“เรโทรสเปกต์” ชี้ คนให้อาหารปลาพลวง น้ำตกพลิ้ว จนระบบนิเวศพัง ปลาผอมโซ

วงเรโทรสเปกต์ โพสต์ชี้ให้ตระหนักถึงปัญหาปลาพลวงผอมโซ หลังประชากรล้น เพียงเพราะมนุษย์แย่งกันให้อาหาร สุดท้ายหยุดให้จนระบบนิเวศพังปลาผอมตาย ด้านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้แจงกลับไม่เป็นปัญหา

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เพจเฟซบุ๊ก “Retrospect” วงดนตรีแนวเฮฟวีเมทัลชายชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์ทางธรรมชาติ หลังพบว่าปลาพรวงที่น้ำตกพลิ้ว จันทบุรี นั้น บางคัวนั้นผอมจนหนังติดกระดูกเหตุผลหากินเองไม่เพียงพอต่อประชากรปลาทั้งหมด จนต้องมีตัวที่อดอาหารจนผอมโซ ซึ่งสาเหตุหลักเป็นเพราะน้ำมือมนุษย์ที่ให้อาหารจนปลาเพิ่มประชากรจนเกินที่ระบบนิเวศจะรับไหว

โดยมีเนื้อหาว่า “ปลาพลวงที่น้ำตกพลิ้ว ผอมจนเหลือแต่กระดูก และกำลังจะตายไป หากเมื่อก่อนคุณเคยได้มีโอกาสไปเที่ยว น้ำตกพลิ้ว จันทบุรี คุณจะได้พบกับฝูงปลาพลวงเป็นจำนวนมาก ที่หลายคนจะลงไปถ่ายรูปด้วยหรือให้อาหารด้วยถั่วฝักยาว ให้อาหารกันเยอะจนปลามีจำนวนมากขึ้นๆๆๆ ทำแบบนั้นกันมานาน จนปลาชินกับการที่มนุษย์ให้อาหาร จนเมื่อปีก่อน ที่มีข่าวเรือทัวร์ล่อปลาทะเลมาหานักท่องเที่ยวด้วยขนมปัง ทาง กรมอุทยานแห่งชาติ จึงห้ามให้อาหารสัตว์ทุกชนิดในอุทยานทั่วประเทศ รวมถึงปลาพลวงที่น้ำตกพลิ้วด้วย จากการเลี้ยงอาหารของคน ทำให้ประชากรปลาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมจนเสียสมดุลย์กับอาหารในธรรมชาติ อาหารธรรมชาติเลยมีไม่พอสำหรับจำนวนปลาทั้งหมด จริงๆ เราผิดกันเองที่ไปให้อาหารมันแต่แรก จนมันเสียสมดุล แต่การปล่อยให้ปลาตายเพื่อคัดตัวที่แข็งแรงไว้ มันสมควรหรือ? เราเล่นบทบาทผู้สร้างแบบผิดๆ พอระบบพังก็ปล่อยให้ธรรมชาติรับผิดชอบงั้นหรือ?

ขณะนี้ปลาที่น้ำตกผอมเหลือแต่กระดูกและกำลังจะตายไปอย่างทรมาน เป็นไปได้ไหมว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันแชร์ถึงปัญหานี้และให้สังคมได้รู้ว่าเรื่องนี้มองข้ามไม่ได้ ปลากำลังจะผอมตาย เราควรต้องหาทางออกที่พอดีให้กับเรื่องนี้ได้โดยที่เราไม่ต้องให้ปลาเป็นพันๆตัวต้องตาย ทำแบบนั้นได้ไหม มาช่วยกันหาทางออกให้กับปลาเหล่านี้กันนะครับ เข้าใจว่าเราสามารถปล่อยให้ธรรมชาติคัดให้เหลือแค่เพียงปลาที่แข็งแรง แล้วสมดุลก็จะกลับมา แต่รู้สึกว่า ทำไมปลาที่มนุษย์ทำให้มีจำนวนเยอะเอง ต้องมาถูกตัดสินให้ตาย เรารับผิดชอบเขามากกว่านี้ไม่ได้เลยหรือ (ส่วนตัวเบื้องต้นคิดว่าควรให้อาหารปลาเหล่านี้ให้แข็งแรง หลังจากนั้น ค่อยย้ายปลาออกไปสู่แหล่งน้ำอื่น เหลือไว้เพียงจำนวลที่สมดุลกับอาหารทางธรรมชาติ แต่ก่อนอื่นเลย ปลาผอมอ่อนแอแบบนี้ขนย้าย ตายแน่นอน ต้องให้อาหารก่อน) อยากให้ทุกคนช่วยกันแชร์จริงๆ ช่วยที”

