หลังประสบความสำเร็จจากธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง และเครื่องสำอางนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว ตอนนี้เธอได้ต่อยอดนำเข้าเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ ZOZO by EMMY นำมาขายส่งในราคาเพียง 35 บาท!
จากการจับพลัดจับผลูของเธอและสามีที่ทำให้สามารถเปิดบริษัทที่ญี่ปุ่นจนประสบความสำเร็จ ทำให้มีช่องทางต่อยอดการทำธุรกิจต่างๆ และปัจจุบันเธอได้นำเข้าเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ ZOZO by EMMY ที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าเดียวในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ โดยเสื้อผ้ามือสองของเธอนั้นมีคอนเซ็ปต์ “สวย สะอาด พร้อมใช้งาน” จนกลุ่มลูกค้าการกล่าวขานและการันตีคุณภาพสินค้ากันปากต่อปาก
มาเรียนรู้การทำธุรกิจและทำความรู้จัก “เอ็มมี่-ยุภาวรรณ อัจฉราพรเพ็ญ” เจ้าของ ZOZO by EMMY ให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันที่นี่…

• ก่อนจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่น
จริงๆ แล้วทางบ้านเอ็มมี่จะทำธุรกิจ IMPORT และ EXPORT โดยจะเป็นสินค้าแฮนด์เมดของไทย แต่จะอยู่ทางสหรัฐอเมริกา ทางโซนยุโรปนะคะ เราก็เลยได้ทำธุรกิจนี้กับทางบ้านเรื่อยมา กระทั่งได้เจอกับแฟนและแต่งงานกัน
หลังจากนั้นเอ็มมี่ได้มีโอกาสไปเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 ปี และสามีเอ็มมี่เขาก็มีธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับตุ๊กตาโมเดลที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว เขาต้องเดินทางระหว่างไทยและญี่ปุ่นเป็นประจำ แทบจะทุกเดือนเลยก็ว่าได้ค่ะ พอเราแต่งงานและมีลูกกันแล้ว เราสองคนเลยคิดกันว่าเราควรจะเลือกแล้วว่าทำยังไงต่อไปกับชีวิตดี เพราะขืนสามียังเดินทางไปกลับระหว่างไทย-ญี่ปุ่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ คงจะไม่โอเคเท่าไหร่ เราเลยเลือกกันว่าถ้าอย่างนั้นเราไปทำธุรกิจและเปิดบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่นกันไหม
• ตัดสินใจบินไปเปิดบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่น?
เอ็มมี่กับสามีคิดว่าเราจะไปเปิดบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับตุ๊กตาโมเดลที่สามีทำอยู่แล้ว แต่การเปิดบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ แล้วไม่ง่ายเลยค่ะ
โดยส่วนใหญ่ที่เอ็มมี่คุยและหาข้อมูลจะต้องเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ไปเปิด แต่เราเป็นแค่บุคคลธรรมดาแต่จะอาจหาญไปเปิด เขาจะมองว่าเราสองคนเป็นใคร ทำไมอยู่ดีๆ จะมาเปิดบริษัท แล้วเราก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่ๆ อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อะไรเลย เราก็ต้องสู้รบกับการทำเอกสารเยอะมาก เราต้องแปลเอกสารตั้งแต่เกิดจนถึงกระทั่งเรียนจบ ต้องละเอียดมากๆ เพราะทางประเทศเขาก็กลัวเหมือนกันว่าเราจะไปทำอะไรที่ไม่ดีในประเทศเขา ตอนนั้นเราใช้เวลาเกือบครึ่งปีในการดำเนินการ จนได้เปิดบริษัทเป็นผลสำเร็จค่ะ

