทะเล และปตท. ยังผูกขาดทำกำไรคิดค่าเช่าท่อจากเอกชนและประชาชนไปกว่า 59-73 เท่าตัว เทียบกับที่เช่าจากกรมธนารักษ์หรือไม่ พอสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คุณปิยสวัสดิ์ เป็นประธานบอร์ด ปตท. ปตท. ยังคงมีจุดยืนไม่คืนท่อก๊าซธรรมชาติในทะเล ทำให้การผูกขาด และการทำกำไรอย่างมหาศาลให้ "ผู้ถือหุ้น" จากค่าเช่าท่อก๊าซที่คิดจากเอกชนและการไฟฟ้าต่อไป และเตรียมแยกกิจการน้ำมันและการค้าปลีก PTTOR ซึ่งกำไรดี เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยให้รัฐถือหุ้นต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้พ้นจากการบริหารและตรวจสอบในฐานนะรัฐวิสาหกิจ ใช่หรือไม่ ผมเขียนทั้ง 3 บทความนี้ด้วยหลักฐานทางราชการทั้งสิ้น ถ้ายังติดใจอยู่ ฟ้องได้ หรือว่าเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดไม่ถูก อธิปรายคู่กันได้ครับ ผมยินดีเลย (มีต่อ...)