เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยกับละครเรื่องแรกในชีวิต เพราะถึงแม้ว่าจะชิมลางงานละครเป็นครั้งแรก แต่หลายคนกลับมองว่าฝีมือการแสดงของเธอนั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย เพราะตีบทแตก และทำเอาคนดูหมั่นไส้ไปตามๆ กัน กับบทบาท “เหม่เหม” หลานสาวคนเดียวของตระกูลจิระอนันต์ ในละคร “เลือดข้นคนจาง”
“นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์” สาวน้อยหน้าใสวัย 17 ปี ที่ชื่นชอบการแสดงเป็นทุนเดิม กระทั่งมีโอกาสได้ไปแคสต์และเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดนาดาวบางกอก และมีผลงานละครให้ได้รับชมกันอยู่ ณ ตอนนี้
แจ้งเกิดเรื่องแรก
กับบท “เหม่เหม” เลือดข้นคนจาง
นาน่าชื่นชอบทางด้านการแสดงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ หนูเป็นคนที่ชอบดูละครค่อนข้างเยอะ พอดูเยอะๆ เข้า หนูก็เลยมีความสนใจอยากจะลองเป็นนักแสดงดูบ้าง
พออายุได้ 13-14 ปี ก็ได้ไปลองแคสต์โฆษณาบ้าง แคสต์ละครบ้าง แคสต์ได้บ้างไม่ได้บ้าง ระหว่างนั้นก็ยังไม่ได้มีผลงานอะไรนะคะ เพราะตอนนั้นหนูยังเด็กด้วย จนบังเอิญมีคนรู้จักเขาแนะนำให้ไปแคสต์อีกครั้ง หนูก็เลยได้ไปแคสต์ ได้ไปลองพูดคุยกับกล้อง ได้แนะนำตัว โชว์ความสามารถพิเศษ ทางทีมงานได้ให้ลองเล่นซีนแอบรักรุ่นพี่ ประมาณ 2 ซีน หลังจากนั้นเขาก็สนใจและให้มาเซ็นสัญญากับทางจีดีเอช (GDH)
ละครเรื่อง “เลือดข้นคนจาง” ถือเป็นเรื่องแรกในชีวิตของนาน่าเลยก็ว่าได้ค่ะ เรื่องนี้นาน่ารับบทเป็น “เหม่เหม” ลูกสาวคนเดียวของเมธ จิระอนันต์ หรือ พี่แท่ง- ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ค่ะ
ประกบนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ
แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง
ตอนแรกที่พี่ทีมงานบอกว่าต้องเล่นเป็นลูกสาวของพี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง หนูตื่นเต้นและเกร็งมากเลยนะคะ เพราะพี่แท่งเป็นนักแสดงมืออาชีพ เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ หนูได้ติดตามดูผลงานการแสดงของพี่แท่งมาก่อน อย่างบางรักซอย 9 หนูก็ดู (ยิ้ม) แต่พอได้มาเจอตัวจริง และได้เข้าฉากด้วยกันแล้ว พี่แท่งเป็นคนที่อบอุ่นและเฟรนด์ลี่มากเลยค่ะ ทำงานด้วยแล้วมีความสุข สนุก หนูดีใจมากๆ ที่มีโอกาสได้เล่นละครร่วมกับพี่แท่ง
อย่างในเรื่องการแสดงพี่แท่งสอนและแนะนำหนูเยอะมากเลยนะคะ เพราะหนูกับพี่แท่งค่อนข้างจะมีบทร่วมกันเยอะ ถ้าเกิดว่าหนูเล่นผ่าน พี่แท่งก็จะผ่านฉากนั้นไปด้วย เราก็เลยจะช่วยกันบิลด์ พี่แท่งจะคอยบิลด์อารมณ์ตัวละครให้ตลอด จะบิลด์ให้หนูเห็นภาพว่าก่อนหน้านี้ตัวละครต้องเจออะไรมาบ้าง เกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมเขาถึงเลือกทำแบบนี้ พี่แท่งเป็นคนที่ส่งอารมณ์ดีมากๆ จึงทำให้หนูจูนกับตัวละครได้ง่ายขึ้นค่ะ
