เปิดตัวตน...สาวน้อยวัย 15 ปี ลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส นางเอกใหม่แกะกล่องผู้รับบท “นอร์ร่า” ในภาพยนตร์เรื่อง “โนราห์” ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเอกชัย ศรีวิชัย
เรียกได้ว่าเพียบพร้อมทั้งความสวย และความสามารถเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากฝีมือทางด้านการแสดงแล้ว เธอยังเป็นถึงแชมป์กีฬาขี่ม้าระดับเยาวชนประจำปี ค.ศ. 2017 อีกด้วย
ทำความรู้จักตัวตนของ “เจด-แองเจลิน่า โฟรม็องโต้” ให้มากขึ้นได้ในบรรทัดถัดต่อจากนี้…

แจ้งเกิดเรื่องแรกบนจอเงินภายใต้การผลักดันของเอกชัย ศรีวิชัย
กับบท “นอร์ร่า” ในภาพยนตร์เรื่อง “โนราห์”
ภาพยนตร์โนราห์ถือได้ว่าเป็นการแสดงเรื่องแรกของเจดเลยค่ะ เรื่องนี้เจดรับบทเป็น “นอร์ร่า” ค่ะ คาแรกเตอร์นี้เป็นผู้หญิงลูกครึ่ง เรียบร้อย น่ารัก จิตใจดี ยิ้มแย้ม และได้ไปค้นพบวัฒนธรรมของภาคใต้
นอร์ร่าและเจดมีความเหมือนและแตกต่างกันอยู่บ้างนะคะ ความแตกต่างคือ เจดอาจจะเป็นตัวของตัวเอง สนุกสนาน เฮฮา ร่าเริง และเสียงดังหน่อยเวลาอยู่กับเพื่อนๆ แต่หนูก็ยังมีความเรียบร้อยอยู่นะคะ (หัวเราะ) ส่วนที่เหมือนนอร์ร่าก็น่าจะตรงที่ชอบกีฬา ชอบการเดินทางอะไรแบบนี้เหมือนกันค่ะ
จริงๆ เหตุผลที่ลุงเอก (เอกชัย ศรีวิชัย) ให้เจดรับบทนี้ก็เนื่องมาจากลุงเอกอยากได้ความเป็นธรรมชาติ อยากได้คนที่ไม่รู้จักวัฒนธรรมไทย ไม่รู้จักวัฒนธรรมของภาคใต้ ไม่รู้จักการรำโนราห์มาก่อนเลย คนดูจะเห็นได้ว่าซีนที่นอร์ร่าได้เห็นการรำโนราห์ นอร์ร่าเขาจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับวัฒนธรรมของภาคใต้มากๆ โดยคาแรกเตอร์นี้ตรงกับตัวหนูพอดี เพราะหนูก็ไม่รู้จักวัฒนธรรมเหล่านี้มาก่อนเลยเช่นกันค่ะ

ลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส พูดได้ 3 ภาษา
แม้ไม่คล่องภาษาไทย แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการแสดง
พื้นฐานเจดเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสค่ะ คุณแม่เป็นคนภาคอีสาน เป็นนักธุรกิจมีกิจการร้านอาหารอยู่ย่านสีลม ส่วนคุณพ่อเป็นคนฝรั่งเศส ส่วนตัวหนูเกิดที่ประเทศฝรั่งเศส และได้ไปกลับระหว่างไทยและฝรั่งเศสอยู่ตลอด หลังจากนั้นก็ได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกตอนอายุ 10 ปี และเรียนที่โรงเรียนนานาชาติฝรั่งเศส ทางโรงเรียนจะไม่มีเรียนภาษาไทย และตอนอยู่ที่ฝรั่งเศสก็ไม่ได้พูดภาษาไทยด้วย จึงทำให้เจดไม่คล่องภาษาไทยเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็สามารถพูดภาษาไทยได้บ้างแล้ว และพูดได้ทั้งหมด 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศสค่ะ