• แล้วธุรกิจขายของมือสองเริ่มต้นขึ้นตอนไหนคะ
หลังจากที่เปิดบริษัทตุ๊กตาโมเดล ด้วยความที่เป็นบริษัทของสามี เราเลยจะเป็นแม่บ้าน ก็จะอยู่ว่างๆ เลี้ยงลูก พอลูกเข้าโรงเรียน เราก็เหงา เราก็จะอาศัยการเล่นเฟซบุ๊กกับเพื่อนๆ ก็คุยกันจิปาถะ และได้คุยกันเรื่องสินค้า เขาก็ถามว่าสินค้านี้ที่ประเทศญี่ปุ่นขายเท่าไหร่ ในสมัยนั้นประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว สินค้าหลายๆ อย่างในประเทศญี่ปุ่นจะราคาถูกกว่ากันประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้วนะคะ (หัวเราะ) ตั้งแต่นั้นมาเอ็มมี่เลยเปิดเพจรับจัดซื้อสินค้าญี่ปุ่น ส่งให้ลูกค้าคนไทยที่ต้องการสินค้าญี่ปุ่น และต่อยอดมาเรื่อยๆ ค่ะ
• กระทั่งต่อยอดมาเป็นธุรกิจเสื้อผ้ามือสองภายใต้ชื่อ ZOZO by EMMY
ตั้งแต่นั้นเอ็มมี่ก็เริ่มมีความคิดว่าอยากจะทำธุรกิจอย่างเต็มตัว ประจวบกับที่ญี่ปุ่นเป็นแหล่งประมูลสินค้าที่ใหญ่มาก ซึ่งเอ็มมี่ก็มีโอกาสได้ไปและโชคดีที่ได้รู้จักเพื่อนญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อว่า “คุณมิจิโอะ ซูซูกิ (Michio Suzuki)” คุณมิจิโอะจะเป็นคนที่ในวงการสินค้ามือสองญี่ปุ่นรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และจากการเข้างานประมูลที่ทุกวันนี้ได้เป็นพาร์ตเนอร์กันด้วย คุณมิจิโอะจะคอยสอน คอยแนะนำ คอยดำเนินการให้ จนเอ็มมี่ได้เข้ามาทำกิจการนำเข้าสินค้าญี่ปุ่น โดยจะเป็นการตัดล็อตเป็นตู้คอนเทนเนอร์ให้แก่ลูกค้าคนไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ทำมานานหลายปีเหมือนกันค่ะ
ZOZO BY EMMY เปิดขึ้นมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้วค่ะ ตรงนี้ก็เป็นผลพวงจากธุรกิจนำเข้าสินค้ามือสองจากญี่ปุ่น ต้องให้เครดิตทางคุณมิจิโอะด้วยค่ะ ที่ทำให้เอ็มมี่ได้สิทธิ์จากเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่น อย่าง ZOZO ให้เอ็มมี่สามารถใช้ชื่อ ZOZO BY EMMY ได้ ณ วันนี้ เอ็มมี่ก็เป็นเจ้าเดียว บริษัทเดียวเท่านั้นที่ได้สัมปทานขายในเมืองไทยอย่างทุกวันนี้ค่ะ

• ZOZO by EMMY แตกต่างจากเสื้อผ้ามือสองที่อื่นยังไงบ้าง
ZOZO BY EMMY เป็นมิติใหม่ของเสื้อผ้ามือสองเลยก็ว่าได้ค่ะ ลูกค้าสามารถลบภาพเสื้อผ้ากระสอบ เหมือนอย่างที่ซื้อกันทั่วไปได้เลย อีกอย่างเสื้อผ้ามือสองของเราทุกตัวจะมีคอนเซ็ปต์ “สวย สะอาด พร้อมใช้งาน” เพราะเสื้อผ้าทุกชิ้นจะถูกคัดเลือกและทำความสะอาดในแบบมาตรฐานคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ลูกค้ามักจะถามเสมอว่านี่ไม่ใช่มือ 1 เหรอ อะไรทำนองนี้ค่ะ
