เปิดให้ดาวน์โหลดไปแล้วอย่างเป็นทางการ สำหรับแอปพลิเคชัน K PLUS ธนาคารกสิกรไทย ทดแทนของเดิมที่ใช้กันมา 5 ปี
อาจเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของธนาคารขนาดใหญ่ ที่มีฐานลูกค้าดิจิทัล แบงกิ้ง อยู่ในมือมากถึง 9.4 ล้านราย เป็นอันดับ 1 ในแวดวงธนาคาร
K PLUS เวอร์ชันใหม่ ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการพัฒนาระบบ โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง ธนาคารกสิกรไทย กับ กสิกร บิสซิเนส เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) บริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย
ความเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่สำคัญ ที่ผู้ใช้งานจะต้องเจอ มีอยู่ 5 อย่าง ได้แก่
1. ดีไซน์ใหม่หมดจด ตั้งแต่โลโก้แอปฯ ไปจนถึงหน้าตาแอปฯ จากเดิมเป็นรูป K แบบพู่กันจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คู่กับธนาคารกสิกรไทย กลายมาเป็นรูป K แบบอักษรตัวหนา พร้อมเครื่องหมาย + ให้มีความเป็นสากล ทันสมัย เข้ากับชีวิตยุคดิจิทัล
K PLUS เวอร์ชันใหม่ ยังเชื่อมโยงกับข้อมูล (Big Data) มาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เพื่อนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการลูกค้า “รายคน” ผ่าน K+ TODAY และการแจ้งเตือนต่างๆ อีกด้วย
เมื่อกดแอปฯ ขึ้น หน้าตาและเมนูจะถูกจัดวางขึ้นมาใหม่ ด้านบนสุดจะเป็นเมนู “บัตรสมาชิก” สำหรับแสดงร้านค้าแทนแทนบัตรแข็ง “รายการสั่งซื้อ” และ “ร้านค้าโปรด” สำหรับ K+ Market
ตรงกลางจะเป็น “K+ TODAY” เป็นการแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ ซึ่งจะประมวลผลผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตามมาด้วย “MY FAVORITES” ให้เราตั้งค่ารายการที่ใช้ประจำ เช่น โอนเงิน เติมเงิน
ด้านล่างจะมีเมนูแบ่งออกเป็น 5 เมนู ได้แก่ “หน้าแรก”, “K+ Market”, “ธุรกรรม” ไอคอนสีเขียวอมฟ้าโดดเด่น, “สแกน” สำหรับสแกนคิวอาร์โค้ด และ “อื่นๆ” เช่น การตั้งค่า, ค้นหาสาขาและจุดให้บริการ, แนะนำการใช้งาน ฯลฯ
ที่สำคัญ แอปฯ K PLUS ใหม่ สามารถใช้งานผ่านไว-ไฟ ได้ตลอดเวลาแล้ว จากเดิมให้ใช้ได้ 90 วัน เป็นไม่มีกำหนด เนื่องจากยังมีความปลอดภัยอีก 2 ชั้น คือ ซิมการ์ดของตนเอง และรหัส PIN ของตนเอง
แต่ถ้ากลัวเรื่องความปลอดภัย ก็สามารถตั้งค่าปิดการใช้งานผ่านไว-ไฟ เหมือนเดิมได้ โดยเข้าไปที่ “การตั้งค่า” เลือก “ตั้งค่าแอปพลิเคชัน” “รหัสผ่าน/การใช้งาน/ภาษา/อื่นๆ” เลือกปิด “อนุญาตการเข้าใช้งานผ่าน Wi-Fi”
2. อี-สลิปรูปแบบใหม่ แม้จะเป็นธนาคารแรกๆ ที่มี อี-สลิป เป็นไฟล์ภาพเป็นหลักฐานทำรายการสำเร็จ โดยเฉพาะโอนเงิน ที่แม่ค้าออนไลน์ชอบมาก ลูกค้าโอนเงินเสร็จ ส่งอี-สลิปไปยังอินบ็อกซ์ให้ทันที กลายเป็นต้นแบบให้ธนาคารอื่นทำตาม
แต่ที่ผ่านมา พบปัญหามิจฉาชีพหัวใส ตัดต่อตัวเลขหรือข้อมูลในอี-สลิป เพื่อทุจริต ทำเอาแม่ค้าออนไลน์เสียหายเ พราะถูกโกงมาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงได้เพิ่ม “คิวอาร์โค้ด” ลงไปในอี-สลิปเพื่อใช้ตรวจสอบรายการกับแอปฯ ว่าถูกต้องหรือไม่ วิธีตรวจสอบมี 2 วิธี คือ
1. ถ้าเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือมือถืออีกเครื่องหนึ่ง หยิบมือถือกดแอปฯ เข้าไปที่เมนู “สแกน” แล้วสแกนคิวอาร์โค้ดทันที
2. ถ้าอยู่ในเครื่องเราเอง เซฟภาพลงใน Gallery เข้าไปที่เมนู “สแกน” กด “เลือกรูปภาพ” แล้วเลือกอี-สลิปที่ต้องการใน Gallery
