อุทาหรณ์ หนุ่มแพ้พิษมดตะนอยอย่างรุนแรงสิ้นใจเพียง 7 วันให้หลังจากอาการโคม่า แนะคนไทยใส่ใจอาการแพ้ต่างๆ บางครั้งพิษสัตว์ตัวเล็กๆ ก็อาจจะร้ายแรงกว่าที่คาดคิด
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. เฟซบุ๊ก “กำนัน สไตล์” ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการป่วยของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งมีอาการแพ้แมลงและร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต โดยออกมาเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตและอาการการแพ้ว่าเป็นอย่างไร และเชื่อว่ามีประโยชน์สามารถเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่มองว่าการแพ้ต่างๆ เป็นเรื่องเล็กๆ และปล่อยทิ้งไว้สามารถเสียชีวิตได้
โดยมีเนื้อหาว่า “ขอให้การเสียชีวิตของเอสนี้ เป็นวิทยาทานแก่คนที่ยังไม่ทราบถึงพิษภัยของแมลงสำหรับคนที่มีอาการแพัอย่างรุนแรง เอสถูกมดตะนอยตัวเล็กๆ ต่อย พูดไปหลายคนอาจจะขำ ตัวผมเองยังไม่เชื่อยังขำเอสเมื่อครั้งที่โดนต่อยครั้งก่อน เอสมาบอกผมว่าแพ้มดตะนอย เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 เวลา 18.00 น. ขณะนำส่งโรงพยาบาล เอสเกิดอาการแพ้พิษอย่างรุนแรง มีอาการหลอดลมตีบทำให้ขาดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ไม่ทราบว่าหมดสติไปตอนไหน เมื่อถึงโรงพยาบาลด่านช้าง แพทย์ได้ทำการปั้มหัวใจเพื่อฟื้นคืนชีพใช้เวลาประมาณ 7 นาทีจึงรู้สึกตัวขึ้นมา แต่ก็มีอาการชักเกร็งตลอดเวลา จึงนำส่งต่อโรงพยาบาลประจำจังหวัด เอสนอนไม่รู้สึกตัว จนถึงวันที่ 27 กันยายน 2561 เวลา 12.05 น. เอสได้จากไปอย่างสงบ ขอให้ดวงวิญญาณของเอสไปสู่สุคติ สู่ภพภูมิที่ดี
*หมายเหตุ เอสถูกต่อยทั้งหมด 5 ครั้ง ครั้งที่ 1 โดนต่อยข้างลำตัว แข็งบวมเป็นไต ปวดแสบปวดร้อนเป็นไข้ กินยาลดไข้แล้วก็หาย ครั้งที่ 2 โดนต่อยที่มือ มีอาการผื่นแดงปากชาเริ่มหายใจติดขัด มาพบหมอที่คลีนิคทัน หมอฉีดยาให้แล้วก็หลับไปเป็นชั่วโมง ยาที่ฉีดน่าจะเป็นอะดรีนาลีน ครั้งที่ 3 โดนต่อยที่ปลายนิ้วก้อยใช้มะนาวถูๆ ก็หาย ครั้งที่ 4 โดนต่อยที่แขนบวมปูดเป็นลูกมะนาวแต่ไม่แพ้ ยังพูดกับลูกน้องว่าไม่แพ้แล้ว แถมมีกล้ามขึ้นอีก ครั้งล่าสุดนี่รุนแรงมาก โดนต่อยที่หลังมือ รู้ตัวว่าโดนต่อยรีบใช้มือปัดออกแล้วลุกขึ้นเดินไปที่รถห่างไป 20 เมตร พร้อมทั้งตะโกนบอกแฟนว่ารีบพาไปโรงพยาบาล เดินยังไม่ถึงรถก็อาเจียน พอขึ้นมาบนรถรีบหายาแก้แพ้ให้ทาน พร้อมน้ำก็ทานไม่ลง เนื่องจากหลอดลมเริ่มตีบ แต่ยังรู้สึกตัวแต่เริ่มหายใจติดขัด เนื่องจากระยะทางจากสวนมาถึงโรงพยาบาลนั้นไกลประมาณ 30 กิโลเมตร
ขอให้กรณีของเอสนี้เป็นประโยชน์กับสาธารณะชนถึงพิษของแมลงตัวเล็ก ที่เรามิอาจมองข้ามไปได้ เนื่องจากแมลงมีพิษจำพวกนี้เมื่อต่อยหรือกัดคนที่แพ้แล้วจะทำให้หลอดลมตีบแบบเฉียบพลัน ทำให้ขาดอากาศและเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกท่านที่อยู่ใกล้ชิดคนที่แพ้ได้เรียนรู้การปั้มหัวใจเบื้องต้น (CPR) อย่างน้อยก็ได้เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนนำส่งแพทย์”
โดยมีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายเอสนั้นเป็นนามสมมติของหนุ่มผู้โชคร้ายรายดังกล่าว ซึ่งมีอายุ 34 ปี สุขภาพแข็งแรงดี สูง 190 เซนติเมตร ได้เช่าสวนลำไยห่างจาก อ.ด่านช้าง ไปราวๆ 30 กิโลเมตร ทำเป็นอาชีพ และเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมาได้แวะเข้าสวนไปดูลูกน้องทำงาน ขณะที่นั่งใต้ต้นลำไย นายเอสถูกมดตะนอยกัดต่อยที่มือ ก่อนจะใช้มืออีกข้างปัดออก แล้วรีบเดินกลับไปขึ้นรถ พร้อมทั้งตะโกนบอกแฟนและเพื่อนให้รีบพาไปหาหมอ ระหว่างทางนายเอสเริ่มหายใจไม่ออก เพื่อนลองให้ทานยาแก้แพ้และดื่มน้ำตาม แต่ก็อาเจียนออกมาทั้งหมด ก่อนจะหมดสติและเสียชีวิตลงในที่สุด
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตนั้น แพทย์ระบุว่าเกิดจากอาการแพ้พิษสัตว์อยางรุนแรง ทำให้หลอดเลือดตีบและเลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เกิดภาวะสมองตาย และระบบหายใจล้มเหลว โดยเชื่อว่านายเอสมีอาการแพ้พิษมดตะนอยแต่เดิมแล้ว