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เอ็มมี่ไม่สนใจของมือสองมาก่อนเลยนะคะ คือที่ไม่ชอบเพราะว่าเมื่อก่อนเวลาที่เอ็มมี่ซื้อเสื้อผ้ามือสองมา จะเอาเข้าบ้านแต่ละทียากมากเลยนะคะ คุณแม่จะต้องต้ม ฆ่าเชื้อ ใส่เกลือ ใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ ทำทุกอย่างเลยกว่าจะเอามาใส่ได้
ยกตัวอย่าง เช่น เสื้อผ้ามือสองอย่างเสื้อกันหนาวที่เอมมี่เคยซื้อมากว่าเราจะได้ใช้งาน เราต้องซัก ต้ม ฆ่าเชื้อ ซึ่งผ้าบางชนิดถ้าทำผิดวิธีเสื้อผ้าก็จะเสียเลย เราก็จะต้องส่งให้ร้านซักแห้งและส่งซักแต่ละทีก็ค่อนข้างแพง ดังนั้นพอเอ็มมี่ได้มาทำธุรกิจนี้จึงนำเสื้อผ้าทุกตัวไปผ่านกระบวนการซัก อบแห้ง ฆ่าเชื้อโรค พับใส่ถุงให้อย่างดี อีกทั้งติดบาร์โค้ดให้ด้วยเหมือนสินค้าใหม่ พร้อมจำหน่ายเลยค่ะ

• แบบนี้ถ้าอยากทำธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสองบ้างจะต้องทำอย่างไรคะ
เอ็มมี่จะขายส่ง 1,000 ตัว ราคาเพียงตัวละ 35 บาทเท่านั้นค่ะ 1,000 ตัวคุณสามารถเปิดร้านได้เลย จะเปิดขายหน้าร้าน เปิดให้เช่า หรือจะขายออนไลน์ก็ได้ สินค้าเราจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นร่วมสมัย จะมีทุกแบบทุกแนว ทุกดีไซน์ ทุกไซส์ มีทั้งเสื้อกันหนาว เสื้อยืด เสื้อแฟชั่น กระโปรง กางเกง เราจะคละให้หมดเลยค่ะ 1,000 ตัว จะได้สินค้าถึง 1,000 แบบ ถ้านำเอาไปขายยังไงก็ได้กำไรแน่นอนค่ะ เอ็มมี่มองว่าคุ้มค่าจริงๆ ค่ะกับการเริ่มต้นทำธุรกิจในราคา 35,000 บาท
• ผลตอบรับที่ผ่านมา
การทำธุรกิจนี้จริงๆ แล้วเอ็มมี่ไม่ได้มั่นใจเลยนะคะ เพราะว่ายังไม่มีใครเคยทำมาก่อน ยอมรับว่าเอ็มมี่ก็เจ็บมาเยอะ มีบาดแผลมาเยอะมากเหมือนกัน เพราะหนทางที่ผ่านมาเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย เจอทั้งกรวดทั้งหินมาค่อนข้างเยอะ เราต้องฝ่าฟัน
ผลตอบรับที่ผ่านมาถือว่าดีเลยค่ะ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ยกตัวอย่างเช่น มีลูกค้าของเราบางท่านลองนำไป Live สดในเฟซบุ๊กขายก็ขายดี สามารถขายได้วันละ 200 ตัวเลยก็มี แต่ลูกค้าบางท่านที่ไม่เคยขายของมือสองมาก่อนเลยก็มี เพราะอาจจะยังไม่มีช่องทางในการขาย เอ็มมี่ก็จะให้คำปรึกษา บอกเขาไปว่าอย่าท้อ ให้ใจเย็นๆ เราดูแลเขาเหมือนครอบครัว สุดท้ายเขาก็ขายได้และขายดีค่ะ
หรืออย่างมีลูกค้าที่เป็นคุณหมอมาซื้อเหมือนกันนะคะ เพราะว่าเขาเห็นแล้วว่าสินค้าเราปลอดภัย คุณหมอมาที่หน้าร้านกัน 3 ท่าน มาซื้อสินค้าเรา 1,000 ตัว เอาไปเลือกสรรเพื่อนำไปใส่ พอเลือกตัวที่ชอบกันเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็จะนำตัวที่เหลือไปขายต่อให้กับคุณหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลซึ่งก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีมากค่ะ
