Behind every successful man there is a woman.
เบื้องหลังความสำเร็จของบุรุษทุกคน มักจะมีสตรียืนอยู่ตรงนั้นเสมอ
ทุกความสำเร็จย่อมมีเรื่องราว... เช่นเดียวกันกับเส้นทางนักวิ่งของ ครูดิน-สถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันเป็นครูสอนวิ่งชื่อดัง ผู้ก่อตั้งสถาวรรันนิ่งคลับ ก็มี พี่ฮ้อ-ณัฐนี จันทร์ผ่องศรี ภรรยาที่อยู่เคียงข้างกันมากว่า 26 ปี ผู้เป็นทั้งเลขาฯ และผู้จัดการส่วนตัวที่คอยดูแลทุกเรื่อง และวันนี้พี่ฮ้อมาเปิดใจเล่าเรื่องชีวิตคู่ให้ฟัง ในขณะที่ร่วมลุ้นครูดินเข้าเส้นชัยการแข่งขัน BMW Berlin Marathon 2018 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ที่ครูดินได้รับเชิญจากโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ให้เป็นโค้ชพิเศษของทริป BMW Berlin Marathon 2018 #MissionBerlin และร่วมวิ่งในรายการมาราธอนระดับเวิลด์เมเจอร์ครั้งนี้ด้วย
ตอนนี้พี่ฮ้อช่วยครูดินดูแลรับผิดชอบงานส่วนไหนบ้าง
ตอนนี้เรียกได้ว่าช่วยครูดินดูแลงานเกือบทั้งหมด ในฐานะภรรยาและเลขาฯ ส่วนตัว ทั้งเรื่องการรับงาน การจัดตารางคิวงาน และการเตรียมตัวต่างๆ เพราะครูดินงานเยอะมาก บางครั้งอาจจำงานของตัวเองไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นทุกคนก็จะได้เห็นพี่ไปไหนมาไหนกับครูดินตลอด
เริ่มดูแลกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่
พี่กับครูดินรู้จักกันมาตั้งแต่อายุ 25-26 ปี ตอนนั้นพี่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลตัวแทนบริษัท และทำงานฝ่ายวางแผนดูแลการผลิตเสื้อกีฬาด้วย ต้องติดต่อประสานงานกับครูดินซึ่งอยู่แผนกขาย เรารู้จักกันในฐานะเพื่อนร่วมงานก่อน แต่ครูดินมาแนวแปลก (หัวเราะ) แวะมาหาพี่ทุกวันเลย จริงๆ งานของเราไม่ต้องเจอกันทุกวันก็ได้ แถมยังซื้อขนมมาฝากไม่ซ้ำกันอีก
ตอนนั้นครูดินเริ่มจีบพี่ฮ้อแล้วใช่ไหม
(หัวเราะ) ใช่ แต่พี่ไม่รู้ตัว แล้วเขาชอบชวนไปดูการแข่งขันกีฬาต่างๆ ตอนนั้นพี่ยังมองครูดินในฐานะเพื่อน แต่วันหนึ่งที่เขามีปัญหาชีวิต พี่ก็ชวนเขาไปฟังเพลงคลายเครียด แล้วเขาหันมาบอกว่าผมชอบคุณนะ พี่ยังตกใจเลย (หัวเราะ) แต่ก็คิดว่าเขาเป็นคนดี ลองคบกันดู พอดูๆ กันมา 3 ปี ก็ตัดสินใจแต่งงานตอนอายุ 29 ปี ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันมาประมาณ 26 ปีแล้ว
พี่ฮ้อประทับใจอะไรในตัวครูดินตั้งแต่สมัยนั้น
จริงๆ ครูดินเป็นผู้ชายที่หวานมาก เป็นคนโรแมนติก ทุกวันสำคัญจะมีของขวัญเซอร์ไพรส์เสมอตั้งแต่สมัยจีบกันใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดหรือวันครบรอบแต่งงาน สมัยก่อนจะมีดอกไม้มาส่งที่ออฟฟิศทุกครั้ง หรือมีซ่อนทองไว้ใต้หมอน นอกจากนี้ ครูดินยังไปรับส่งพี่ที่ทำงานและบ้านทุกวัน แม้ว่าวันที่เขาต้องไปทำงานต่างจังหวัด เขาก็จะรีบกลับมารับพี่ไม่เคยขาด
อะไรในตัวครูดินที่ทำให้พี่ฮ้อรู้สึกประทับใจมากที่สุด
สิ่งที่พี่มองว่าเขาพิเศษกว่าคนอื่น คือ เขามีจิตใจโอบอ้อมอารี มีแต่การให้ สังเกตได้จากการที่เขาสอนวิ่งให้ทุกคนแบบฟรีๆ ตั้งแต่สมัยก่อน ช่วงแรกๆ ที่รู้จักกัน พี่ก็ถามเขาว่าทำไมถึงสอนฟรี เขาบอกว่า เขาให้สิ่งที่เป็นองค์ความรู้ที่เขามี ไม่เสียอะไร ทำไมเราต้องหวังผลตอบแทนถ้าเราไม่ได้ขัดสน พี่รู้สึกว่าเขาเป็นคนจิตใจดี เขายังสอนลูกตลอดว่า นอกจากการออกกำลังกายที่เราได้กับตัวเองแล้ว เราต้องรู้จักการให้ด้วย ให้ความรู้แก่คนรอบข้าง มันเป็นสิ่งที่ดี