การเตรียมตัวเพื่อมาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ จริงๆ ตอนที่ ลุงเอก (เอกชัย ศรีวิชัย) จะให้ไปร่วมงานเจดก็รู้สึกกลัวนิดหน่อยค่ะ เพราะว่าภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง ความยากที่สุดของเจดน่าจะอยู่ที่เรื่องภาษาเลยค่ะ ก่อนหน้านี้เจดพูดภาษาไทยไม่ได้ อ่านภาษาไทยไม่ออก เจดเลยต้องเข้าคลาสเรียนภาษาไทย เรียนการแสดงกับครูร่ม (ร่มฉัตร ธนาลาภพิพัฒน์) เรียนวันละ 3-4 ชั่วโมง ทุกสัปดาห์ แล้วก็ต้องเวิร์กชอปก่อนด้วยค่ะ
นอกจากนี้แล้ว เจดจะหมั่นพูดภาษาไทยกับคุณแม่ พูดกับเพื่อนๆ เพื่อให้คล่องที่สุด เพราะเมื่อก่อนเจดกับคุณแม่จะพูดภาษาอังกฤษกันตลอด แต่พอได้เล่นบทนี้เจดจะเปลี่ยนมาพูดภาษาไทยกับคุณแม่แทน ให้คุณแม่เป็นคนซ้อมบทให้ที่บ้าน โดยเจดจะอ่านบทเป็นคาราโอเกะ และจำบทเอาค่ะ
ในกองถ่าย คุณลุงเอก (เอกชัย ศรีวิชัย) ช่วยสอนหนูเยอะมากเลยค่ะ เวลาเข้าซีนไหนคุณลุงเอกจะแนะนำและอธิบายทั้งหมด เลยทำให้เจดเข้าใจว่าจะต้องเล่นยังไง พูดยังไง และแสดงออกมายังไงค่ะ หรือพี่ๆ นักแสดงคนอื่นๆ ก็ช่วยแนะนำหนูด้วยเหมือนกันค่ะ เพราะแรกๆ ที่เข้ากองไปกองถ่าย เจดอายและไม่อยากพูดกับใครเลย จะอยู่แต่กับคุณแม่ ยกตัวอย่างเช่น พี่ไพศาล (ไพศาล ขุนหนู) โดยเจดกับพี่ไพศาลจะต้องมีฉากเลิฟซีน แต่ตอนแรกที่ไปกองถ่ายเราไม่ได้สนิทกัน เจดเลยจะอายนิดหน่อย แต่หลังๆ ก็โอเคมากขึ้น ก็คุยกันสนุกสนานเฮฮา สอนพูดภาษาไทย ภาษาใต้ ภาษาอังกฤษ แลกเปลี่ยนกันค่ะ
ตอนนี้ถามว่าภาษาไทยยังยากอยู่ไหม เจดว่าถ้าเป็นการพูดก็ไม่ได้ยากมากแล้วนะคะ ที่ยากเลยน่าจะเป็นเรื่องของการอ่านและการเขียนมากกว่าที่ถือว่ายากที่สุดเลยค่ะ ซึ่งเจดเข้าใจภาษาไทยมากขึ้นแล้วค่ะ แต่อาจจะมีปัญหาบ้างเวลาพูด เพราะบางทีเจดยังคิดหรือนึกคำไม่ออกเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าคิดเร็วมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ถ้าเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เจดน่าจะพูดได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ

หลงใหลการเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ
ดีกรีแชมป์นักกีฬาขี่ม้าระดับเยาวชน
จริงๆ แล้วทางบ้านเจดสนับสนุนให้เจดเล่นกีฬามากเลยนะคะ เจดค่อนข้างจะเหมือนคุณพ่อ เพราะคุณพ่อเล่นกีฬาเยอะมาก แต่ก่อนคุณพ่อเป็นนักกีฬาฟุตบอลด้วย จึงทำให้หนูชอบเล่นกีฬาตามไปด้วย
ส่วนตัวเจดชอบกีฬาขี่ม้ามากค่ะ เจดเริ่มขี่ม้าตอนอายุ 3 ขวบ ตอนนั้นหนูอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส หนูได้เห็นโฆษณาทางทีวี เห็นคนขี่ม้าในโฆษณา แล้วหนูชอบมาก จึงอยากขี่ม้าบ้าง เลยบอกให้คุณปู่พาไป และทุกครั้งที่ได้ไปขี่ม้าหนูแทบไม่อยากกลับบ้านเลยนะคะ อยากจะอยู่นานๆ มีความสุขทุกครั้งเลยค่ะ
