xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : ยกฟ้อง "เอมี่ แม่มา" คดีครองยาไอซ์ | "บิ๊กโจ๊ก" ลั่นเกาะเต่าไม่มีข่มขืน | ธนาคารล่มสิ้นเดือน-บรรลัยทั้งแผ่นดิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 25-31 ส.ค. 2561)

หมายเหตุ : เนื่องจากมีเหตุขัดข้องบางประการ จึงเผยแพร่สรุปข่าวล่าช้า ขออภัยในความไม่สะดวก

อันดับ 1 : ศาลยกฟ้อง "เอมี่ แม่มา" ครอบครองไอซ์-โดนเฉพาะข้อหาเสพ เปิดศึก "อัจฉริยะ-ษิทรา"

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาจำคุก 6 เดือน แก่ น.ส.อาเมเรีย หรือเอมี่ จาคอป อายุ 29 ปี นักแสดงลูกครึ่งไทย-เนเธอร์แลนด์ อดีตนางเอกละครเรื่องธิดาวานร ในข้อหาเสพยาเสพติด แต่รับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท แต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ส่วนข้อหาจำหน่ายยาเสพติดศาลยกฟ้อง ขณะที่นายปุณยวัจน์ หรือพล หิรัณย์เตชะ อายุ 41 ปี แฟนหนุ่ม ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด แต่ให้การรับสารภาพเหลือจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วัน ปรับ 7.5 แสนบาท โดยทั้งคู่ถูกจับกุมพร้อมของกลางยาไอซ์ 70 กรัม ยาอี 16 เม็ด และอุปกรณ์ในการเสพ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2560

จากนั้นวันที่ 29 ส.ค. เอมี่ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ แถลงเปิดใจ ระบุว่า ดีใจที่ได้ออกมา ตอนอยู่ข้างในคุก 11 เดือนไม่ได้สุขสบาย ยอมรับทำผิดจริงที่เสพยา ศาลอ่านคำพิพากษาก็รู้สึกใจหาย ยอมรับว่าไม่ใช่คนดี แต่ไม่ได้ถึงขนาดค้ายา และไม่ทราบว่าแฟนค้ายาเพราะคบได้แค่ 3 เดือน หลังจากนี้จะออกไปอยู่กับพ่อแม่ที่ จ.ภูเก็ต และจะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวทำให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไม่พอใจนายษิทรา และกล่าวว่า หมดศรัทธา ส่วนนายษิทรา ชี้แจงว่า พฤติกรรมของเอมี่ไม่ใช่ผู้ค้า ข้อหาเสพยาทำผิดจริง แต่ข้อหาค้ายาไม่ใช่เรื่องจริงจึงสู้คดี

อันดับ 2 : "บิ๊กโจ๊ก" คลี่คลายข่าวฉาวเกาะเต่า ยันไม่มีข่มขืน ชี้สาวอังกฤษสมยอมเพราะมึนเมา

หลังคดีฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษสังคมยังคาใจ เรื่องวุ่นๆ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 26 ส.ค. สื่ออังกฤษ "เดลิเมล์" นำเสนอข่าวสาวอังกฤษ วัย 19 ปี มาเที่ยวกับเพื่อนที่หาดทรายรี เกาะเต่า อ้างว่าถูกวางยาจนไม่รู้สึกตัวและถูกข่มขืน หลังจากนั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง ส่วนตำรวจเกาะพะงันไม่ลงบันทึกประจำวันให้ เพียงเเค่ลงว่าโทรศัพท์ไอโฟน 7 พลัส เงินสด 3,000 บาท และบัตรเดบิต 4 ใบหายไป และพยายามปิดข่าวนี้ให้เงียบ จึงนำเรื่องทั้งหมดไปเเจ้งตำรวจอังกฤษ ตำรวจสุราษฎร์ธานีตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกข่มขืน แค่แจ้งว่าทรัพย์สินสูญหายเท่านั้นเมื่อ 26 มิ.ย. เวลา 01.30 น.