ระบบจะขึ้นข้อความ “ตรวจสอบรายการสำเร็จ” แสดงจำนวนเงิน ค่าธรรมเนียม วันที่ทำรายการ เลขที่รายการ จากบัญชีหนึ่ง ไปยังบัญชีหนึ่ง
ข้อควรจำก็คือ สามารถตรวจสอบ อี-สลิป ย้อนหลังได้สูงสุด 90 วัน นับจากวันที่ทำรายการสำเร็จ หากพ้นจากวันนั้นจะไม่สามารถทำรายการตรวจสอบ อี-สลิป ได้
3. กดเงินไม่ใช้บัตร แม้จะตามหลังธนาคารอื่น แต่แอปฯ K PLUS เวอร์ชันใหม่ แต่ก็เพิ่มความปลอดภัย ด้วยการกำหนดให้โทรศัพท์มือถือเป็นของตนเท่านั้น ถอนเงินจากเครื่องเอทีเอ็มกสิกรไทย (K-ATM) กว่า 9,000 เครื่องทั่วประเทศ ด้วยวิธีสแกนคิวอาร์โค้ด
การถอนเงินสดจะอยู่ในเมนู “ธุรกรรม” โดยการใส่ PIN 6 หลัก แล้วเข้าไปที่ “ถอนเงิน” เลือกจำนวนเงินที่ต้องการ ไปที่เครื่องเอทีเอ็มกสิกรไทย (K-ATM) เลือก “ถอนเงินไม่ใช้บัตร” เลือก “K PLUS” บน K-ATM ก่อนสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วรับเงิน
4. K+ Market ร้านค้าออนไลน์ ให้เลือกช้อปออนไลน์กับสินค้าหรือบริการจากร้านค้าดัง และสินค้าเกษตรที่คัดสรรในราคาพิเศษ โดยสามารถชำระผ่าน K PLUS กรอกที่อยู่จัดส่ง แล้วรอรับสินค้าได้ทันที
สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถนำคะแนนสะสม KBank Reward Point ที่มีอยู่ซื้อสินค้าได้ทันที โดยทุก 1,000 คะแนน แลกได้ 100 บาท
5. บัตรสมาชิก ด้วยความที่ K PLUS ถูกวางให้เป็น โอเพ่น แพลตฟอร์ม (OPEN PLATFORM) เชื่อมต่อกับพันธมิตรธุรกิจต่างๆ
หลังจากประเดิมให้ลูกค้าบัตรสมาชิก PTT Blue Card เชื่อมโยงบัตรสมาชิกเข้ากับแอปฯ เพื่อสะสมคะแนนจากการจ่ายด้วยคิวอาร์โค้ดกับร้านค้ากลุ่ม ปตท. ได้ทันที
มาคราวนี้ จับมือกับกลุ่มเซ็นทรัล เชื่อมโยงบัตรสมาชิกเดอะวัน (The 1) เพื่อใช้แทนบัตรพลาสติกสะสมคะแนนตามร้านค้าปลีกกลุ่มเซ็นทรัล และตรวจสอบคะแนนได้ทันที
วิธีการก็คือ ให้เข้าไปที่ “บัตรสมาชิก” เลือก “เพิ่มบัตรสมาชิก” เลือก “The 1” เข้าสู่หน้าความยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว กด “ยอมรับ” จะขึ้นข้อความ “เพิ่มบัตรสำเร็จ” พร้อมหมายเลขบัตร
ช่วงแนะนำ กลุ่มเซ็นทรัลมอบคูปองส่วนลด 25 บาท ที่ท็อปส์, ส่วนลด 10% ที่ Super Sport และส่วนลด 30 บาท ที่ B2S โดยเข้าไปที่ “รายการสั่งซื้อ” หมดเขต 31 ม.ค. 2562
ในอนาคตจะยังมีบัตรสมาชิกจากพันธมิตรตามมาอีกมากมาย อาทิ เอไอเอส, โรงภาพยนตร์เอสเอฟ, โรงพยาบาลสมิติเวช, การบินไทย, สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, สายการบินไทยแอร์เอเชีย เป็นต้น
พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ยืนยันว่า การพัฒนา K PLUS เวอร์ชันใหม่ครั้งนี้ นอกจากจะเปลี่ยนหน้าตาแล้ว ยังดูแลระบบไม่ให้ล่มไปพร้อมกันด้วย
ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ใช้ K PLUS มากถึง 9.4 ล้านราย (ณ เดือนกันยายน 2561) คิดเป็น 61% ของลูกค้าธนาคารทั้งหมด 15 ล้านราย ปริมาณธุรกรรม 3.6 พันล้านรายการต่อปี
ธุรกรรมยอดฮิตที่ทำรายการมากที่สุด เป็นรายการเช็กยอดเงิน เฉลี่ย 1.7 ครั้งต่อวัน รองลงมาคือโอนเงิน 0.7 ครั้งต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 80% หลังฟรีค่าธรรมเนียม
ส่วนฟังก์ชันไลฟ์สไตล์ พบว่า มีเพียง 5 แสนรายการต่อเดือน น้อยกว่า 1% ของรายการโอน-เติม-จ่าย
K PLUS ใหม่ คาดหวังว่า จะช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นปีละ 2 ล้านบัญชี และมีฐานลูกค้ารวม 20 ล้านราย รวมทั้งขยายปริมาณธุรกรรมจากฟังก์ชั่นไลฟ์สไตล์จาก 1% เป็น 5-10% ภายใน 1 ปี