เจดเริ่มไปแข่งเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตอนอายุได้ประมาณ 7-8 ขวบ เริ่มแข่งที่ประเทศฝรั่งเศสก่อน แต่ก็ไม่เคยชนะเลยค่ะ แพ้มาตลอด เพราะอาจจะด้วยความประหม่าด้วย และตอนนั้นก็ยังไม่มีม้าเป็นของตัวเองด้วย แต่หนูก็ไม่เคยย่อท้อนะคะ คิดแต่ว่าแพ้ก็ไม่เป็นไร แข่งใหม่ก็ได้ หนูเลยอาศัยความอดทนในการฝึกฝนบ่อยๆ เพื่อให้ม้าได้คุ้นเคยกับเรา เพื่อให้เรารู้จักวิธีการควบคุมม้า และรู้จักวิธีการขี่ที่ถูกต้องค่ะ
พอย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยเจดก็ได้ซื้อม้าเป็นของตัวเอง ม้าตัวแรกของหนูชื่อว่า “ฟรังท์กี้” ค่ะ แต่ว่ามีความจำเป็นที่จะต้องขายไป และได้เปลี่ยนม้าใหม่ชื่อว่า “จอร์จี้” จนได้มีโอกาสเข้าแข่งขันอีก และคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นความสูง 1 เมตร ประจำปี 2017 (Thailand Championship Junior B 2017) มาค่ะ
ตอนนี้หนูอยู่กับกีฬาประเภทนี้มา 12 ปีแล้ว การขี่ม้าทำให้หนูมีความสุข ผ่อนคลายและคลายเครียดได้ดี ตอนขี่ม้าหนูจะไม่คิดเรื่องต่างๆ หนูจะโฟกัสอยู่แต่กับการขี่ม้าอย่างเดียว อีกอย่างหนูมองว่าการขี่ม้ามีเสน่ห์มากเลยนะคะ ช่วยทั้งเรื่องสุขภาพและจิตใจได้ดีมากๆ เลยค่ะ
นอกจากกีฬาขี่ม้าแล้ว เจดยังเล่นกีฬาได้อีกหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น เรือใบ สโนว์บอร์ด เวกบอร์ด บาสเกตบอล รักบี้ เทควันโด คาราเต้ หรือกีฬาอะไรเป็นประเภทเอ็กซ์ตรีม (Extreme) เจดจะชอบทั้งหมดเลยค่ะ

นักแสดง หรือ นักกีฬา
กับเส้นทางความฝันก้าวต่อไปในอนาคต
ถามว่าทั้งสองอย่างนี้เจดชอบอะไรมากกว่ากัน จริงๆ เจดชอบทั้งสองอย่างเลยนะคะ แต่ในอนาคตเจดอาจจะไม่ได้เป็นทั้งนักแสดงหรือนักกีฬาก็ได้
ในเรื่องของการแสดง ถ้าเป็นไปได้เจดอาจจะรับงานแสดงอีก และถ้าเจดอยากจะเป็นนักแสดงหรืออยากจะเข้าวงการบันเทิงจริงๆ เจดคงจะต้องไปเรียนภาษาไทยเพิ่มอีก เพราะหนูต้องมีพื้นฐาน ต้องพูดภาษาไทยและอ่านภาษาไทยให้คล่องกว่านี้ค่ะ
ส่วนความฝันอื่นๆ จริงๆ ด้วยความที่หนูยังเด็ก หนูก็ยังหาตัวตนและเปลี่ยนไปเรื่อย อย่างก่อนหน้านี้ตอนอายุ 11 ขวบ หนูมีความฝันว่าอยากจะเป็นทนายความ แต่พอได้เห็นอะไรมากขึ้น เติบโตมากขึ้น ตอนนี้เลยอยากจะเป็นผู้จัดการโรงแรมใหญ่ๆ ค่ะ เจดมีแพลนว่าถ้าเรียนจบจากที่โรงเรียนนานาชาติแล้ว เจดจะกลับไปที่ประเทศฝรั่งเศส ไปเรียนโรงเรียนธุรกิจต่อที่นั่น แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ หนูจะเลือกเส้นทางที่คิดว่าตัวเองทำแล้วมีความสุขที่สุดค่ะ (ยิ้ม)

มากกว่าชื่อเสียงคือโอกาสและประสบการณ์ที่ได้รับ
ฝากผลงานเรื่องแรกในชีวิต
ส่วนตัวเจดก็ชื่นชอบการแสดงมากเลยนะคะ แม้ว่าหนูต้องตื่นแต่เช้าตรู่และถ่ายเสร็จดึกมาก แต่ก็เป็นอะไรที่สนุกมาก นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากเลยค่ะ
