เราได้เห็นอยู่ทุกวัน และทำกันเป็นประจำ จนอาจจะลืมกันไปแล้วว่า เราทำไปทำไม.. ทำเพื่ออะไร..
แต่เมื่อคนต่างชาติได้เห็นคนไทยหยุดยืนเคารพธงชาติเมื่อเสียงเพลงชาติดังขึ้นในเวลา ๐๘.๐๐ น.และ ๑๘.๐๐น. ต่างก็ทึ่ง และแชร์กันสนั่นในอินเตอร์เน็ต เหมือนบอกให้เรารู้ตัวว่า เรากำลังทำอะไรกัน
และนี่คือส่วนหนึ่งของข้อความที่เขาโพสต์กัน
คนไทยควรจะภูมิใจในประวัติศาสตร์และเพลงชาติของเขาจริงๆ...เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น...เราจะก้าวไปด้วยกัน ขอแสดงความนับถือจากอินโดเนเซีย
ขอชื่นชมคนไทยในจิตวิญญาณรักชาติ ฉันไม่แน่ใจว่าคนไต้หวันจะทำแบบนี้ได้หรือเปล่า
โปรดถอดหมวกเพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งนี้...มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่ผู้คนยังสานต่อและมีชีวิตที่สงบสุข... ทำต่อไปฉันรักประเทศไทย จากญี่ปุ่น
ฉันขอพูดตามตรงเลยว่า ฉันรู้สึกช็อคจริงๆ ที่คนไทยยืนขึ้นและร้องเพลงชาติอย่างภาคภูมิใจ… พวกเราที่นี่บางคนละเลยเพลงชาติของพวกเรา…บางคนไม่เคยหยุด ยืนตรงและร้องเพลงชาติของพวกเรา…ฉันหวังว่าผู้คนที่นี่จะสามารถดูพวกคุณเป็นตัวอย่างและทำตาม…ทักทายจากมาเลเซีย
เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะรู้สึกเกี่ยวกับประเทศไทยและเพลงชาติของพวกเขา … ผมชอบวิธีที่คนไทยหยุดและร้องเพลงด้วย. ถ้าคนลองให้คนออสเตรเลียหยุดและร้องเพลงชาติดู…จะมีครึ่งนึงไหมที่รู้จักเพลงชาติ
ฉันรักประเทศไทย…คนไทยเป็นคนดีมาก…เป็นประเทศที่ดีและมีวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม…รัก จากอินเดีย
รู้อย่างนี้แล้ว คนที่ทำจะภูมิใจกันไหม?
ทุกวันนี้ เมื่อได้เห็นธงชาติขึ้น-ลงจากเสา หรือได้ยินเสียงเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี ทุกคนจะต้องยืนทำความเคารพ นี่เป็นผลงานของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก โดยประกาศเป็นรัฐนิยมฉบับที่ ๔ เมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๔๘๒ เรื่อง การเคารพธงชาติ เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี มีความว่า
รัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่า ธงชาติ เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นสิ่งสำคัญประจำชาติ พึงได้รับความเชิดชูเคารพของชาวไทยทั้งมวล จึ่งประกาศเป็นรัฐนิยม เมื่อได้เห็นการชักธงชาติขึ้นหรือลงจากเสา หรือเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งบรรเลงในราชการก็ดี บรรเลงในโรงมหรสพหรือในงานสโมสรใดๆก็ดี ให้แสดงความเคารพ และเมื่อเห็นผู้ใดไม่แสดงความเคารพ พึงช่วยกันตักเตือนชี้แจงให้เห็นความสำคัญแห่งการเคารพธงชาติ เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี
นอกจากนี้ยังมีการแต่งเพลงชักชวนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการเคารพธงชาติ ซึ่งผู้เขียนยังจำบางตอนได้ อย่างที่นำมาเป็นชื่อบทความนี้
ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี มีความมั่นใจและกล้าหาญที่จะใช้ใช้อำนาจเผด็จการบังคับให้ประชาชนปฏิบัติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในสิ่งที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นผลดีกับประเทศชาติในยามที่ต้องเร่งรีบปฏิรูปให้ทันยุคสมัย ซึ่งบางอย่างก็สร้างความอึดอัดใจให้ประชาชน เมื่อจอมพล ป.หมดอำนาจ สิ่งที่หลายคนไม่ชอบก็เลิกปฏิบัติกันไป แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่เห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม ก็ยังปฏิบัติต่อไปด้วยความพร้อมเพรียงและเต็มใจ
และผลงานของนายกรัฐมนตรีเผด็จการทหาร ที่มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปประเทศชาติให้ก้าวไปสู่ความเป็นอารยะอย่างรวดเร็วแบบพลิกฝ่ามือ แม้หลายอย่างประชาชนต้องทำอย่างไม่เต็มใจ แต่หลายอย่างก็ได้รับการยอมรับ จนเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของสังคมไทยไปได้มาก เป็นมรดกตกทอดต่อไป
รวมทั้งการเคารพธงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ยังปฏิบัติกันอยู่ในทุกวันนี้