ด้าน นายพิทักษ์ อินทศร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้แจงกลับกรณีดังกล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าคนที่ถ่ายภาพปลาพลวงแล้วเอามาโพสต์นั้นเป็นภาพถ่ายตั้งแต่เมื่อไร แต่อยากจะชี้แจงว่า เวลานี้ ฝูงปลาพลวงในน้ำตกพลิ้วนั้น เริ่มเข้าสู่กระบวนการความสมดุลในธรรมชาติแล้ว มีหลักการคือ ธรรมชาติจะเป็นตัวคัดเลือกว่าปลาตัวไหนที่มีความแข็งแรงที่สามารถอยู่ได้ ปลาตัวไหนที่อ่อนแอก็ตายไป ประชาชน ไม่ต้องเป็นห่วงว่า ไม่มีใครให้ปลากินถั่วฝักยาวแล้ว ปลาจะอด แต่โดยธรรมชาติปลามีอาหารอยู่แล้ว คือ ลูกมะเดื่อ รากไม้ ที่ไหลมากับน้ำตก ซึ่งมีมากพอกับปริมาณปลาที่มีอยู่เวลานี้ และหลังจากนี้ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่า ปลาพลวงจะเจริญเติบโต และมีชีวิตอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืน”

โดย วงเรโทรสเปกต์ (Retrospect) เป็นวงดนตรีแนวเฮฟวีเมทัลที่นำเสนอเพลงและเสียงร้องที่หนักหน่วงผสมทำนองที่อ่อนหวาน โดยที่เป็นที่รู้จักกันดีคือนักร้องนำของวง ชนัทธา สายศิลา (แน็ป) และมีสมาชิกอื่นคือ ธนพล ศรีกาญจนา (น็อต) ณพวัชร คชาชีวะ (บอม) ศุทธิพันธ์ สังข์ยุทธ (เบิร์ธ) ศรัณย์เขษ เจริญสรรพ์ (รัน)

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตเข้ามาให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์นี้มีต้นเหตุ คือ 1. เพราะคนให้อาหาร จนไม่สามารถหาเงินกินเองได้ 2. ต่อมาทำให้เกิดประชากรล้น overpopulation
3. ต่อมาอาหารมีจำกัด (เกี่ยวกับ carrying capacity) ก็ต้องเกิดการตายเกิดขึ้น อันนี้เป็นกลไกในการควบคุมโดยธรรมชาติ เรียกว่า bottom up control ปกติธรรมชาติมันก็เป็นอยู่แล้ว แต่มันสมดุลจนเรามองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเราไปให้อาหารจนเกิดประชากรล้น มันจะเห็นชัดเจน จะเกิด overshoot เกิน carrying capacity ถ้า overshoot ไม่มาก การล้มตายของปลาเหล่านี้ก็ไม่มาก ถ้า overshoot เกินcarrying capacity ไปมาก หลังจากนี้ ก็จะต้องตายมากหน่อย เพราะต้นเหตุคือการแทรกแซงให้อาหารปลาของคน แต่วิธีแก้คือแก้ที่ต้นเหตุหยุดให้ และพอปลาตายไป (บางส่วน ส่วนเกินที่ล้น) เดี๋ยวธรรมชาติก็ปรับสมดุลเอง มันต้องใช้เวลา
carrying capacity = จำนวนสูงสุดของสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆ ที่ สิ่งแวดล้อมหรือระบบนิเวศนั้นๆ สามารถรองรับได้ (ในระยะยาว)