เรื่องนี้ทำให้เจดได้ประสบการณ์มากมายหลายอย่าง ทั้งได้เดินทาง ทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมของภาคใต้ เจดได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของการรำโนราห์ว่าเป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของภาคใต้ ได้ทราบตำนานของพ่อขุนศรีศรัทธาว่าเป็นครูมโนราห์ และการได้ไปถ่ายทำที่ภาคใต้ เจดยังได้เห็นธรรมชาติ เจดชอบเกาะ ชอบทะเลของภาคใต้ และชอบภาคใต้มาก ที่นั่นสวยมากเลยค่ะ (ยิ้ม) อีกอย่างเจดยังได้รู้ว่าอาหารที่ภาคใต้เผ็ดมาก (หัวเราะ) หนูได้ทานหลายเมนูเลย อร่อยมากและชอบมากเลยค่ะ
ท้ายนี้เจดอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเป็นภาพยนตร์ที่สามารถทำให้เรียนรู้วัฒนธรรม วัฒนธรรมนี้ไม่ใช่แค่ของภาคใต้นะคะ แต่เป็นวัฒนธรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยเลยค่ะ อีกอย่างเรื่องนี้ดูแล้วไม่น่าเบื่อแน่นอนค่ะ เพราะไม่ได้พูดถึงแค่วัฒนธรรม พูดถึงแค่ประวัติศาสตร์เพียงเท่านั้นนะคะ แต่ยังสอดแทรกไปด้วย ความสนุกสนาน รวมทุกอย่างเข้าไปทั้งแอ็กชัน คอเมดี้ ดรามา แฟนตาซี เรียกว่าครบรสเลยค่ะ ที่สำคัญภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของหนู ที่หนูทุ่มเทและทำเต็มที่มากๆ เลยค่ะ

**เรื่องย่อโนราห์
เรื่องราวของนอร์ร่า (เจด-แองเจลิน่า โฟรม็องโต้) สาวลูกครึ่งที่เดินทางตามพ่อแม่มาทำธุรกิจที่จังหวัดพัทลุง แต่ระหว่างที่เธอได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอยู่นั้น เธอก็ได้เจอกับเรื่องประหลาดทำให้ข้ามมิติกาลเวลาไปยังอดีต และได้พบกับสิงหร (ไพศาล ขุนหนู) ชายหนุ่มรูปงาม พร้อมเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของตำนานที่ทำให้คน 2 ภพมาบรรจบพบกัน ผ่านการผจญภัย เหตุการณ์ต่างๆ จนเกิดเป็นความผูกพันและกลายเป็นความรักที่เป็นตำนาน


Profile
ชื่อ สกุล : แองเจลิน่า โฟรม็องโต้
ชื่อเล่น : เจด
วันเกิด : 21 สิงหาคม ค.ศ. 2003
อายุ : 15 ปี
ส่วนสูง : 170 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 50 กิโลกรัม
การศึกษา : Year 10 โรงเรียนนานาชาติฝรั่งเศส
ความสามารถพิเศษ : ขี่ม้า, เต้น, ร้องเพลง
3 นิยามความเป็นเจด : เสียงดัง ตรงไปตรงมา และกินเก่ง
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต : ครอบครัว เพื่อนสนิท โทรศัพท์มือถือ และเพลง
สไตล์เพลงที่ชอบ : เพลงฝรั่งเศส เพลงอเมริกัน แนว R&B, HIPHOP ฯลฯ
สไตล์การแต่งตัว : Street Wear และจะชอบแต่งตัวแนวซีรีส์ของอเมริกาที่ดังมากๆ เลยนั่นก็คือเรื่อง “Friends”
สเปก : ไม่มีสไตล์ ถ้าชอบก็คือชอบเลยค่ะ แต่จะชอบโซนยุโรป ผมสีน้ำตาล ตาสีฟ้า ที่สำคัญต้องเป็นคนฉลาด ตลก และมีมารยาท
