“วินธัย” ชี้ ทหารออกทีวี-รับงานต้องขออนุญาต-สะพัด “สิบโท” ถูกลงโทษหลังร้องเพลงเสียงเพี้ยน

โฆษกกองทัพบก เผย ปกติทหารไปออกทีวีต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชาก่อน รวมทั้งการแต่งกายและรับงานนอกต้องรายงาน หวั่นไปคุมผับสุ่มเสี่ยงกระทบภาพลักษณ์ พบก่อนหน้านี้ “สิบโท” ไปออกทีวีช่องเวิร์คพอยท์ ร้องเพลงเสียงเพี้ยน แถมทรงผมผิดระเบียบ สะพัดถูกลงโทษเรียบร้อย

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวในตอนหนึ่ง ถึงกรณีที่มีกำลังพลไปออกรายการโทรทัศน์ ว่า ตามปกติทหารที่ไปออกรายการโทรทัศน์จะต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชาก่อน และผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาความเหมาะสมว่าจะอนุญาตหรือไม่

ทั้งนี้ ในเรื่องภาพลักษณ์ของกองทัพ ที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำ และกำชับอยู่เสมอให้ระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นตัวของกำลังพล รวมถึงหน่วยงานให้เป็นที่ยอมรับของสังคม สิ่งใดที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงตัวบุคคลหรือหน่วยงาน ต้องพยายามหลีกเลี่ยง

“เรื่องระเบียบวินัยการแต่งกาย และการรับงานนอก ต้องรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนว่างานที่จะไปทำเป็นกิจกรรมอะไร หากเป็นเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยสถานบันเทิง ก็อาจมองว่าสุ่มเสี่ยงที่จะกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่มีการย้ำเตือนกำลังพลให้ระมัดระวัง” พ.อ.วินธัย กล่าว

นอกจากนี้ พ.อ.วินธัย ยังกล่าวว่า เรื่องวินัยทหารครอบคลุมหลายเรื่อง หรือแม้แต่การใส่เครื่องแบบแล้วไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสังคม เช่น ทหารที่ใส่เครื่องแบบไปทะเลาะกับแฟน และใช้วาจาที่ไม่ดีระบายลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งในกฎหมายปกติไม่สามารถเอาผิดได้ แต่ในวินัยทหารสามารถลงโทษได้

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ส.ท.วุฒิพงษ์ วิริยานุรักษ์นคร หรือ แบงค์ อายุ 26 ปี ตำแหน่งพลวิทยุ สังกัดกองทหารพลาธิการ (กอง พธ.) กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) ไปออกรายการ I Can See You Voice ทางสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ ออกอากาศเมื่อค่ำวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา

ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้น พ.ท.ปิยะภัทร เสนีวงษ์ หัวหน้ากรมกำลังพลทหารบก (กพ.ทบ.) ได้ส่งข่าวด่วนที่สุด ถึง พล ปตอ. และ กอง พธ.พล.ปตอ. ระบุว่า พบ ส.ท.วุฒิพงษ์ สวมเครื่องแบบสนาม และมีทรงผมที่ไม่เป็นไปตามที่ ทบ. กำหนด พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลส่วนตัว รวมถึงงานอดิเรกที่รับจ้างเป็นดีเจเปิดเพลงให้กับทางรายการทราบ

โดย กพ.ทบ. ขอให้ พล.ปตอ. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้กระทำความผิด และผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไป 2 ระดับ ได้แก่ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการอนุมัติให้ ส.ท.วุฒิพงษ์ ไปออกรายการทีวีดังกล่าว รวมถึงการอนุมัติให้ทำงานอดิเรกเป็นดีเจเปิดเพลง และกรณีทรงผมของ ส.ท.วุฒิพงษ์ ไม่เป็นไปตามที่ ทบ. กำหนด ให้ พล.ปตอ. รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงและผลการพิจารณาทางวินัยภายในวันที่ 18 ก.ย.

อีกด้านหนึ่ง มีกระแสข่าวจากโลกโซเชียล ว่า ปัจจุบัน ส.ท.วุฒิพงษ์ ถูกลงโทษจากเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

สำหรับเนื้อหารายการ I Can See You Voice เมื่อวันที่ 12 ก.ย. พบว่า แขกรับเชิญคือ เจนนิเฟอร์ คิ้ม โดยพบว่าในรายการได้แสดงออกเป็นไปในลักษณะตลกขบขัน อาทิ รอบแรก หลักฐานนักร้อง พบว่าในวีทีอาร์แนะนำตัว ระหว่างร้องเพลงยังกระดิกหน้าอกไปด้วย โดยทางรายการได้ใส่เอฟเฟกต์เสียงเพื่อให้ดูตลกขบขัน

ส่วนในรอบที่สอง เบาะแสเสียงพูด กล่าวแนะนำตัวว่า “ทหารถือปืน แบกปูนไปโบกตึก ถ้าหากวันไหนนึกคึก จะกลับดึกเพราะแบกปูน” กระทั่ง เจนนิเฟอร์ คิ้ม เลือกเจ้าตัว ก็กล่าวว่า “ท.ทหารต้องอดทน ส่วน ฅ.คนอย่างผมก็อ่อนไหวนะครับ ก่อนที่จะร้องเพลง 14 อีกครั้ง ของ เสก โลโซ ด้วยน้ำเสียงผิดเพี้ยน

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเรื่องขึ้น เมื่อทางสถานีเผยแพร่รายการย้อนหลัง ได้ตัดช่วงแนะนำตัวว่าเป็นใคร มาจากไหน โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัว ชื่อต้นสังกัด และงานอดิเรกที่รับจ้างเป็นดีเจเปิดเพลงออกไปแล้ว