“การบินไทย” โต้เพจสายดาร์ก ยันไม่ได้ปล่อยศพลงฮ่องกง มีแต่ผู้โดยสารป่วยหนัก

“การบินไทย” ชี้แจงเพจสายดาร์คกกล่าวหาว่าทิ้งศพผู้โดยสารที่ฮ่องกงก่อนบินไปเกาหลีใต้ กัปตันเผยวันนั้นมีผู้โดยสารป่วย ต้องประสานสนามบินที่ใกล้ที่สุด ลงจอดที่ฮ่องกงเพื่อประสานส่งโรงพยาบาล เสียเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนบินต่อไปเกาหลีใต้ ทำล่าช้ากว่า 2 ชั่วโมง เตือนคนให้ข่าวบิดเบือนจะดำเนินการตามกฎหมาย

วันนี้ (6 พ.ย.) จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจสายดาร์ก “God Of War:Ascension” ซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนผู้จัดทำ ได้เผยแพร่บทสนทนาของลูกเพจรายหนึ่งระบุว่า น้องสาวกับน้องเขยได้โดยสารเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG656 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปลายทางกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อพาแม่ไปเที่ยว เกิดเหตุไม่คาดคิด การบินไทยปล่อยร่างแม่ไว้ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่สามารถนำร่างแม่กลับประเทศไทยได้

โดยลูกเพจอ้างว่า ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปช่วย มีเพียงผู้ช่วยสถานีการบินไทยที่ฮ่องกงแนะนำว่าให้รอสถานทูต ต่อมา 2 พ.ย.มีเจ้าหน้าที่สถานทูตพาไปพิสูจน์อัตลักษณ์ อ้างรอไปตามระบบราชการ ไม่รู้ว่าจะได้กลับตอนไหน โดยโจมตีการบินไทยว่าแม้ไม่ใช่หน้าที่สายการบิน แต่ปล่อยผู้โดยสารแบบนี้ก็เคว้งคว้าง ภาษาก็ไม่ได้ ติดต่อใครก็ไม่ได้ จะติตต่อใครอะไรยังไง ทำให้มีชาวเน็ตโจมตีการบินไทยจำนวนมาก



ล่าสุด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า จากกรณีที่มีสื่อออนไลน์เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับเที่ยวบินที่ ทีจี 656 เส้นทางกรุงเทพฯ-โซล ประเทศเกาหลีใต้ ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง เพื่อทิ้งศพผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนเครื่องบินไว้ที่ท่าอากาศยานดังกล่าว ก่อนจะทำการบินในเส้นทางเดิมต่อนั้น

เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขอยืนยันว่าไม่ได้เกิดเหตุการณ์ตามที่สื่อออนไลน์ข้างต้นเผยแพร่แต่อย่างใด และขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

เที่ยวบินที่ ทีจี 656 เส้นทาง กรุงเทพฯ-โซล ประเทศเกาหลีใต้ ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2561 เวลา 23.43 น. บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 250 คน นักบินและลูกเรือจำนวน 17 คน โดยขณะทำการบินมุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ กัปตันได้รับรายงานว่ามีผู้โดยสาร 1 ท่าน มีอาการป่วยจากการประเมินอาการเบื้องต้นพบว่าจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

กัปตันจึงได้ประสานงานกับหน่วยงานภาคพื้นดิน เพื่อขอนำเครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเมื่อเวลา 03.18 น. (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่ใกล้ที่สุดและประสานในการนำผู้โดยสารส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาพยาบาลเป็นกรณีเร่งด่วน

หลังจากนั้น การบินไทยได้นำผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเวลาประมาณ 04.47 น. (เวลาท้องถิ่น) และเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเวลาประมาณ 09.13 น. (เวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ทำให้เที่ยวบินดังกล่าวล่าช้ากว่าตารางบินการปกติ ซึ่งเดิมมีกำหนดเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน เวลา 06.55 น. (เวลาท้องถิ่น)

ทั้งนี้ การบินไทยยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการของผู้โดยสารที่ป่วยหนักรายดังกล่าวแต่อย่างใด

เรืออากาศเอก ปรารถนาฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินสากลนั้น เมื่อเกิดเหตุผู้โดยสารบนเครื่องบินมีอาการป่วยหรือบาดเจ็บหนัก และจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน กัปตันจะติดต่อนายสถานีของท่าอากาศยานที่สายการบินทำการบินตรงที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อขอนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินและประสานในการนำผู้โดยสารส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาเป็นกรณีเร่งด่วน

หากผู้โดยสารที่ป่วยหนักมีครอบครัวหรือผู้ติดตามร่วมเดินทางมาด้วย ลูกเรือจะแนะนำให้ลงจากเครื่องบินเพื่อติดตามเฝ้าดูอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดด้วย

ทั้งนี้ หากผู้ใดนำข่าวอันไม่มีมูลความจริงไปเผยแพร่ต่อ และทำให้บริษัท การบินไทยฯ ได้รับความเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง บริษัทฯ จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป