พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว หารือเจ้า สถานทูตอังกฤษ หลังนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษวัย 19 ปี อ้างถูกข่มขืนบนเกาะเต่า พร้อมพกหลักฐานยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจไม่ได้เกิดขึ้นจริง
จากกรณีสื่อต่างประเทศ “เดลีเมล์” และ “เดอะซัน” ลงข่าวนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี ถูกวางยาและข่มขืนที่หาดทรายรี เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยชายชาวเอเชียทำทีเข้ามาพูดคุยด้วย ก่อนจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและพบว่าตนเองถูกข่มขืนโดยมีท่อนล่างที่เปลือยเปล่า จากนั้นผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาะพะงัน แต่ตำรวจก็ไม่ลงข้อมูลเรื่องการข่มขืนแค่ลงว่า โทรศัพท์ Iphone 7 กับเงินสด 3,000 บาทหาย ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเสียหายเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) สุราษฎร์ธานีฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตรวจข้อเท็จจริงกรณีเหตุละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จะทำหนังสือแจ้งให้ผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกข่มขืนรายนี้ รวมถึงเพื่อนชายที่เข้าแจ้งความมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน
ล่าสุด วันนี้ (30 ส.ค.) เพจ “สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้เดินทางไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อพูดคุยกันถึงกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี ที่อ้างว่าถูกชาวชาวเอเชียข่มขืนบริเวณหาดทรายรี เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ ทางสถานทูตได้ออกมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทางแหม่สาวไม่เคยติดต่อเข้ามาหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ได้นำหลักฐานมายืนยันกับเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษว่าวันที่แหม่มอ้างถูกข่มขืนนั้นน้ำขึ้นสูง มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้แน่ โดยทางเพจ “สุรเชษฐ์ หักพาล” ได้ระบุข้อความว่า
“แหม่ม และญาติ ไม่เคยติดต่อสถานทูต เอาให้เคลียร์ดูให้ชัด? ใครกันกุข่าวสร้างเรื่อง “บิ๊กโจ๊ก” เปิดประตู สถานทูตอังกฤษ คุยตัวๆเจ้าหน้าที่ฝรั่ง ซึ่งเขาก็ยืนยันกลับมาหนักแน่น “แหม่ม” และญาติ ไม่เคยติดต่อเข้ามาหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว พร้อมกันนี้ บิ๊กโจ๊ก งัดหลักฐาน สถานที่เกิดเหตุ วันที่แหม่มอ้างถูกข่มขืน น้ำขึ้นสูง มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้แน่ ยิ่งกว่านั้น ตามเวลาที่กล่าวอ้าง เป็นวันบอลโลกถ่ายทอดสด ถึงจะเป็นเวลาตี 1 แต่ผู้คนยิ่งกว่ากองทัพมด โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ”
ทั้งนี้ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมากว่า หากเหตุการณ์นี้ไม่เป็นความจริง ให้เจ้าหน้าที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับนักท่องเที่ยว เนื่องจากทำลายชื่อเสียงการท่องเที่ยวของประเทศไทย