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ตำรวจท่องเที่ยวลงไปตรวจสอบ พบเจ้าของที่พักให้การว่า สาวอังกฤษรายนี้มีความสัมพันธ์กับนายมาร์ติน มาลาจี อายุ 20 ปี เพื่อนชายที่มาเที่ยวด้วยกันเนื่องจากมึนเมาแล้วร้องไห้เสียใจ และแจ้งความแค่ของหายเท่านั้น กระทั่ง 30 ส.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เข้าชี้แจงกงสุลอังกฤษ ยืนยันไม่พบเหตุมอมยาข่มขืนสาวอังกฤษบนเกาะเต่า พร้อมขอคำให้การสาวอังกฤษที่เคยให้ไว้มาประกอบการพิจารณา หากไม่สะดวกพร้อมไปประเทศอังกฤษเพื่อสอบผู้เสียหายเอง นอกจากนี้ยังเตรียมออกหมายจับ 2 เพจดัง คือเพจสมุยไทม์ และเพจ CSI LA ที่ตีข่าวให้เสื่อมเสียอีกด้วย

อันดับ 3 : เยี่ยมค่ะบรรลัยมันเข้าไป! ระบบธนาคารล่มสิ้นเดือน เหตุกสิกรไทยไม่รับคำสั่งโอนเงิน

สร้างความเดือดร้อนไปทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เกิดเหตุระบบโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งการโอนเงินต่างธนาคารและพร้อมเพย์ ล่มทั้งระบบตั้งแต่ช่วงเช้า เริ่มจากธนาคารกสิกรไทยไม่รับคำสั่งโอนเงินจากต่างธนาคาร ธนาคารอื่นก็เกิดปัญหาเช่นกัน กระทั่งได้แก้ไขระบบจนสามารถกลับมาใช้ได้เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ซึ่งนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานบริษัท กสิกร บิซิเนสเทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า เกิดจากระบบเชื่อมต่อเครือข่ายบางส่วนขัดข้อง อีกทั้งลูกค้าใช้บริการธุรกรรมช่วงสิ้นเดือนมากกว่าปกติ 30%

ขณะที่สมาคมธนาคารไทย ชี้แจงว่า เกิดจากปริมาณธุรกรรมเกิดขึ้นจำนวนมากในช่วงเช้า ส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ในบางช่องทาง ลูกค้าบางคนโอนเงินและตัดบัญชีไปแล้ว แต่ปลายทางได้รับเงินช้ากว่าปกติหรือยังไม่ได้รับเงิน ไม่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งจะทยอยโอนเงินคืน ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยแสดงความรับผิดชอบด้วยการคืนค่าธรรมเนียมโอนเงินข้ามเขต โอนต่างธนาคาร และจ่ายบิลผ่านเอทีเอ็ม ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมเรียกธนาคารต่างๆ ประชุมเพื่อแก้ปัญหาในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

อันดับ 4 : "น้องแบม" ครวญ "ลุงตู่" เรียนจบยังไม่ได้งานราชการตามรับปาก - ป.ป.ท. อ้าแขนรับ

หลังเปิดโปงคดีโกงเงินคนจนระหว่างฝึกงานสั่นสะเทือนทั้งวงการ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม บัณฑิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มกลัดแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2561 จ.ขอนแก่น น้องแบมเปิดเผยว่า หลังเรียนจบต้องหางานทำเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยรับปากว่าหลังเรียนจบจะให้ความช่วยเหลือ แต่โทร.ไปก็บอกว่ารอสมัครสอบตามขั้นตอนราชการ หากผ่านข้อเขียนแล้วไม่ใช่เรื่องยาก แต่ตอนนี้ไม่มีตำแหน่งงานว่าง ซึ่งไม่รู้จะรออีกนานเท่าไหร่ ทุกวันนี้ได้รับความช่วยเหลือรับเข้าทำงานที่โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น

ถึงกระนั้น พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า น้องแบมเคยพูดคุยกับผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าต้องการรับราชการและทำงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น เพราะต้องดูแลบุพการี ไม่สามารถไปทำงานที่อื่นได้ อาจเกิดความเข้าใจผิดที่ว่าสามารถทำงานได้เลย ล่าสุดน้องแบมไม่ประสงค์จะทำงานที่ศูนย์ฯ แล้ว เพราะจะได้เข้าทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เร็วๆ นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว

อันดับ 5 : ทลาย "แก๊งมันทุกเม็ด" ฟอกเงินค้ายา - รวบน้องชาย "กานต์" อดีตเมียเสกขายไอซ์

ผลงานการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ 27 ส.ค. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/7 ทลายแก๊งค้ายาเสพติด "มันทุกเม็ด" โดยจับกุมนายรุ่งโรจน์ จิรัฐิติกาลพันธุ์ อายุ 29 ปี เจ้าของบริษัท ป.รุ่งโรจน์ สยามยางยนต์ จำกัด จ.สมุทรสาคร หลังรับโอนเงินจากเครือข่ายยาเสพติด "มันทุกเม็ด" ก่อนนำเงินมาฟอกผ่านธุรกิจซื้อขายยางรถยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ภายหลังมีการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาได้ 243 คน ใน 28 จังหวัด พร้อมของกลางยาเสพติด และทรัพย์สินกว่า 338 ล้านบาท

อีกคดีหนึ่ง ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุม นายเดชอุดม แสงสายทิม น้องชาย น.ส.วิภากร แสงสายทิม หรือกานต์ อดีตภรรยานายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นักร้องชื่อดัง พร้อมยาไอซ์ 1.2 กรัม สอบปากคำให้การว่าเป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย มีความเกี่ยวพันกับแก๊งยาเสพติดหลายกลุ่ม คาดว่าจะมีผู้มีชื่อเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อมาได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา โดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่ง น.ส.วิภากรได้ยื่นประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 3.7 แสนบาทและศาลอนุญาต เปิดเผยว่าส่วนตัวมองว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็ก แต่เพราะเป็นน้องชายของตน ไม่คิดว่าจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนที่โซเชียลกล่าวหาว่าตนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดยืนยันว่าไม่จริง

อันดับ 6 : โจรอุ้มหมา! จับสองผัวเมียใช้ "สุนัขชิตสุ" บังหน้า ตระเวนลักทรัพย์นานกว่า 15 ปี

คดีอาชญากรรมที่ถูกพูดถึงในบรรดากลุ่มคนรักสัตว์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุม นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และ น.ส.อุษา เกษมณี หรือฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา ได้ที่บ้านเช่าในหมู่บ้านสัมพันธ์วิลล่า ซอยพหลโยธิน 52 กทม. พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาข้อมือ บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต และทรัพย์สินอื่นๆ รวม 137 รายการ หลังก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในหลายท้องที่ มีผู้เสียหายกว่า 44 ราย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

โดยสองสามีภรรยาใช้รถยนต์นิสสัน อัลเมรา สีดำ ติดทะเบียนป้ายแดงเป็นพาหนะ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้า อุ้มสุนัขพันธุ์ชิตสุที่ชื่อว่า "น้องตัวเล็ก" ใช้อุบายทำทีเป็นลูกค้า เข้ามาพูดคุยตีสนิท แล้วสั่งซื้อของจำนวนมากเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นฉวยโอกาสขณะเหยื่อจัดเตรียมสินค้าไม่ได้เฝ้าระวังทรัพย์สินลักทรัพย์หลบหนีไป ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2546 ยาวนานกว่า 15 ปี นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีหมายจับติดตัวหลายท้องที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับสุนัขพันธุ์ชิตสุ ตำรวจได้ส่งให้ญาติของผู้ต้องหานำไปเลี้ยงต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อันดับ 7 : สังคมดรามารัฐ ขยายผลิตบุหรี่ ยาสูบฯ ยันแค่ย้ายโรงงาน-ถวายที่ดินคลองเตยทำสวนป่า

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. การยาสูบแห่งประเทศไทย ได้เปิดผลิตบุหรี่โรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ ณ โรงงานผลิตยาสูบ 6 สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เป็นประธานในพิธี โดยกระทรวงการคลังมีความยินดีที่โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ด้วยงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมผลิตบุหรี่ที่มีคุณภาพ ด้วยมาตรฐานของเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตบุหรี่และเครื่องจักรการพิมพ์ที่มีความทันสมัย สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคและแข่งขันได้ในระดับสากล

หลังข่าวการเปิดโรงงานยาสูบแห่งใหม่แพร่สะพัดออกไป สังคมวิจารณ์ว่า รัฐบาลทุ่มงบกว่า 4 พันล้านบาทตั้งโรงงานยาสูบ สวนกระแสการรณรงค์ลด ละ เลิกบุหรี่ ทำให้ น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า เป็นเพียงการย้ายฐานการผลิตเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิต ส่วนโรงงานยาสูบเดิม เขตคลองเตย กทม. ได้ทูลเกล้าถวายฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เกือบ 500 ไร่ เพื่อจัดสร้างเป็นสวนน้ำและสวนป่าใจกลางเมือง คาดว่าจะย้ายครบทั้งหมดในปี 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น