ล่าสุดตอนนี้มีห้างสรรพสินค้าขอติดต่อให้นำเสื้อผ้ามือสอง แบรนด์ ZOZO by EMMY ไปลงขาย จริงๆ ทางห้างฯ เขาจะไม่มีนโยบายให้นำสินค้ามือสองเข้าไปขายนะคะ เพราะกลัวว่าลูกค้าของทางห้างฯ จะแพ้ฝุ่น แพ้กลิ่นอะไรต่างๆ แต่เขาเห็นสินค้าเราแล้วว่าสวย สะอาด พร้อมใช้งานจริงๆ ตอนนี้เอ็มมี่ก็ยังกำลังคิดๆ อยู่เหมือนกันค่ะ ซึ่งต้องขอบคุณทางห้างฯ มากๆ เลยค่ะที่ให้ความสนใจสินค้าของเรา

• ในฐานะคนทำธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง คิดว่าธุรกิจนี้ในอนาคตจะเป็นยังไงต่อไปบ้างคะ
เอ็มมี่มองว่าการทำธุรกิจเสื้อผ้าไม่มีวันตายแน่นอนค่ะ เพราะแฟชั่นยังไงก็อยู่คู่โลก ส่วนใครที่อยากทำธุรกิจ เอ็มมี่อยากฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจว่า แค่คุณขยัน ตั้งใจ ยังไงก็ไม่อดตายแน่นอนค่ะ หากสนใจอยากร่วมทำธุรกิจกับเราสามารถติดต่อได้ที่ : 09-9109-9595 Line@ : @emmy.japanshop หรือ ZOZO by EMMY JAPAN ได้เลยนะคะ


สนใจติดต่อ เบอร์โทร. 09-9109-9595
Line@ : @emmy.japanshop
Facebook fanpage : ZOZO by EMMY
ข้อมูล/ภาพ : รายการพระอาทิตย์ Live ช่อง News1
เรียบเรียง : วรัญญา งามขำ
จากการจับพลัดจับผลูของเธอและสามีที่ทำให้สามารถเปิดบริษัทที่ญี่ปุ่นจนประสบความสำเร็จ ทำให้มีช่องทางต่อยอดการทำธุรกิจต่างๆ และปัจจุบันเธอได้นำเข้าเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ ZOZO by EMMY ที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าเดียวในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ โดยเสื้อผ้ามือสองของเธอนั้นมีคอนเซ็ปต์ “สวย สะอาด พร้อมใช้งาน” จนกลุ่มลูกค้าการกล่าวขานและการันตีคุณภาพสินค้ากันปากต่อปาก
มาเรียนรู้การทำธุรกิจและทำความรู้จัก “เอ็มมี่-ยุภาวรรณ อัจฉราพรเพ็ญ” เจ้าของ ZOZO by EMMY ให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันที่นี่…
• ก่อนจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่น
จริงๆ แล้วทางบ้านเอ็มมี่จะทำธุรกิจ IMPORT และ EXPORT โดยจะเป็นสินค้าแฮนด์เมดของไทย แต่จะอยู่ทางสหรัฐอเมริกา ทางโซนยุโรปนะคะ เราก็เลยได้ทำธุรกิจนี้กับทางบ้านเรื่อยมา กระทั่งได้เจอกับแฟนและแต่งงานกัน
หลังจากนั้นเอ็มมี่ได้มีโอกาสไปเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 ปี และสามีเอ็มมี่เขาก็มีธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับตุ๊กตาโมเดลที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว เขาต้องเดินทางระหว่างไทยและญี่ปุ่นเป็นประจำ แทบจะทุกเดือนเลยก็ว่าได้ค่ะ พอเราแต่งงานและมีลูกกันแล้ว เราสองคนเลยคิดกันว่าเราควรจะเลือกแล้วว่าทำยังไงต่อไปกับชีวิตดี เพราะขืนสามียังเดินทางไปกลับระหว่างไทย-ญี่ปุ่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ คงจะไม่โอเคเท่าไหร่ เราเลยเลือกกันว่าถ้าอย่างนั้นเราไปทำธุรกิจและเปิดบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่นกันไหม
• ตัดสินใจบินไปเปิดบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่น?