ผลงานการแสดง : ภาพยนตร์เรื่อง “โนราห์”


เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ, IG @fromenthoe
เรียกได้ว่าเพียบพร้อมทั้งความสวย และความสามารถเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากฝีมือทางด้านการแสดงแล้ว เธอยังเป็นถึงแชมป์กีฬาขี่ม้าระดับเยาวชนประจำปี ค.ศ. 2017 อีกด้วย
ทำความรู้จักตัวตนของ “เจด-แองเจลิน่า โฟรม็องโต้” ให้มากขึ้นได้ในบรรทัดถัดต่อจากนี้…
แจ้งเกิดเรื่องแรกบนจอเงินภายใต้การผลักดันของเอกชัย ศรีวิชัย
กับบท “นอร์ร่า” ในภาพยนตร์เรื่อง “โนราห์”
ภาพยนตร์โนราห์ถือได้ว่าเป็นการแสดงเรื่องแรกของเจดเลยค่ะ เรื่องนี้เจดรับบทเป็น “นอร์ร่า” ค่ะ คาแรกเตอร์นี้เป็นผู้หญิงลูกครึ่ง เรียบร้อย น่ารัก จิตใจดี ยิ้มแย้ม และได้ไปค้นพบวัฒนธรรมของภาคใต้
นอร์ร่าและเจดมีความเหมือนและแตกต่างกันอยู่บ้างนะคะ ความแตกต่างคือ เจดอาจจะเป็นตัวของตัวเอง สนุกสนาน เฮฮา ร่าเริง และเสียงดังหน่อยเวลาอยู่กับเพื่อนๆ แต่หนูก็ยังมีความเรียบร้อยอยู่นะคะ (หัวเราะ) ส่วนที่เหมือนนอร์ร่าก็น่าจะตรงที่ชอบกีฬา ชอบการเดินทางอะไรแบบนี้เหมือนกันค่ะ
จริงๆ เหตุผลที่ลุงเอก (เอกชัย ศรีวิชัย) ให้เจดรับบทนี้ก็เนื่องมาจากลุงเอกอยากได้ความเป็นธรรมชาติ อยากได้คนที่ไม่รู้จักวัฒนธรรมไทย ไม่รู้จักวัฒนธรรมของภาคใต้ ไม่รู้จักการรำโนราห์มาก่อนเลย คนดูจะเห็นได้ว่าซีนที่นอร์ร่าได้เห็นการรำโนราห์ นอร์ร่าเขาจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับวัฒนธรรมของภาคใต้มากๆ โดยคาแรกเตอร์นี้ตรงกับตัวหนูพอดี เพราะหนูก็ไม่รู้จักวัฒนธรรมเหล่านี้มาก่อนเลยเช่นกันค่ะ
ลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส พูดได้ 3 ภาษา
แม้ไม่คล่องภาษาไทย แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการแสดง
พื้นฐานเจดเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสค่ะ คุณแม่เป็นคนภาคอีสาน เป็นนักธุรกิจมีกิจการร้านอาหารอยู่ย่านสีลม ส่วนคุณพ่อเป็นคนฝรั่งเศส ส่วนตัวหนูเกิดที่ประเทศฝรั่งเศส และได้ไปกลับระหว่างไทยและฝรั่งเศสอยู่ตลอด หลังจากนั้นก็ได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกตอนอายุ 10 ปี และเรียนที่โรงเรียนนานาชาติฝรั่งเศส ทางโรงเรียนจะไม่มีเรียนภาษาไทย และตอนอยู่ที่ฝรั่งเศสก็ไม่ได้พูดภาษาไทยด้วย จึงทำให้เจดไม่คล่องภาษาไทยเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็สามารถพูดภาษาไทยได้บ้างแล้ว และพูดได้ทั้งหมด 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศสค่ะ