แล้วครูดินเคยเล่าให้ฟังไหมว่าชอบอะไรในตัวพี่ฮ้อ
ครูดินเคยบอกว่าชอบที่พี่เป็นคนพูดตรงๆ จริงใจ ปรึกษาและพูดคุยได้ทุกเรื่อง พอเขาได้คุยกับพี่แล้วรู้สึกสบายใจ พี่อาจจะเป็นผู้หญิงแปลกสำหรับเขามั้ง (หัวเราะ) เพราะเมื่อก่อนตอนสาวๆ พี่ห้าวและร้ายมาก ใครเข้ามาจีบพี่ด่าหมด ตอนแต่งงานกับครูดิน เพื่อนๆ ยังแซวเลยว่าผู้ชายคนนี้เก่งนะ สามารถเปลี่ยนให้ไฟดวงนี้เป็นน้ำแข็งได้ จากคนใจร้อนกลายเป็นคนนิ่งมากขึ้น เราเป็นเหมือนหยินกับหยางที่เข้ากันได้ดี
แล้วหลังแต่งงาน ครูดินยังเป็นผู้ชายแบบที่พี่ฮ้อประทับใจไหม
ทุกวันนี้ครูดินก็ยังคงเซอร์ไพรส์ให้ของขวัญเหมือนเดิมทุกปี และเป็นแฟมิลีแมนมากๆ ไปไหนต้องไปด้วยกันหมด พ่อแม่และลูกสาวสองคน ตั้งแต่ลูกๆ เกิดจนถึงทุกวันนี้ ครูดินดูแลลูกๆ ดีมาก ตอนลูกสาวคนโตเพิ่งเกิด ครูดินไปซื้อหนังสือเลี้ยงลูกมาอ่านทุกหน้า เป็นคนอาบน้ำให้ลูกด้วยตัวเองทุกวัน เขามีความอ่อนโยนในตัว เพราะการดูแลลูกสาวไม่ง่ายเลย เขาจะค่อยๆ ทำด้วยตัวเอง เลี้ยงลูกเก่งมากๆ ทุกอย่างให้ลูกได้หมด ลูกสาวก็ติดพ่อมากๆ ตอนนี้พ่อติดลูกแทน พอลูกไม่ไปไหนด้วยก็จะงอน (หัวเราะ)
พี่ฮ้อมีเทคนิคการดูแลสามีที่เป็นนักกีฬาอย่างไรบ้าง
เวลาครูดินไปสอนลูกศิษย์หรือให้คำแนะนำคนอื่น เราก็ได้ฟัง รับรู้ เรียนรู้ไปพร้อมกันด้วย แล้วเราก็จดจำไว้ เมื่อถึงเวลาที่ครูดินต้องซ้อม เราก็คอยเตือนเขาบางเรื่องอีกที เวลาครูดินไปไหน ครูก็อยากให้พี่ไปด้วยตลอด ตัวติดกัน (หัวเราะ) พี่ก็ได้ตามมาดูแลและให้กำลังใจเขาตลอด เราจะเป็นห่วงเขาเรื่องการกินข้าว การขับรถ บางทีเขาก็ชอบให้ป้อน พอเราบอกให้กินเอง ก็จะอ้อนว่าป้อนไม่ได้หรอ (หัวเราะ)
ตอนนี้พี่ฮ้อเป็นห่วงอะไรครูดินบ้างคะ
เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก ไม่เคยคิดลบกับใคร และเป็นคนที่ให้คนอื่นโดยไม่คิดเยอะ อันนี้ค่อนข้างเป็นห่วงนิดนึง เพราะในสังคมเรามีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกัน และกลัวเรื่องการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทุกวันนี้ครูดินนอนค่อนข้างน้อย เพราะนั่งดูตารางซ้อมให้ลูกศิษย์ซึ่งมีหลายกลุ่มหลายองค์กร และนั่งตอบคำถามในอินบ็อกซ์ด้วย
การที่ครูดินได้มาวิ่งระดับเวิลด์เมเจอร์อย่าง BMW Berlin Marathon 2018 กับทริป BMW Berlin Marathon 2018-#MissionBerlin รู้สึกอย่างไรบ้าง
พี่ฮ้อ : ถือว่าเขาสานฝันของเขาได้สำเร็จ เพราะเป็นหนึ่งในสนามที่เขาใฝ่ฝัน เรื่องการลงสนาม พี่ไม่ห่วงเรื่องเวลาเลย เพราะรู้ว่าเขาทำได้อยู่แล้ว และเขาค่อนข้างพร้อม เขามีเลือดนักสู้อยู่ในตัว ลงสนามเมื่อไหร่สู้ตายตลอด พี่หวังแค่ว่าให้เขาเข้าเส้นชัยในสภาพที่ยังโอเค และกลัวในเรื่องของตะคริว เพราะอากาศค่อนข้างเย็น และรู้สึกดีใจมากที่เขาวิ่งจบได้แบบไม่เจ็บ
ครูดิน-สถาวร จันทร์ผ่องศรี เข้าเส้นชัยการแข่งขัน BMW Berlin Marathon 2018 ด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 23 นาที 49 วินาที เป็นสถิติที่ดีที่สุดของครูดินภายหลังจากกลับมาวิ่งมาราธอนอีกครั้งซึ่งครูดินเล่าความรู้สึกว่า BMW Berlin Marathon เป็นสนามที่วิ่งสนุกมาก และถ้ามีโอกาสจะกลับมาแก้มืออีกครั้งแน่นอน! |