เปิดสงครามจิตวิทยาบนหน้าเฟซบุ๊ก กสทช. ระบุให้ย้ายค่าย ไม่งั้นซิมดับแน่นอน ส่วนดีแทคยืนยัน ลูกค้ามากกว่า 99% ซิมไม่ดับแน่นอน ด้าน ทรูมูฟ เอช ได้ทีชวนย้ายค่าย ใช้ได้ทุกเครื่อง ไม่ต้องกลัวซิมดับ
สงครามโซเชียลอันเนื่องมาจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติไม่ให้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ขอคุ้มครองลูกค้าคลื่น 850 MHz ตามประกาศเรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานของ กสทช. เนื่องจากไม่เข้าข่ายตามประกาศเยียวยาของ กสทช. โดยลูกค้าเหลืออยู่ในระบบจำนวน 9.4 หมื่นเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้าที่เป็นประชาชนทั่วไปกว่า 60,000 เลขหมาย ที่เหลือกว่า 20,000 เลขหมายเป็นการให้บริการในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
ในโลกโซเชียล สองหน่วยงานต่างประกาศท่าทีของแต่ละฝ่ายเกี่ยวกับปัญหาซิมดับที่จะเกิดขึ้นกับดีแทค โดยเฟซบุ๊ก กสทช. ขึ้นภาพข้อความว่า “กสทช. แจ้งผู้ใช้โทรศัพท์มือถือดีแทคบนคลื่นความถี่ 850 ที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่ 15 ก.ย. 2561 ให้รีบย้ายไปใช้บริการบนคลื่นความถี่อื่น ในค่ายเดิม หรือโอนย้ายค่าย ภายในวันที่ 15 ก.ย. 2561 เพื่อให้สามารถใช้มือถือเบอร์เดิมได้อย่างต่อเนื่อง หากไม่ดำเนินการเมื่อถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 15 ก.ย. 2561 จะไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ ซิมจะดับ”
ด้านเฟซบุ๊ก “dtac” ขึ้นภาพข้อความว่า “ดีแทคยืนยัน ลูกค้ามากกว่า 99% ซิมไม่ดับแน่นอน ตรวจสอบว่าคุณจะได้รับผลกระทบหรือไม่ กด *444# แล้วโทรออก” ซึ่งพบว่ามีลูกค้าจำนวนมากต่างตรวจสอบและได้รับข้อความ “เบอร์นี้ไม่มีผลกระทบเรื่องซิมดับ ขอให้มั่นใจใช้งานได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน” และ “หมายเลขนี้ ไม่มีผลกระทบเรื่องซิมดับแน่นอนค่ะ ขอให้ลูกค้าสบายใจได้ค่ะ เรามุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าของเราให้ดีขึ้นในทุกๆ วันค่ะ ทั้งนี้ ดีแทคได้เร่งขยายสัญญาณ ดีแทคเทอร์โบ เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งาน โดยเฉพาะเน็ตของคุณดีขึ้นค่ะ”
ส่วนเฟซบุ๊ก “TrueMove H” ของค่ายมือถือทรูมูฟ เอช บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ขึ้นโฆษณาในจังหวะเดียวกัน ระบุว่า “ย้ายค่ายกันเถอะ...ทรูมูฟ เอช เครือข่ายที่มีครบทุกคลื่น ใช้ได้กับทุกเครื่อง ไม่ต้องกลัวซิมดับ ย้ายค่ายเบอรฺ์เดิมมาใช้เติมเงินวันนี้ พิเศษสุดๆ รับโบนัสค่าโทรและเน็ต 24,000 บาท ติดต่อขอย้ายได้ง่ายๆ ที่ ทรูช้อปทุกสาขา และ ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ”