การเตรียมตัวเพื่อมาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ จริงๆ ตอนที่ ลุงเอก (เอกชัย ศรีวิชัย) จะให้ไปร่วมงานเจดก็รู้สึกกลัวนิดหน่อยค่ะ เพราะว่าภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง ความยากที่สุดของเจดน่าจะอยู่ที่เรื่องภาษาเลยค่ะ ก่อนหน้านี้เจดพูดภาษาไทยไม่ได้ อ่านภาษาไทยไม่ออก เจดเลยต้องเข้าคลาสเรียนภาษาไทย เรียนการแสดงกับครูร่ม (ร่มฉัตร ธนาลาภพิพัฒน์) เรียนวันละ 3-4 ชั่วโมง ทุกสัปดาห์ แล้วก็ต้องเวิร์กชอปก่อนด้วยค่ะ
นอกจากนี้แล้ว เจดจะหมั่นพูดภาษาไทยกับคุณแม่ พูดกับเพื่อนๆ เพื่อให้คล่องที่สุด เพราะเมื่อก่อนเจดกับคุณแม่จะพูดภาษาอังกฤษกันตลอด แต่พอได้เล่นบทนี้เจดจะเปลี่ยนมาพูดภาษาไทยกับคุณแม่แทน ให้คุณแม่เป็นคนซ้อมบทให้ที่บ้าน โดยเจดจะอ่านบทเป็นคาราโอเกะ และจำบทเอาค่ะ
ในกองถ่าย คุณลุงเอก (เอกชัย ศรีวิชัย) ช่วยสอนหนูเยอะมากเลยค่ะ เวลาเข้าซีนไหนคุณลุงเอกจะแนะนำและอธิบายทั้งหมด เลยทำให้เจดเข้าใจว่าจะต้องเล่นยังไง พูดยังไง และแสดงออกมายังไงค่ะ หรือพี่ๆ นักแสดงคนอื่นๆ ก็ช่วยแนะนำหนูด้วยเหมือนกันค่ะ เพราะแรกๆ ที่เข้ากองไปกองถ่าย เจดอายและไม่อยากพูดกับใครเลย จะอยู่แต่กับคุณแม่ ยกตัวอย่างเช่น พี่ไพศาล (ไพศาล ขุนหนู) โดยเจดกับพี่ไพศาลจะต้องมีฉากเลิฟซีน แต่ตอนแรกที่ไปกองถ่ายเราไม่ได้สนิทกัน เจดเลยจะอายนิดหน่อย แต่หลังๆ ก็โอเคมากขึ้น ก็คุยกันสนุกสนานเฮฮา สอนพูดภาษาไทย ภาษาใต้ ภาษาอังกฤษ แลกเปลี่ยนกันค่ะ
ตอนนี้ถามว่าภาษาไทยยังยากอยู่ไหม เจดว่าถ้าเป็นการพูดก็ไม่ได้ยากมากแล้วนะคะ ที่ยากเลยน่าจะเป็นเรื่องของการอ่านและการเขียนมากกว่าที่ถือว่ายากที่สุดเลยค่ะ ซึ่งเจดเข้าใจภาษาไทยมากขึ้นแล้วค่ะ แต่อาจจะมีปัญหาบ้างเวลาพูด เพราะบางทีเจดยังคิดหรือนึกคำไม่ออกเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าคิดเร็วมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ถ้าเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เจดน่าจะพูดได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ
หลงใหลการเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ
ดีกรีแชมป์นักกีฬาขี่ม้าระดับเยาวชน
จริงๆ แล้วทางบ้านเจดสนับสนุนให้เจดเล่นกีฬามากเลยนะคะ เจดค่อนข้างจะเหมือนคุณพ่อ เพราะคุณพ่อเล่นกีฬาเยอะมาก แต่ก่อนคุณพ่อเป็นนักกีฬาฟุตบอลด้วย จึงทำให้หนูชอบเล่นกีฬาตามไปด้วย
ส่วนตัวเจดชอบกีฬาขี่ม้ามากค่ะ เจดเริ่มขี่ม้าตอนอายุ 3 ขวบ ตอนนั้นหนูอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส หนูได้เห็นโฆษณาทางทีวี เห็นคนขี่ม้าในโฆษณา แล้วหนูชอบมาก จึงอยากขี่ม้าบ้าง เลยบอกให้คุณปู่พาไป และทุกครั้งที่ได้ไปขี่ม้าหนูแทบไม่อยากกลับบ้านเลยนะคะ อยากจะอยู่นานๆ มีความสุขทุกครั้งเลยค่ะ