เอ็มมี่กับสามีคิดว่าเราจะไปเปิดบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับตุ๊กตาโมเดลที่สามีทำอยู่แล้ว แต่การเปิดบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ แล้วไม่ง่ายเลยค่ะ
โดยส่วนใหญ่ที่เอ็มมี่คุยและหาข้อมูลจะต้องเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ไปเปิด แต่เราเป็นแค่บุคคลธรรมดาแต่จะอาจหาญไปเปิด เขาจะมองว่าเราสองคนเป็นใคร ทำไมอยู่ดีๆ จะมาเปิดบริษัท แล้วเราก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่ๆ อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อะไรเลย เราก็ต้องสู้รบกับการทำเอกสารเยอะมาก เราต้องแปลเอกสารตั้งแต่เกิดจนถึงกระทั่งเรียนจบ ต้องละเอียดมากๆ เพราะทางประเทศเขาก็กลัวเหมือนกันว่าเราจะไปทำอะไรที่ไม่ดีในประเทศเขา ตอนนั้นเราใช้เวลาเกือบครึ่งปีในการดำเนินการ จนได้เปิดบริษัทเป็นผลสำเร็จค่ะ
• แล้วธุรกิจขายของมือสองเริ่มต้นขึ้นตอนไหนคะ
หลังจากที่เปิดบริษัทตุ๊กตาโมเดล ด้วยความที่เป็นบริษัทของสามี เราเลยจะเป็นแม่บ้าน ก็จะอยู่ว่างๆ เลี้ยงลูก พอลูกเข้าโรงเรียน เราก็เหงา เราก็จะอาศัยการเล่นเฟซบุ๊กกับเพื่อนๆ ก็คุยกันจิปาถะ และได้คุยกันเรื่องสินค้า เขาก็ถามว่าสินค้านี้ที่ประเทศญี่ปุ่นขายเท่าไหร่ ในสมัยนั้นประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว สินค้าหลายๆ อย่างในประเทศญี่ปุ่นจะราคาถูกกว่ากันประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้วนะคะ (หัวเราะ) ตั้งแต่นั้นมาเอ็มมี่เลยเปิดเพจรับจัดซื้อสินค้าญี่ปุ่น ส่งให้ลูกค้าคนไทยที่ต้องการสินค้าญี่ปุ่น และต่อยอดมาเรื่อยๆ ค่ะ
• กระทั่งต่อยอดมาเป็นธุรกิจเสื้อผ้ามือสองภายใต้ชื่อ ZOZO by EMMY
ตั้งแต่นั้นเอ็มมี่ก็เริ่มมีความคิดว่าอยากจะทำธุรกิจอย่างเต็มตัว ประจวบกับที่ญี่ปุ่นเป็นแหล่งประมูลสินค้าที่ใหญ่มาก ซึ่งเอ็มมี่ก็มีโอกาสได้ไปและโชคดีที่ได้รู้จักเพื่อนญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อว่า “คุณมิจิโอะ ซูซูกิ (Michio Suzuki)” คุณมิจิโอะจะเป็นคนที่ในวงการสินค้ามือสองญี่ปุ่นรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และจากการเข้างานประมูลที่ทุกวันนี้ได้เป็นพาร์ตเนอร์กันด้วย คุณมิจิโอะจะคอยสอน คอยแนะนำ คอยดำเนินการให้ จนเอ็มมี่ได้เข้ามาทำกิจการนำเข้าสินค้าญี่ปุ่น โดยจะเป็นการตัดล็อตเป็นตู้คอนเทนเนอร์ให้แก่ลูกค้าคนไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ทำมานานหลายปีเหมือนกันค่ะ