หยิบเทคนิคและเคล็ดลับจากนักแสดงรุ่นใหญ่
มาปรับใช้ในการแสดงของตัวเอง
ด้วยความที่หนูเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ในเรื่องนี้ก็จะมีนักแสดงหน้าใหม่อีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แจ็คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย, พี่เติร์ด-ลภัส งามเชวง ฯลฯ ซึ่งผู้กำกับ พี่ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ก็จะให้พวกเราไปดูคิวแรกๆ ที่เขาถ่ายทำกัน ให้ได้สัมผัสกับการทำงานว่าข้างในกองถ่ายเป็นยังไง เขาทำงานกันยังไงบ้าง เพื่อที่เราจะได้ไม่ตื่นเต้น พอได้เข้าไปดูก็ได้เห็นพี่ๆ นักแสดง เช่น พี่กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, พี่อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน, พี่เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี และพี่ๆ นักแสดงคนอื่นๆ ซึ่งพี่ๆ แต่ละคนก็จะมีวิธีการแสดงที่ไม่เหมือนกัน หนูก็จะได้เห็นเทคนิคและเคล็ดลับต่างๆ ของพี่ๆ เขา
ยกตัวอย่างเช่น พี่เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี ที่จะมีซีนที่ดึงปืนออกมาจากในกระเป๋า พี่เจี๊ยบก็จะฝึกซ้อมอยู่หลายรอบเพื่อทำยังไงก็ได้ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด พี่เจี๊ยบจะใส่เต็มตั้งแต่เทกแรก พอใส่เต็มตั้งแต่เทกแรกปุ๊บก็จะได้ความสด ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่หนูหยิบยกมาใช้ด้วยเช่นกันค่ะ หนูก็จะเก็บรายละเอียดต่างๆ ของพี่ๆ แต่ละคนมาปรับใช้กับการแสดงของตัวเองด้วยค่ะ
ส่วนบทที่หนูได้รับค่อนข้างจะมีความซับซ้อนและยากพอสมควรเลย เพราะจะมีซีนที่ต้องใส่อารมณ์เยอะอยู่เหมือนกัน จะว่าไปแล้วท้าทายกับหนูมากเลยนะคะ มีฉากหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องการถูกข่มขืนที่หนูต้องเล่าให้เต้ย (แจ็คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย) ฟังว่าเราถูกโดนข่มขืน แล้วจะมีตอนที่เต้ยถามว่า “พ่อรู้เรื่องนี้หรือเปล่า” แล้วหนูต้องตอบว่า “ไม่รู้ ให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้” คือเราต้องแสดงอารมณ์ให้คนดูรู้ว่าพ่อเขาเลี้ยงเรามาดีขนาดไหน เราจะทำให้เขาเสียใจไม่ได้ ฉากนี้เรียกว่ายากมากๆ สำหรับหนูเลย เพราะหนูไม่ค่อยอินกับบทนี้เท่าไหร่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก หนูเลยต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะ ซึ่งพี่ย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์) เลยแนะนำให้หนูไปเขียนไดอารีว่าวันนี้เราทำอะไร วันพรุ่งนี้เราทำอะไร วันไหนที่เราโดนเขาข่มขืนบ้าง แล้วก็ให้ลงรายละเอียดว่าตอนโดนข่มขืนเป็นยังไงบ้าง เขาทำอะไรกับเราบ้าง เขาเรียกไปถี่ไหม กี่วันต่อสัปดาห์ เพราะในบทจะมีตอนที่บอกว่าโดนมาเป็นปีแล้ว เพื่อให้เราเข้าใจในตัวละครนี้มากที่สุด