เจดเริ่มไปแข่งเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตอนอายุได้ประมาณ 7-8 ขวบ เริ่มแข่งที่ประเทศฝรั่งเศสก่อน แต่ก็ไม่เคยชนะเลยค่ะ แพ้มาตลอด เพราะอาจจะด้วยความประหม่าด้วย และตอนนั้นก็ยังไม่มีม้าเป็นของตัวเองด้วย แต่หนูก็ไม่เคยย่อท้อนะคะ คิดแต่ว่าแพ้ก็ไม่เป็นไร แข่งใหม่ก็ได้ หนูเลยอาศัยความอดทนในการฝึกฝนบ่อยๆ เพื่อให้ม้าได้คุ้นเคยกับเรา เพื่อให้เรารู้จักวิธีการควบคุมม้า และรู้จักวิธีการขี่ที่ถูกต้องค่ะ
พอย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยเจดก็ได้ซื้อม้าเป็นของตัวเอง ม้าตัวแรกของหนูชื่อว่า “ฟรังท์กี้” ค่ะ แต่ว่ามีความจำเป็นที่จะต้องขายไป และได้เปลี่ยนม้าใหม่ชื่อว่า “จอร์จี้” จนได้มีโอกาสเข้าแข่งขันอีก และคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นความสูง 1 เมตร ประจำปี 2017 (Thailand Championship Junior B 2017) มาค่ะ
ตอนนี้หนูอยู่กับกีฬาประเภทนี้มา 12 ปีแล้ว การขี่ม้าทำให้หนูมีความสุข ผ่อนคลายและคลายเครียดได้ดี ตอนขี่ม้าหนูจะไม่คิดเรื่องต่างๆ หนูจะโฟกัสอยู่แต่กับการขี่ม้าอย่างเดียว อีกอย่างหนูมองว่าการขี่ม้ามีเสน่ห์มากเลยนะคะ ช่วยทั้งเรื่องสุขภาพและจิตใจได้ดีมากๆ เลยค่ะ
นอกจากกีฬาขี่ม้าแล้ว เจดยังเล่นกีฬาได้อีกหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น เรือใบ สโนว์บอร์ด เวกบอร์ด บาสเกตบอล รักบี้ เทควันโด คาราเต้ หรือกีฬาอะไรเป็นประเภทเอ็กซ์ตรีม (Extreme) เจดจะชอบทั้งหมดเลยค่ะ
นักแสดง หรือ นักกีฬา
กับเส้นทางความฝันก้าวต่อไปในอนาคต
ถามว่าทั้งสองอย่างนี้เจดชอบอะไรมากกว่ากัน จริงๆ เจดชอบทั้งสองอย่างเลยนะคะ แต่ในอนาคตเจดอาจจะไม่ได้เป็นทั้งนักแสดงหรือนักกีฬาก็ได้
ในเรื่องของการแสดง ถ้าเป็นไปได้เจดอาจจะรับงานแสดงอีก และถ้าเจดอยากจะเป็นนักแสดงหรืออยากจะเข้าวงการบันเทิงจริงๆ เจดคงจะต้องไปเรียนภาษาไทยเพิ่มอีก เพราะหนูต้องมีพื้นฐาน ต้องพูดภาษาไทยและอ่านภาษาไทยให้คล่องกว่านี้ค่ะ
ส่วนความฝันอื่นๆ จริงๆ ด้วยความที่หนูยังเด็ก หนูก็ยังหาตัวตนและเปลี่ยนไปเรื่อย อย่างก่อนหน้านี้ตอนอายุ 11 ขวบ หนูมีความฝันว่าอยากจะเป็นทนายความ แต่พอได้เห็นอะไรมากขึ้น เติบโตมากขึ้น ตอนนี้เลยอยากจะเป็นผู้จัดการโรงแรมใหญ่ๆ ค่ะ เจดมีแพลนว่าถ้าเรียนจบจากที่โรงเรียนนานาชาติแล้ว เจดจะกลับไปที่ประเทศฝรั่งเศส ไปเรียนโรงเรียนธุรกิจต่อที่นั่น แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ หนูจะเลือกเส้นทางที่คิดว่าตัวเองทำแล้วมีความสุขที่สุดค่ะ (ยิ้ม)
มากกว่าชื่อเสียงคือโอกาสและประสบการณ์ที่ได้รับ
ฝากผลงานเรื่องแรกในชีวิต
ส่วนตัวเจดก็ชื่นชอบการแสดงมากเลยนะคะ แม้ว่าหนูต้องตื่นแต่เช้าตรู่และถ่ายเสร็จดึกมาก แต่ก็เป็นอะไรที่สนุกมาก นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากเลยค่ะ
