หนุ่มโพสต์สอบถามความเห็นหลังเอาผิดพ่อค้าแม่ค้าเปิดร้านค้ารถเข็นขายส้มตำบนฟุตปาธ สุดท้ายโซเชียลฯ เสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง บางส่วนมองเป็นอาชีพสุจริต
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. เฟซบุ๊ก “แฮม เบอเกอร์” ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวหลังพบพ่อค้าแม่ค้าคู่หนึ่งซึ่งมีรถเข็นขายส้มตำบนฟุตปาธ หน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และกีดขวางทางเข้าออกหมู่บ้านศิริสุข โดยได้แจ้งเรื่องไปทางเทศบาลเรียบร้อยแล้ว
โดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า “ผมผิดหรือครับ ผมแค่แจ้งว่าสิ่งที่ท่านทั้งสองกำลังทำอยู่ มันทำให้คนในหมู่บ้านขับรถเข้าออกลำบาก และยังเริ่มบริบทของการเลียนแบบ เพราะจะทำให้พ่อค้าท่านอื่นๆ มาร่วมจำหน่ายสินค้า ณ ที่แห่งนี้ ตามมาในภายหน้า และที่สำคัญท่านกำลังทำผิดกฎหมาย
พระราชบัญญัติ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕
มาตรา ๒๐ ห้ามมิให้ผู้ใด
(๑) ปรุงอาหาร ขายหรือจำหน่ายสินค้าบนถนน หรือในสถานสาธารณะ
(๒) ใช้รถยนต์หรือล้อเลื่อนเป็นที่ปรุงอาหารเพื่อขายหรือจำหน่ายให้แก่ประชาชนบน
ถนนหรือในสถานสาธารณะ
(๓) ขายหรือจำหน่ายสินค้าซึ่งบรรทุกบนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อน บนถนน
หรือในสถานสาธารณะ
มาตรา ๕๔ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๕ มาตรา ๒๐
มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๙ มาตรา
๔๐ หรือมาตรา ๔๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
ผมมิได้มีเจตนาจะกีดกันคนค้าขายทำมาหากินหรอกครับ เพราะถ้ามีคนหนึ่งทำได้ คนอื่นๆ ก็จะเข้ามาขายตรงนี้เหมือนกัน เพราะเขาเห็นท่านทำได้ ผมถามว่าพอถึงตอนนั้นแล้ว มันจะแก้ไขง่ายใหมครับ? เลิกอ้างเสียทีเถอะครับว่าจน ต้องทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ ยังมีพ่อค้า แม่ค้า อีกมาก ที่หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน แต่เขาก็ยังทำถูกต้อง และถูกกฎหมาย หากทุกๆ คนอ้างเหมือนท่านในเรื่องความยากจนแล้วทำผิดกฎหมาย บ้านเมืองเราจะสงบสุขได้อย่างไรครับ?
ก่อนผมจะโพสต์นี้ได้มีกรรมการหมู่บ้านได้เชิญทั้งสองท่านให้ไปขายในหมู่บ้านแล้วครับ แต่ทั้งสองท่านก็ยืนยันที่จะขายตรงนี้ หากเรายังปล่อยปละละเลย คนขายในหมู่บ้านก็จะย้ายขึ้นมาขายหน้าปากซอยเช่นกันครับ ซึ่งมันอาจทำให้เกิดปัญหาได้ในอนาคตครับ
กราบขอบพระคุณทุกความเห็นครับ ผมได้แจ้งไปสำนักงานเทศบาลแล้วครับ หากทางเทศบาลยืนยันว่าแม่ค้าพ่อค้าทั้งสองท่านไม่ผิด ผมยินดีน้อมรับความผิด และยินดีไปขอโทษทั้งสองท่านครับ หากคนขายทั้งสองท่านมีความผิดจริง ผมขอให้ท่านทั้งหลายน้อมรับคำตัดสินทางเทศบาลด้วยนะครับ”