หลังจากนั้นพอเล่นไปเรื่อยๆ เราได้เป็นตัวละครนั้นมาในระยะเวลาที่มากขึ้นแล้ว เราทราบแบ็กกราวนด์ของตัวละครแล้ว เราจะเข้าใจได้มากขึ้น เข้าใจว่าจุดประสงค์ของตัวละครคืออะไร ความรู้สึกของตัวละครเป็นยังไง บวกกับเราจะเริ่มชินกับมุมกล้อง ทั้งกล้องมุมใกล้ กล้องมุมไกล กล้องเบื้องหลัง ชินกับการที่คนอยู่เต็มห้อง มีทั้งผู้กำกับ คนคุมไฟ คนเบื้องหลังส่วนอื่นๆ เยอะแยะเลย และถ้าเราชินแล้ว เราก็จะทำงานได้ง่ายขึ้นค่ะ
“เหม่เหม” เลือดข้นคนจาง
กับ “นาน่า” ในชีวิตจริง
ตัวละคร “เหม่เหม” ในเรื่องเขาจะเป็นคนที่สตรองมากๆ เพราะว่าเขาโตมากับพ่อแค่สองคน เขาจะเป็นคนที่คอยดูแลพ่อและจัดการอะไรต่างๆ ให้พ่ออยู่ตลอดเวลา เช่น พ่อต้องออกจากบ้านเวลานี้นะ พ่อต้องรีบอาบน้ำนะ พ่อต้องอาบน้ำเสร็จกี่โมง ต้องออกไปไหนทำอะไรบ้าง ฯลฯ อะไรทำนองนี้ค่ะ ซึ่งก็จะมีส่วนคล้ายกับหนูในชีวิตจริงเหมือนกัน เพราะหนูก็จะคอยดูแลพ่อตลอดเวลาแบบนี้เช่นกันเลยค่ะ
อีกเรื่องหนึ่งที่หนูมีส่วนคล้ายกับเหม่เหม ก็คือ เหม่เหมเขาจะมีความห้าวเพราะเขาโตมากับผู้ชาย ลูกพี่ลูกน้องจะเป็นผู้ชายทั้งหมด 9 คน เขาเลยจะมีความดิบ ความแมน ไม่ห่วงสวย ไม่ห่วงโป๊ สามารถกระโดดรั้ว ปีนรั้วได้ ส่วนตัวหนูก็เป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน โตมากับผู้ชาย เพราะที่บ้านหนูจะมีพี่ชายและน้องชาย ทำให้เราจะมีความห้าวในตัวเล็กๆ เหมือนกัน พี่ชายหนูจะชอบดูรถแข่ง ชอบดูมวยปล้ำ หนูก็จะไปดูกับเขาด้วย หนูจะชอบทำกิจกรรมอะไรที่ลุยๆ แอดเวนเจอร์หน่อย เช่น ปีนเขา ปีนหน้าผา เดินป่า พายเรือ กางเต็นท์กลางป่า อะไรทำนองนี้ค่ะ
แต่มุมที่ค่อนข้างขัดแย้งกับในชีวิตจริงก็มีนะคะ คือโดยปกติแล้วในชีวิตจริงหนูจะเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป สดใส ร่าเริง ขี้เล่น พูดเยอะ มีความสุข แต่ตัวเหม่เหมเขาจะค่อนข้างเครียด ชอบขมวดคิ้ว ชอบทำสีหน้ากังวล ในหัวเขาจะวางแผนว่าถ้าทำสิ่งนี้เสร็จจะไปทำอะไรต่อ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นแบบนี้จะต้องแก้ปัญหายังไง เขาจะมีเรื่องให้คิดคำนวณในหัวตลอดเวลา เพราะเขาเป็นเด็กที่ฉลาดมากๆ เลยค่ะ ส่วนตัวในชีวิตจริงหนูทำแบบนี้ไม่ได้เลยนะ หนูไม่สามารถรอบคอบและคิดเร็วได้ขนาดนั้น (หัวเราะ)
มองตัวเองประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
ดีใจที่สามารถส่งต่อตัวละคร “เหม่เหม” ไปถึงคนดู
อย่างที่ทราบว่าการแสดงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของนาน่า ถ้าถามว่าประสบความสำเร็จไหม หนูมองว่าตัวเองประสบความสำเร็จในแค่ระดับหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ เพราะหนูยังต้องพัฒนาฝีมือตัวเองต่อไปอีกเรื่อยๆ แต่หนูก็ดีใจนะคะที่หนูสามารถส่งตัวละครเหม่เหมไปถึงคนดู ให้คนดูเขาอินกับตัวละครนี้ได้ ดีใจที่คนดูเข้ามาคอมเมนท์ เข้ามาพูดถึงกันในโซเชียลฯ ค่อนข้างเยอะ บ้างก็ว่าหนูแสบ หนูโกหก หนูใสไม่จริง (หัวเราะ) ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะหนูก็อยากทราบด้วยว่าแฟนๆ ที่ดูละครว่าเขาคิดยังไงกับละคร คิดยังไงกับตัวละคร หนูอยากทราบฟีดแบ็กเพื่อที่จะได้เก็บมาปรับปรุงแก้ไขค่ะ
