ผลจากพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้ต้นไทรใหญ่หน้าหอศิลป์ถูกแรงลมโค่นจนล้ม โชคดีที่ท้องพระโรงอายุเก่าแก่ไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงกำแพงส่วนมุมด้านข้างและสำนักหอสมุดเสียหาย
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. เฟซบุ๊ก Taye Sirikulchayanont ของ ดร.ปรมพร ศิริกุลชยานนท์ ผู้อำนวยการหอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้โพสต์ภาพต้นไทรใหญ่ล้มลง บริเวณมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตวังท่าพระ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เนื่องจากพายุฝนฟ้าคะนอง โดยระบุว่า “เมื่อหัวค่ำ รับโทรศัพท์จากงานอาคารฯ วังท่าพระ เดาแล้วว่าต้องมีอะไร ใจภาวนาอย่าให้เกี่ยวกับอาคารเลย ตอนราวๆ สองทุ่ม พายุฝนแรงมากจนทำให้ต้นไทรใหญ่ที่มุมหน้าหอศิลป์ที่วังท่าพระโค่นล้มทั้งต้น เราเลยรีบเข้ามาที่วังท่าพระทันทีที่ฝนเริ่มซา ไปถึงราวสี่ทุ่ม ตกใจมากเพราะรถเข้าไปได้แค่หน้าประตูแดง ต้นไม้ใหญ่มาก เต็มพื้นที่ถนนด้านหน้า ยังดีที่ล้มไปทางหน้าหอสมุด เฉียดหน้าท้องพระโรงไปจริงๆ เลยเบียดหนักๆ ตรงกำแพงส่วนมุมที่ต้นไม้เบียดอยู่เดิมล้มไปแถบหนึ่ง (ที่ชำรุดอยู่แล้วบางส่วน) รวมถึงกิ่งพาดมาเฉียดเอาบางส่วนของเสากำแพงด้านหน้า แต่ไม่โดนตัวอาคารท้องพระโรง ไม่มีความเสียหายที่อาคารแต่อย่างใด
ใจหาย ... แต่อีกใจก็โล่งใจที่อาคารไม่เป็นอะไร กำลังคุยกับรุกขกรอยู่เลยว่าจะทำยังไงต่อดีกับรากที่ชอนไชและลำต้นที่ใหญ่มากจนเบียดกำแพงเสียหาย เพราะเราอยากจะรักษาไว้ทั้งคู่ ทั้งๆ ที่ทางอนุรักษ์เค้าก็แนะนำอย่างเดียวคือเอาออก ... ต้นไทรนี้เป็นต้นกาฝากที่มาขึ้นปกคลุมต้นเดิมจนมาแทนที่และใหญ่กว่า เราได้ให้รุกขกรมาตัดแต่งเพื่อให้ทิศทางการโตเป็นไปอย่างถูกต้อง แต่แล้วก็คงสู้แรงพายุไม่ไหว คงชรามากแล้ว ตอนเดินดูน้ำตาจะไหล ไม่มีใครอยากให้เกิด ขออย่าดราม่ากับเรื่องต้นไม้นะ เพราะถ้าเลือกได้ ก็อยากรักษาไว้ทั้งอาคารและต้นไม้ใหญ่”
ขณะที่เฟซบุ๊ก “ART CENTRE, SILPAKORN UNIVERSITY” ของหอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้โพสต์แจ้งความคืบหน้า ระบุว่า "สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ต้นไทรใหญ่ที่วังท่าพระโค่นล้มเนื่องจากพายุฝนเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา ทางหอศิลป์ฯ ได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหายของสถานที่แล้ว พบว่าตัวอาคารท้องพระโรงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด มีเพียงกำแพงส่วนมุมด้านข้าง และบางส่วนของเสากำแพงด้านหน้าที่เสียหาย รวมไปถึงพื้นที่สัญจรด้านหน้าของกำแพงท้องพระโรงและสำนักหอสมุดที่เสียหาย"
สำหรับวังท่าพระ หรือ วังล่าง จัดสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นที่ประทับของพระราชนัดดา พระเจ้าลูกยาเธอ พระราชโอรสต่างๆ กระทั่งทายาทของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ขายวังให้กับทางราชการ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้สร้างสถานศึกษาสำหรับวิชาศิลปะตามแบบยุโรปขึ้น ได้ใช้วังนี้เป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ จวบจนปัจจุบัน ภายในประกอบด้วย ประตูและกำแพงวังท่าพระ ท้องพระโรง กำแพงแก้ว ตำหนักกลาง ตำหนักพรรณราย และศาลาในสวนแก้ว
อย่างไรก็ตาม ต้นไม้ที่ถูกพายุโค่น เป็นคนละจุดกับต้นกร่างที่ตั้งอยู่หน้าคณะโบราณคดี ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ปลูกสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อนที่วังท่าพระจะเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร และได้รับรางวัลชนะเลิศต้นไม้ใหญ่ที่สุดจากการสำรวจของกรุงเทพมหานคร (กทม.)