ZOZO BY EMMY เปิดขึ้นมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้วค่ะ ตรงนี้ก็เป็นผลพวงจากธุรกิจนำเข้าสินค้ามือสองจากญี่ปุ่น ต้องให้เครดิตทางคุณมิจิโอะด้วยค่ะ ที่ทำให้เอ็มมี่ได้สิทธิ์จากเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่น อย่าง ZOZO ให้เอ็มมี่สามารถใช้ชื่อ ZOZO BY EMMY ได้ ณ วันนี้ เอ็มมี่ก็เป็นเจ้าเดียว บริษัทเดียวเท่านั้นที่ได้สัมปทานขายในเมืองไทยอย่างทุกวันนี้ค่ะ
• ZOZO by EMMY แตกต่างจากเสื้อผ้ามือสองที่อื่นยังไงบ้าง
ZOZO BY EMMY เป็นมิติใหม่ของเสื้อผ้ามือสองเลยก็ว่าได้ค่ะ ลูกค้าสามารถลบภาพเสื้อผ้ากระสอบ เหมือนอย่างที่ซื้อกันทั่วไปได้เลย อีกอย่างเสื้อผ้ามือสองของเราทุกตัวจะมีคอนเซ็ปต์ “สวย สะอาด พร้อมใช้งาน” เพราะเสื้อผ้าทุกชิ้นจะถูกคัดเลือกและทำความสะอาดในแบบมาตรฐานคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ลูกค้ามักจะถามเสมอว่านี่ไม่ใช่มือ 1 เหรอ อะไรทำนองนี้ค่ะ
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เอ็มมี่ไม่สนใจของมือสองมาก่อนเลยนะคะ คือที่ไม่ชอบเพราะว่าเมื่อก่อนเวลาที่เอ็มมี่ซื้อเสื้อผ้ามือสองมา จะเอาเข้าบ้านแต่ละทียากมากเลยนะคะ คุณแม่จะต้องต้ม ฆ่าเชื้อ ใส่เกลือ ใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ ทำทุกอย่างเลยกว่าจะเอามาใส่ได้
ยกตัวอย่าง เช่น เสื้อผ้ามือสองอย่างเสื้อกันหนาวที่เอมมี่เคยซื้อมากว่าเราจะได้ใช้งาน เราต้องซัก ต้ม ฆ่าเชื้อ ซึ่งผ้าบางชนิดถ้าทำผิดวิธีเสื้อผ้าก็จะเสียเลย เราก็จะต้องส่งให้ร้านซักแห้งและส่งซักแต่ละทีก็ค่อนข้างแพง ดังนั้นพอเอ็มมี่ได้มาทำธุรกิจนี้จึงนำเสื้อผ้าทุกตัวไปผ่านกระบวนการซัก อบแห้ง ฆ่าเชื้อโรค พับใส่ถุงให้อย่างดี อีกทั้งติดบาร์โค้ดให้ด้วยเหมือนสินค้าใหม่ พร้อมจำหน่ายเลยค่ะ
• แบบนี้ถ้าอยากทำธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสองบ้างจะต้องทำอย่างไรคะ
เอ็มมี่จะขายส่ง 1,000 ตัว ราคาเพียงตัวละ 35 บาทเท่านั้นค่ะ 1,000 ตัวคุณสามารถเปิดร้านได้เลย จะเปิดขายหน้าร้าน เปิดให้เช่า หรือจะขายออนไลน์ก็ได้ สินค้าเราจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นร่วมสมัย จะมีทุกแบบทุกแนว ทุกดีไซน์ ทุกไซส์ มีทั้งเสื้อกันหนาว เสื้อยืด เสื้อแฟชั่น กระโปรง กางเกง เราจะคละให้หมดเลยค่ะ 1,000 ตัว จะได้สินค้าถึง 1,000 แบบ ถ้านำเอาไปขายยังไงก็ได้กำไรแน่นอนค่ะ เอ็มมี่มองว่าคุ้มค่าจริงๆ ค่ะกับการเริ่มต้นทำธุรกิจในราคา 35,000 บาท