เรื่องนี้ทำให้เจดได้ประสบการณ์มากมายหลายอย่าง ทั้งได้เดินทาง ทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมของภาคใต้ เจดได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของการรำโนราห์ว่าเป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของภาคใต้ ได้ทราบตำนานของพ่อขุนศรีศรัทธาว่าเป็นครูมโนราห์ และการได้ไปถ่ายทำที่ภาคใต้ เจดยังได้เห็นธรรมชาติ เจดชอบเกาะ ชอบทะเลของภาคใต้ และชอบภาคใต้มาก ที่นั่นสวยมากเลยค่ะ (ยิ้ม) อีกอย่างเจดยังได้รู้ว่าอาหารที่ภาคใต้เผ็ดมาก (หัวเราะ) หนูได้ทานหลายเมนูเลย อร่อยมากและชอบมากเลยค่ะ
ท้ายนี้เจดอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเป็นภาพยนตร์ที่สามารถทำให้เรียนรู้วัฒนธรรม วัฒนธรรมนี้ไม่ใช่แค่ของภาคใต้นะคะ แต่เป็นวัฒนธรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยเลยค่ะ อีกอย่างเรื่องนี้ดูแล้วไม่น่าเบื่อแน่นอนค่ะ เพราะไม่ได้พูดถึงแค่วัฒนธรรม พูดถึงแค่ประวัติศาสตร์เพียงเท่านั้นนะคะ แต่ยังสอดแทรกไปด้วย ความสนุกสนาน รวมทุกอย่างเข้าไปทั้งแอ็กชัน คอเมดี้ ดรามา แฟนตาซี เรียกว่าครบรสเลยค่ะ ที่สำคัญภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของหนู ที่หนูทุ่มเทและทำเต็มที่มากๆ เลยค่ะ
**เรื่องย่อโนราห์
เรื่องราวของนอร์ร่า (เจด-แองเจลิน่า โฟรม็องโต้) สาวลูกครึ่งที่เดินทางตามพ่อแม่มาทำธุรกิจที่จังหวัดพัทลุง แต่ระหว่างที่เธอได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอยู่นั้น เธอก็ได้เจอกับเรื่องประหลาดทำให้ข้ามมิติกาลเวลาไปยังอดีต และได้พบกับสิงหร (ไพศาล ขุนหนู) ชายหนุ่มรูปงาม พร้อมเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของตำนานที่ทำให้คน 2 ภพมาบรรจบพบกัน ผ่านการผจญภัย เหตุการณ์ต่างๆ จนเกิดเป็นความผูกพันและกลายเป็นความรักที่เป็นตำนาน
Profile
ชื่อ สกุล : แองเจลิน่า โฟรม็องโต้
ชื่อเล่น : เจด
วันเกิด : 21 สิงหาคม ค.ศ. 2003
อายุ : 15 ปี
ส่วนสูง : 170 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 50 กิโลกรัม
การศึกษา : Year 10 โรงเรียนนานาชาติฝรั่งเศส
ความสามารถพิเศษ : ขี่ม้า, เต้น, ร้องเพลง
3 นิยามความเป็นเจด : เสียงดัง ตรงไปตรงมา และกินเก่ง
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต : ครอบครัว เพื่อนสนิท โทรศัพท์มือถือ และเพลง
สไตล์เพลงที่ชอบ : เพลงฝรั่งเศส เพลงอเมริกัน แนว R&B, HIPHOP ฯลฯ
สไตล์การแต่งตัว : Street Wear และจะชอบแต่งตัวแนวซีรีส์ของอเมริกาที่ดังมากๆ เลยนั่นก็คือเรื่อง “Friends”
สเปก : ไม่มีสไตล์ ถ้าชอบก็คือชอบเลยค่ะ แต่จะชอบโซนยุโรป ผมสีน้ำตาล ตาสีฟ้า ที่สำคัญต้องเป็นคนฉลาด ตลก และมีมารยาท
ผลงานการแสดง : ภาพยนตร์เรื่อง “โนราห์”
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ, IG @fromenthoe