นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.คมนาคม รมช.คมนาคม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าการ รฟม. ร่วมกันเปิดอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ด้านถนนรัชดาภิเษก ให้ประชาชนได้สัญจรอย่างเป็นทางการ
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่สี่แยกรัชโยธิน เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกันเปิดอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ด้านถนนรัชดาภิเษก ให้ประชาชนได้สัญจรอย่างเป็นทางการ
โดยอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ก่อสร้างตั้งแต่เดือน ก.พ. 2560 มีขนาด 4 ช่องจราจร กว้าง 16.80 เมตร ยาว 1,085 เมตร ความสูงช่องทางลอด 5.25 เมตร และต่ำกว่าถนน 7.50 เมตร แบ่งเป็น 2 ทิศทาง ได้แก่ ทิศทางฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าแยกรัชดา-ลาดพร้าว และฝั่งขาออกมุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ทิศทางละ 2 ช่องจราจร
ทั้งนี้ รฟม.ได้นำเทคนิคการก่อสร้างงานใต้ดินที่มีประสิทธิภาพเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ควบคู่ไปกับการจัดการจราจรแบบบูรณาการ ส่งผลให้การก่อสร้างแล้วเสร็จระยะเวลา 21 เดือน เร็วกว่าแผนงาน 3 เดือน คาดว่าจะสามารถรองรับปริมาณรถยนต์เฉลี่ยกว่า 2 แสนคันต่อวัน ซึ่งจะช่วยคลี่คลายปัญหาการจราจรบริเวณแยกรัชโยธิน รวมถึงช่วยระบายปริมาณการจราจรของถนนโดยรอบ นอกจากนี้ รฟม.จะเปิดสะพานข้ามแยก ด้านถนนพหลโยธิน ในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า วันนี้เราคงได้เห็นความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป้าหมายหลักในการพัฒนาประเทศระยะยาวทุกมิติมีทั้งหมด 6 ยุทธศาสตร์ หนึ่งในนั้นคือเรื่องการคมนาคมขนส่งของประเทศ โครงการนี้โชคดีที่รัฐบาลได้เร่งรัดแล้วเสร็จก่อนระยะเวลา 3 เดือน ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร
ตนได้ให้แนวทางแก่รัฐมนตรีไปแล้วว่าเราจะต้องมีวิธีการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด เพราะเราได้หยุดการพัฒนาในลักษณะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนไปนานพอสมควร การสร้างสะพาน การทำอุโมงค์ มีปัญหาทั้งหมด เรายังมีหลายทางแยกที่จะต้องดำเนินการ จึงขอความเห็นใจรัฐบาลด้วย ถ้าทุกคนเข้าใจร่วมกันก็จะรู้สึกมีความหวังและมีอนาคต ซึ่งจะทำให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมรวดเร็วมากขึ้นเพื่อรองรับทุกกลุ่มเป้าหมาย อำนวยความสะดวกไปถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะให้บริการได้ในเดือนธันวาคมนี้ โดยให้บริการฟรี 4 เดือน
ขอให้ประชาชนได้เข้าใจว่าเราไม่ได้มุ่งหวังที่จะให้ประชาชนเดือดร้อน วันนี้ก็เป็นน่ายินดีที่โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจอย่างเข้มแข็งของทุกภาคส่วน เร่งรัดการก่อสร้างแล้วเสร็จเร็วกว่าแผนงานที่กำหนด ขอให้เข้าใจว่าที่ต้องอดทนรอมา 20 กว่าเดือนมันได้อะไรบ้าง ต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ แล้วจะเกิดความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่เป็นเจ้าของที่ดิน ถนนทุกเส้นมีปัญหาทั้งหมด มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นชอบที่จะผ่านที่ดินของตนเอง โดยเฉพาะการก่อสร้างใดๆ ต้องผ่านที่ดินของเอกชน การเวนคืนต่างๆ ต้องใช้งบประมาณมหาศาลมากมาย เพราะฉะนั้นต้องให้คนมีหลักคิด ให้คนไทยเรียนรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะเกิดผลประโยชน์ในอนาคต หลายคนก็ใจร้อน ก็อยากให้ทุกคนได้เข้าใจว่าวันนี้ เป็นการทำงานของรัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อคนอื่น แต่ทำเพื่อประชาชนทั้งสิ้น