• ผลตอบรับที่ผ่านมา
การทำธุรกิจนี้จริงๆ แล้วเอ็มมี่ไม่ได้มั่นใจเลยนะคะ เพราะว่ายังไม่มีใครเคยทำมาก่อน ยอมรับว่าเอ็มมี่ก็เจ็บมาเยอะ มีบาดแผลมาเยอะมากเหมือนกัน เพราะหนทางที่ผ่านมาเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย เจอทั้งกรวดทั้งหินมาค่อนข้างเยอะ เราต้องฝ่าฟัน
ผลตอบรับที่ผ่านมาถือว่าดีเลยค่ะ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ยกตัวอย่างเช่น มีลูกค้าของเราบางท่านลองนำไป Live สดในเฟซบุ๊กขายก็ขายดี สามารถขายได้วันละ 200 ตัวเลยก็มี แต่ลูกค้าบางท่านที่ไม่เคยขายของมือสองมาก่อนเลยก็มี เพราะอาจจะยังไม่มีช่องทางในการขาย เอ็มมี่ก็จะให้คำปรึกษา บอกเขาไปว่าอย่าท้อ ให้ใจเย็นๆ เราดูแลเขาเหมือนครอบครัว สุดท้ายเขาก็ขายได้และขายดีค่ะ
หรืออย่างมีลูกค้าที่เป็นคุณหมอมาซื้อเหมือนกันนะคะ เพราะว่าเขาเห็นแล้วว่าสินค้าเราปลอดภัย คุณหมอมาที่หน้าร้านกัน 3 ท่าน มาซื้อสินค้าเรา 1,000 ตัว เอาไปเลือกสรรเพื่อนำไปใส่ พอเลือกตัวที่ชอบกันเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็จะนำตัวที่เหลือไปขายต่อให้กับคุณหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลซึ่งก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีมากค่ะ
ล่าสุดตอนนี้มีห้างสรรพสินค้าขอติดต่อให้นำเสื้อผ้ามือสอง แบรนด์ ZOZO by EMMY ไปลงขาย จริงๆ ทางห้างฯ เขาจะไม่มีนโยบายให้นำสินค้ามือสองเข้าไปขายนะคะ เพราะกลัวว่าลูกค้าของทางห้างฯ จะแพ้ฝุ่น แพ้กลิ่นอะไรต่างๆ แต่เขาเห็นสินค้าเราแล้วว่าสวย สะอาด พร้อมใช้งานจริงๆ ตอนนี้เอ็มมี่ก็ยังกำลังคิดๆ อยู่เหมือนกันค่ะ ซึ่งต้องขอบคุณทางห้างฯ มากๆ เลยค่ะที่ให้ความสนใจสินค้าของเรา
• ในฐานะคนทำธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง คิดว่าธุรกิจนี้ในอนาคตจะเป็นยังไงต่อไปบ้างคะ
เอ็มมี่มองว่าการทำธุรกิจเสื้อผ้าไม่มีวันตายแน่นอนค่ะ เพราะแฟชั่นยังไงก็อยู่คู่โลก ส่วนใครที่อยากทำธุรกิจ เอ็มมี่อยากฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจว่า แค่คุณขยัน ตั้งใจ ยังไงก็ไม่อดตายแน่นอนค่ะ หากสนใจอยากร่วมทำธุรกิจกับเราสามารถติดต่อได้ที่ : 09-9109-9595 Line@ : @emmy.japanshop หรือ ZOZO by EMMY JAPAN ได้เลยนะคะ
สนใจติดต่อ เบอร์โทร. 09-9109-9595
Line@ : @emmy.japanshop
Facebook fanpage : ZOZO by EMMY
ข้อมูล/ภาพ : รายการพระอาทิตย์ Live ช่อง News1
เรียบเรียง : วรัญญา งามขำ