ในมุมกลับกัน หนูไม่ซีเรียสนะคะ ไม่กลัวว่าจะไปเดินตลาดหรือไปเดินในที่สาธารณะไม่ได้ (หัวเราะ) เพราะหนูเชื่อว่าคนดูเขามีวิจารณญาณในการรับชมกันอยู่แล้ว อย่างเวลาที่พี่ๆ แฟนละครเขาได้มาเจอตัวจริงๆ ทุกคนเฟรนด์ลี่กับหนูมากๆ มีทั้งเข้ามาทักทาย เข้ามาถ่ายรูปด้วยกัน ทุกคนน่ารักมากๆ เลยค่ะ
ความคาดหวังและก้าวต่อไปในวงการบันเทิง
ตอนนี้หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เลือกเรียนคณะนี้เพราะส่วนหนึ่งก็มาจากที่หนูชื่นชอบการแสดง ก็เลยอยากเรียนรู้ถึงเบื้องหลังเพิ่มเติมว่ามีความเป็นมายังไง และหนูมองว่าหากเรียนจบคณะนี้มาแล้วเราสามารถนำไปต่อยอดในหลายๆ อย่างได้
ส่วนงานในวงการบันเทิงในอนาคตหนูคาดหวังไว้ว่าหนูอยากรับบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น หนูอยากลองการแสดงหลายๆ แบบ ทั้งบทดรามา หรืออาจจะเป็นบทตลกบ้าง บทสดใส ร่าเริงบ้าง หรือบทอะไรก็ได้ค่ะทั้งยากและง่ายได้หมดเลย เพื่อที่หนูจะได้พัฒนาฝีมือการแสดงของตัวเองในหลายๆ ด้านต่อไป
ทำความรู้จักนาน่า-ศวรรยาให้มากขึ้น
My Dream
จริงๆ แล้วนาน่ามีความฝันอีกอย่างหนึ่งคือ อยากเป็นนักธุรกิจ อยากทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ นาน่าชอบอะไรที่เกี่ยวกับมาร์เกตติ้ง เกี่ยวกับหุ้น นาน่าเคยไปเรียนเรื่องหุ้นมาพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ พอได้เรียนก็เลยมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจ ทำให้อยากลองเรียนเพิ่มเติม ประจวบกับทางคณะนิเทศศาสตร์ที่นาน่าเรียนอยู่ เขาจะมีสอนเรื่องเศรษฐศาสตร์ และมาร์เกตติ้งอยู่แล้วด้วย ก็คงจะเป็นเรื่องของอนาคตต่อไปว่าจะไปทางด้านนี้ไหม ตอนนี้ก็ขอทำหน้าที่ที่ได้รับอยู่ให้เต็มที่ก่อนค่ะ
My Style
สไตล์การแต่งตัว นาน่าแต่งได้ทุกลุคเลยค่ะ บางวันอยากหวานก็จะแต่งตัวหวานๆ บางวันก็จะเท่ๆ หน่อย บางวันก็เรียบร้อย ตามสถานที่ที่ต้องไปและอารมณ์ของตัวเอง ณ วันนั้นเลยค่ะ (หัวเราะ)
My Lifestyle
ถ้าว่างจากการทำงานและการเรียน นาน่าจะชอบร้องเพลงแล้วก็ชอบเต้นแนว Street Jazz ค่ะ แต่จะไม่ได้ร้องเพลงและเต้นจริงจังถึงขั้นไปเรียนเสริมนะคะ ส่วนใหญ่จะทำตอนที่อยากทำจริงๆ เพราะรู้สึกว่าทำแล้วเพลินดี สนุกดี อย่างการเต้นแนว Street Jazz นาน่าเห็นมาจากยูทูป ดูแล้วมันดี เท่ดี ก็เลยอยากลองเต้นดูบ้าง
นอกจากนี้นาน่าเป็นคนชอบท่องเที่ยวด้วยค่ะ ถ้าเกิดว่าไม่ได้มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ อย่างวันหยุด วันสบายๆ เป็นวันที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก นาน่าก็อาจจะไปเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นที่มิวเซียมค่ะ
