สาวโพสต์เรื่องราวเดือดร้อน เพื่อนบ้านเลี้ยงนกพิราบ หวั่นติดเชื้อโรคจากนกพิราบ เผยเคยเตือนแต่ตอบกลับว่า “มายุ่งอะไรกับฉัน” แจ้งหน่วยงานในพื้นที่กลับบอกว่า “ไม่ใช่หน้าที่ไปจับนก”
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Kukkai Pennapa Siripun” ได้โพสต์คลิปวิดีโอเผยให้เห็นความเดือดร้อนของตนเองลงกลุ่มสาธารณะ “คนรักหลักสี่ - ดอนเมือง” เป็นบริเวณบ้านของตนในพื้นที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ที่มีนกพิราบจำนวนมากมาบินเกาะสายไฟและหลังคาบ้านหลังใกล้เคียงเพื่อรอเพื่อนบ้านออกมาเทอาหารให้นก จนทำให้ตนเสียสุขภาพจิตและหวั่นติดเชื้อโรคจากนกพิราบ นอกจากนี้ยังเคยเตือนและขอร้องเพื่อนบ้านไม่ให้อาหารนก แต่ตนโดนตอบกลับว่า “มายุ่งอะไรกับฉัน” และยังได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขตหลักสี่ไปหลายครั้งแล้ว แต่ได้คำตอบว่า “ไม่ใช่หน้าที่ไปจับนก”
ผู้โพสต์ระบุว่า “ทำยังไงดี??? #คือเดือดร้อนมากค่ะ ป้าข้างบ้านแกเลี้ยงนกพิราบทุกวันเวลา 14.30-15.30 น.จะออกมาให้อาหารนก แกจะสั่งอาหารนกจากร้านส่งอาหารสัตว์มาส่งที่บ้านประจำ ครั้งละหลายๆ กระสอบ เราเดือดร้อนมาก คือนกมันเยอะมากๆ เวลามันบินมาเป็นฝูง คือหายใจไม่ได้เลย ในอากาศจะมีแต่ขนนกเต็มไปหมด ขนลอยเข้าบ้าน กินข้าวยังไม่กล้ากินเลย เคยไปบอกป้าหลายรอบแล้วว่าให้เลิกให้อาหารนกได้ไหม “ป้าแกบอกว่า มายุ่งอะไรกับฉัน” แล้วเดินหนีเข้าบ้าน เพราะแต่ก่อนแกจะเทอาหารนกไว้หน้าบ้านข้างล่าง เราเคยแอบเอาอาหารไปเททิ้ง พอแกรู้แกเลยเปลี่ยนที่ให้ไปให้บนบ้านแทน แจ้งเขตหลักสี่ไปหลายครั้งแล้ว แต่ได้คำตอบว่า ไม่ใช่หน้าที่ไปจับนก แล้วจะให้ไม่ใช่หน้าที่ได้ไง นี่มันเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่ดูแลหลักสี่ ที่จริงมันฟ้องร้องได้ด้วยป่ะ คือมันเป็นเรื่องของพลานามัย และเสียสุขภาพจิตสุด กลัวจะติดโรคจากนกพิราบคือมันสุดๆ ต้องมาเห็น หรือไปร้องเรียนตามสื่อต่างๆ เขตถึงจะเข้ามาจัดการ
เมื่อวันที่ 12/9/61 รายงานเพิ่มเติม มีนักข่าวมาทำข่าวและประสานงานติดต่อเจ้าหน้าที่เขตหลักสี่ลงมาดูพื้นแล้วค่ะ พรุ่งนี้เช้าเจ้าหน้าที่เขตจะจัดคนมาทำความสะอาด ส่วนป้านกพิราบ บอกว่าจะเลิกให้อาหารแล้ว #รอดูต่อไปค่ะ”
อย่างไรก็ตาม โรคที่มากับนกพิราบนั้นมาจากเชื้อราที่อยู่ในมูลของนกพิราบ เรียกเชื้อราชนิดนี้ว่า “เชื้อคริปโตคอคคัส” เชื้อดังกล่าวเป็นที่มาของโรคต่างๆ มากมาย และสามารถติดเชื้อในคนได้โดยการสัมผัสมูลนกพิราบ หรือจากการหายใจและสูดดมเชื้อดังกล่าวเข้าไปในร่างกาย เมื่อเกิดการสัมผัสเชื้อราคริปโตคอคคัสจะเกิดการฟุ้งกระจาย และหากสูดดมเข้าไปในร่างกายจะทำให้ติดเชื้อที่ปอด ทั้งยังสามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น สมองได้ด้วย โดยส่วนมากเชื้อชนิดนี้จะติดต่อในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น คนที่ได้รับยากดภูมิ หรือในคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอตั้งแต่กำเนิด ขณะเดียวกันในคนที่มีภูมิคุ้มกันปกติก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน แต่เพราะมีภูมิต้านทานโรคที่สมบูรณ์ก็อาจช่วยควบคุมไม่ให้เกิดโรคได้ นอกจากนี้ในนกพิราบยังมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “คลามัยเดีย” ที่ทำให้เกิดอาการปอดบวมได้ด้วย
