กลุ่มลูกศิษย์สำนักสงฆ์เต่าดำ ระบุ สถานที่ปฏิบัติธรรม ถูกรบกวน พระสงฆ์อยู่มานาน ดูแลป่าอย่างดี วอนตำรวจดำเนินคดีคนทำผิดจริงจัง เผย สงสัยหมีขอถูกล่าระหว่างทางจากด่านป่าไม้ กับหน้าสำนักสงฆ์ และขอให้เร่งรัดสร้างด่านเนินเขาพลูไว้คัดกรองคนเข้าป่า
วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักสงฆ์เต่าดำ ป่าเขาพลู หมู่ 8 ต.วังกระแจ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรม ที่มีเป็นพระอาจารย์สิริปันโน อดีตทายาทมหาเศรษฐีชาวมาเลเซีย ตัวแทนวัดป่านานาชาติ เป็นพระดูแลสำนักสงฆ์ และมีพระภิกษุชาวไทยและต่างประเทศ จำพรรษาประจำอยู่ 5 รูป โดยปกติแล้วทางสำนักสงฆ์นั้น จะอยู่กันอย่างพอเพียง มีกลุ่มลูกศิษย์ในกรุงเทพฯ ปทุมธานี และ กาญจนบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มรถออฟโรดจะสลับกันนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปถวาย เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง และในบางครั้งที่เกิดมีพระสงฆ์อาพาธ ต้องการรักษาตัวในโรงพยาบาลก็จะมีการนำรถออฟโรดไปรับมาทำการรักษา
สำหรับการเดินทางของกลุ่มออฟโรดแต่ละกลุ่มนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ปทุมธานี หรือ กาญจนบุรี จะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และผู้นำในชุมชนทุกครั้ง เพื่อขอเข้าพื้นที่ และมีข้อตกลงที่ชัดเจนว่า จะสามารถนำสิ่งของใดเข้ามาในพื้นที่ป่าและสำนักสงฆ์ได้บ้าง หรือมีสิ่งต้องห้าม อาทิ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาวุธปืน เป็นต้น ก็จะไม่มีการฝ่าฝืนกันเด็ดขาด และหากกรณีมีผู้มีจิตศรัทธาจะขอเข้าไปร่วมทำบุญ หรือถวายของให้พระสงฆ์ด้วยตัวเองนั้น ก็จะมีการนัดหมายให้พักอยู่ในที่พักอุทยานฯ ก่อน 1 คืน แล้วในช่วงเช้าจะอนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้ โดยจะต้องมีการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นลายลักษณ์อักษร อีกทั้งยังมีการจดทะเบียนรถออฟโรดทุกคันไว้เพื่อตรวจสอบด้วย
กรณีที่เกิดขึ้นกลุ่มของ นายวัชรชัย สมีรักษ์ อดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี นั้น พบว่า เข้าพื้นที่ป่าโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่เข้าไปถึงด่านแล้วอ้างชื่อของหัวหน้าหน่วยกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวจำเป็นต้องให้เข้าไปในเขตป่า แต่เมื่อมีการปล่อยไปแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็รีบรายงานให้ทางหัวหน้ารับทราบทันที เนื่องจากสังเกตเห็นว่า ในรถมีของต้องห้าม คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อยู่ด้วย อีกทั้งกลุ่มดังกล่าวก็ไม่เคยเข้าไปถวายของให้กับสำนักสงฆ์เหมือนเช่นกลุ่มออฟโรดอื่นๆ ที่เป็นทีมงานประจำอยู่แล้วด้วย แต่จะมาใช้เส้นทางไปสำนักสงฆ์พักแรมเท่านั้น ซึ่งเคยทำมาแล้วประมาณ 2-3 ครั้งด้วยกัน
โดยหลังเกิดเรื่องแล้วนั้น กลุ่มลูกศิษย์สำนักสงฆ์เต่าดำ รู้สึกไม่สบายใจที่ทางสถานปฏิบัติธรรม ถูกรบกวนจากกลุ่มคนที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่มาแอบอ้างเพื่อเข้าพื้นที่ป่า เพราะพระสงฆ์จะช่วยกันดูแลป่าร่วมกับคนในชุมชน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้อย่างเข็มแข็ง ทำให้พื้นที่ดังกล่าวสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้น สำหรับหมีขอที่พบเพียงขา 4 ข้างนั้น คาดว่า น่าจะถูกล่าในช่วงระหว่างทางจากด่านป่าไม้กับหน้าที่เข้าสำนักสงฆ์ ที่มีสัตว์อยู่ตามข้างทางเป็นปกติ และหากเลยที่ตั้งสำนักสงฆ์ไปนั้น ยังมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิดด้วยกันที่มีชีวิตอย่างสงบสุข ทางกลุ่มลูกศิษย์จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีนี้อย่างจริงจังและให้เร่งรัดทำด่านถาวรระหว่างด่าน ตชด.กับด่านป่าไม้ ที่เนินเขาพลู ซึ่งอยู่ระหว่างกรมป่าไม้พิจารณางบประมาณ เพราะหากมีด่านดังกล่าวจะช่วยตรวจสอบคัดกรองการเข้าพื้นที่ได้อีกชั้นหนึ่งด้วย