xs
xsm
sm
md
lg

ร.๓ ปราบฝิ่นยึดมาเผากลางเมืองครั้งแรก! นำกลักใส่ฝิ่นมาสร้างพระพุทธรูป “หลวงพ่อกลักฝื่น”!!

เผยแพร่:   โดย: โรม บุนนาค

พระพุทธเสรฏฐมุนี หรือ หลวงพ่อกลักฝิ่น
พระพุทธรูป เป็นสัญลักษณ์แทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เคารพนับถือสูงสุดของชาวพุทธ แม้จะทำจากวัสดุสิ่งใดก็ดูจะไม่ใช่เรื่องสำคัญ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงใช้กลักใส่ฝิ่นสร้างเป็นพระพุทธรูปมาแล้ว ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์ราชวรารามในปัจจุบัน

ฝิ่นเริ่มระบาดหนักเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ ๒ โดยพ่อค้าอังกฤษเอาฝิ่นที่ปลูกในอินเดียไปขายในเมืองจีน จนมีคนจีนติดฝิ่นกันมากมาย เมื่อคนจีนอพยพเข้ามาอยู่ประเทศไทยก็ได้ขนฝิ่นมาสูบด้วย ทั้งยังมีพ่อค้าลักลอบนำฝิ่นตามเข้ามามอมเมาคนจีนถึงเมืองไทย ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ฝิ่นได้ระบาดไปทั่ว
ในปี ๒๓๘๒ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯได้ส่งจมื่นราชามาตย์ พร้อมด้วยจมื่นรักษ์พิมาน และหลวงนายเสน่ห์รักษา ลงไปปราบปรามการลักลอบค้าฝิ่นแถบเมืองปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงเมืองตะกั่วป่า ภูเก็ต และถลาง ยึดฝิ่นได้ถึง ๓,๗๐๐ หาบเศษ เป็นฝิ่นสุก ๒ หาบ นำมากรุงเทพฯ

โปรดให้จัดพิธีใหญ่ เผาฝิ่นเหล่านี้พร้อมด้วยอุปกรณ์การสูบ ต่อหน้ามหาชนที่หน้าพระที่นั่งสุทธาสวรรค์ มีการอ่านโองการสังเวยเทพเจ้าให้ดลบันดาลอย่าให้มีการลักลอบขนฝิ่นเข้ามาขายในเมืองไทย และสาปแช่งผู้ขาย ผู้เสพ และผู้กินฝิ่น ให้ประสบแต่ความพินาศฉิบหาย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการเผาฝิ่นในเมืองไทย ก่อนที่จะมีการเผาครั้งที่ ๒ ในปี ๒๕๐๒ ในสมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

สำหรับกลักที่ใช้บรรจุฝิ่นนั้นทำด้วยตะกั่ว ทรงเห็นว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ จึงโปรดให้หลอมแล้วนำไปหล่อเป็นพระพุทธรูป ได้พระพุทธรูปขนาดใหญ่หน้าตักกว้าง ๔ ศอก ๑ คืบ ๑ นิ้ว อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ ศาลาการเปรียญวัดสุทัศน์เทพวราราม ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อกลักฝื่น” บ้าง “หลวงพ่อหลอดฝื่น” บ้าง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ถวายพระนามว่า “พระพุทธเสรฏฐมุนี” ให้สอดคล้องกับนามพระพุทธรูปที่สำคัญของวัดอีก ๒ องค์ คือ “พระศรีศากยมุนี” และ “พระพุทธตรีโลกเชษฐ”


กำลังโหลดความคิดเห็น