ผู้บัญชาการทหารบก ปฏิเสธออกคำสั่งห้ามใช้รูปใส่เครื่องแบบตั้งเป็นรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กและไลน์ สั่งตรวจสอบต้นตอข้อความไม่ให้กำลังพลแตกตื่น รวมทั้งตรวจสอบหนังสือของสัสดีจังหวัดเชียงราย
จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความในเฟซบุ๊ก และไลน์กลุ่มทหาร อ้างถึงผู้บังคับบัญชาให้แจ้งทหารตั้งแต่ยศสูงจนถึงพลทหารที่เล่นเฟซบุ๊ก หรือไลน์ ให้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์จากใส่เครื่องแบบเป็นชุดพลเรือนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และห้ามโพสต์ภาพการดื่มสุรา หรือเที่ยวผับ ถ้าตรวจสอบพบถือมีความผิดสถานหนักและลงโทษตามวินัย รวมทั้งกำชับเรื่องทรงผมให้ตัดสั้น ด้านข้างขาวอย่างเคร่งครัดอีกด้วย ทำให้ข้าราชการทหารจำนวนมากต่างเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นชุดไปรเวต หรือชุดลำลองโดยพร้อมเพรียงกัน
วันนี้ (18 ก.ย.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงว่า ไม่เคยมีคำสั่งใดๆ ในลักษณะดังกล่าวออกไป และได้ให้ทางสำนักงานเลขานุการกองทัพบกตรวจสอบที่มาที่ไปของข้อความดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความแตกตื่น และระบุด้วยว่านี่คืออิทธิพลของโซเชียลฯ ถ้าไม่ตรวจสอบให้ดีก็จะมีผลกระทบต่อสังคม ส่วนเอกสารคำสั่งของ พ.อ.สมพงษ์ อุ่นใจ สัสดีจังหวัดเชียงราย จะมีการตรวจสอบที่มาที่ไปของคำสั่งให้ชัดเจน เพราะไม่เคยมีคำสั่งในลักษณะดังกล่าว
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า หนังสือของสัสดีจังหวัดเชียงรายที่เผยแพร่นั้นอาจจะเป็นแนวทางการบริหารจัดการของหน่วยนั้นๆ เอง เชื่อว่ายังมีลักษณะยืดหยุ่นในแง่การขอความร่วมมือเพื่อให้อยู่ในจุดที่สมดุลเหมาะสม เบื้องต้นในส่วนกลางยังไม่มีการออกระเบียบที่เกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดียของกำลังพลเป็นการเฉพาะ มีเพียงการขอความร่วมมือให้ใช้โซเชียลมีเดียด้วยความระมัดระวัง
ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ผู้บังคับบัญชาจะมีการเน้นย้ำและกำชับอยู่เสมอให้ระมัดระวังในเรื่องภาพลักษณ์ต่างๆ ทั้งต่อกำลังพลและหน่วยงานให้เป็นที่ยอมรับของสังคม สิ่งใดที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียง ต้องพยายามหลีกเลี่ยง ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากอดีต การใช้โซเชียลมีเดียเริ่มมีบทบาทสำคัญ จึงขอให้กำลังพลระมัดระวังให้อยู่ในกรอบกฎหมาย และเป็นไปในทางสร้างสรรค์
สะพัดคำสั่ง “ทหาร” ให้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊ก-ไลน์ เป็นพลเรือน