My Love
ถ้าถามถึงสเปก ส่วนตัวนาน่าชอบคนตัวสูง ไม่ขี้งอน ชอบเทกแคร์ ที่สำคัญต้องมีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน เป็นคนลุยๆ ไปไหนไปกันได้ก็พอค่ะ
My Work
นอกจากละครเลือดข้นคนจางแล้ว หนูมีผลงานซีรีส์เรื่อง โลกโซเชียล (Social Syndrome) ซึ่งจะเป็นซีรีส์ที่มีทั้งหมด 8 เรื่อง เกี่ยวกับด้านมืดของโลกโซเชียล เพราะยุคสมัยนี้คนใช้โซเชียลมีเดียกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้เป็นสื่อแห่งความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ความสัมพันธ์ระหว่างคนรัก และในเรื่องต่างๆ ซึ่งก็มีผลต่อโซเชียลฯ ทุกอันเลย ซีรีส์เรื่องนี้จึงอยากจะสะท้อนสังคมในด้านนี้ โดยแต่ละตอนก็จะสะท้อนในแง่มุมที่แตกต่างกันออกไป
ซีรีส์เรื่องนี้ หนูได้เล่นเรื่องที่ 3 ค่ะ ชื่อตอนว่า HAMSTERS โดยรับบทเป็นเด็กผู้หญิงชั้นมัธยมปลาย เนิร์ดๆ ดื้อเงียบ ที่ชอบผิดใจและไม่ถูกกับแม่ตัวเองสักเท่าไหร่ แม่พูดอะไร เราไม่เห็นด้วยแต่เราก็ทำนะคะ แต่จะเก็บอัดอั้นไว้ในใจแล้วเอาไปโพสต์ว่าแม่ในแอ็กเคานต์หลุมของเรา (แอ็กเคานต์หลุม คือ บัญชีที่ไม่แสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวตน) เพราะคิดว่าถ้าพูดไปแม่ก็ไม่เข้าใจเราอยู่ดี เพราะฉะนั้นช่องทางนี้จึงเป็นที่ใช้ระบายสิ่งที่อัดอั้นออกไปได้
หนูอยากฝากให้ทุกคนดูละครเลือดข้นคนจาง ทุกวันศุกร์ 20.45 น. และวันเสาร์ 20.10 น. ทางช่อง ONE 31 รับชมย้อนหลังได้ทางแอปพลิเคชัน Line TV ซึ่งตอนนี้เรื่องราวกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่ะ จริงๆ นาน่ารู้สึกว่าทุกตัวละครในเรื่องที่ถูกเขียนขึ้นมา ทุกการกระทำของเขามีเหตุผล และมีความหมายหมดเลยนะคะ ถ้าเกิดคนดูได้ดูไปถึงตอนจบแล้ว จะเข้าใจได้ว่าแต่ละคนเขาทำแบบนี้ไปทำไม
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ทุกคนติดตามชมมากๆ เลยก็คือเรื่อง โลกโซเชียล (Social Syndrome) ออกอากาศวันแรกวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.00 น. ทาง Line TV ค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามผลงานของหนูด้วยนะคะ (ยิ้ม)
PROFILE
ชื่อ สกุล : ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์
ชื่อเล่น : นาน่า
วันเกิด : 10 ตุลาคม พ.ศ. 2001
อายุ : 17 ปี
การศึกษา : ชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อาหารที่ชื่นชอบ : กุ้งเผา
ไอดอลในวงการ : ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บันด์
งานอดิเรก : เต้น ร้องเพลง ท่องเที่ยว
ผลงาน : ละครเลือดข้นคนจาง ทางช่อง ONE 31 และซีรีส์โลกโซเชียล (Social Syndrome) ตอน HAMSTERS ทาง Line TV
3 สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต : ครอบครัว โทรศัพท์มือถือ เงิน
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : วชิร สายจำปา, อินสตาแกรม @nana_nspk