ปิดฉาก “แฝดทมิฬคิสเนอร์” เอเยนต์ค้ายาภาคกลาง แม่ถูกจับ แฝดน้องตาย แฝดพี่ไม่มีแผ่นดินอยู่

... รายงาน

นับเป็นการปิดฉากขบวนการ “แก๊งแฝดทมิฬคิสเนอร์” ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคกลาง “พระนครศรีอยุธยา-สระบุรี-ลพบุรี”

ล่าสุดเมื่อเช้าตรู่วันที่ 25 ส.ค. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังตำรวจ บก.ปส. พร้อมชุดสยบไพรี บุกงานบวชของผู้ต้องหาคนสำคัญ

จับกุม นางสมคิด อยู่เลิศ อายุ 50 ปี และ นายวัฒนา ทองโฉม อายุ 29 ปี กลางขบวนแห่นาคหน้าวัดสร่างโศก ถนนอดิเรกสาร 2 อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ขณะที่นายวัฒนากำลังอยู่บนรถแห่นาคแท้ๆ

เหตุเพราะทั้งนางสมคิด และนายวัฒนา ถูกศาลจังหวัดสระบุรีอนุมัติหมายจับเมื่อวันพุธ (22 ส.ค.) ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน

โดยเฉพาะนางสมคิด เป็นแม่ของสองพี่น้องฝาแฝด “แม็ก-มิก” นายชัยวุฒิ คิสเนอร์ และ นายศราวุฒิ คิสเนอร์ (เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นายศุภชัย ธารีรักษ์) อายุ 26 ปี หัวหน้าแก๊งคิสเนอร์นั่นเอง

ส่วนนายวัฒนา ก่อนหน้านี้ถูกออกหมายจับในข้อหาค้ายาเสพติด เมื่อตำรวจ บช.ปส.สอบปากคำเสร็จ ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ก็มาอายัดตัวไปดำเนินคดีในข้อหาค้ายาเสพติดต่ออีกคดีหนึ่ง



สืบเนื่องมาจาก “ปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/6 ผลไม้พิษ ตอนแฝดทมิฬ” ตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ 80 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1-14 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมบุคคลในเครือข่ายแฝดทมิฬนำส่ง บก.ปส. พอขยายผลพบว่าผู้สั่งการค้ายาเสพติดคือพี่น้องฝาแฝด “แม็ก-มิก” ประกอบกับ บช.ปส.รับเรื่องร้องเรียนเครือข่ายยาเสพติดเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาค 1 และเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแฝดทมิฬ

สืบสวนพบว่า สองพี่น้อง “แม็ก-มิก” ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดจนร่ำรวยเกินฐานะ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 100 ล้านบาท อ้างได้เงินมาจากซื้อขายรถมือสอง “คิสเนอร์ คาร์เซนเตอร์”

นอกจากนี้ยังพบว่า สองพี่น้องคู่นี้ยังใช้นอมินีเปิดร้านอาหาร ชื่อ “ปลาบุพเฟ่ต์ ปิ้งย่างทะเล ซีฟู๊ด” โดยให้ น.ส.เยาวลักษณ์ เอี่ยมสำอาง ภรรยาของลูกน้องเป็นผู้จดทะเบียน

และให้ นายภูวิศ ฐิติวร กับ น.ส.พรชนก พรมภักดี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ทำหน้าที่จัดหารถยนต์เพื่อนำมาใช้ในการค้ายาเสพติดโดยใช้เอกสารของ นายวัฒนา ทองโฉม ที่ถูกจับกุมล่าสุดนั่นเอง

ทั้งคู่เดิมเป็นคน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ จ.สระบุรี ต่อมา นายธงชัย ผณินทร ชักชวนให้มาร่วมค้ายาเสพติดในพื้นที่ ก่อนจะถูกจับและถูกคุมขังในเรือนจำกลางจังหวัดสระบุรี

เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว สองพี่น้องได้ผันตัวเป็นผู้สั่งการและรับยาเสพติดมาจากภาคเหนือ

ตามรายงานระบุว่า สองพี่น้อง “แม็ก-มิก” มีนิสัยก้าวร้าว กล้าได้กล้าเสีย และมีเงินดูแลกลุ่ม จึงทำให้มีเครือข่ายซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก

มีการแบ่งหน้าที่ทำเป็นขบวนการ ทั้งติดต่อซื้อขายยาเสพติด ทำธุรกรรมการเงิน และฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ซึ่งแฝดทมิฬจะดำเนินการและสั่งการชุดลำเลียงเอง

ยาเสพติดที่รับมา ลำเลียงจากพื้นที่ภาคเหนือมาพักไว้ในพื้นที่สระบุรี ส่วนมากจะฝังดินแยกจากคนเฝ้า แต่อยู่ในระยะสายตาเพื่อให้เป็นประโยชน์ในข้อต่อสู้ทางกฎหมาย หรือแยกเก็บตามโควตา จากนั้นก็สั่งการกระจายยาเสพติดทางไลน์ และเฟซบุ๊ก รวมทั้งจ้างเครือข่ายให้คอยดูแลเรื่องการเงินและการจัดหารถเพื่อใช้งาน หรือใช้แลกยาเสพติดตามคำสั่งของแฝดทมิฬ

สองพี่น้อง “แม็ก-มิก” เริ่มมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเมื่อปี 2553 หลังจากนั้นก็วนเวียนอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดมาโดยตลอด ทำหน้าที่สลับกันไปมา

ผลการปฏิบัติพบจับกุมรวมทั้งสิ้น 17 คดี 20 คน โดยมีผู้ต้องหาที่สำคัญ 4 ราย คือ นายภูวิศ ฐิติวร, นายพงศกร ศรีสรวง, น.ส.ศิริลักษณ์ นามแสงผา และนายวิทย์ถะมล เพ็งวิสัย ได้ยาบ้ากว่า 1.18 แสนเม็ด ปืน 3 กระบอก กระสุน 237 นัด รถยนต์ 37 คัน มูลค่าประมาณ 28 ล้านบาท จักรยานยนต์ 10 คัน มูลค่าประมาณ 2.3 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดิน 23 หลัง มูลค่าประมาณ 55.7 ล้านบาท

ทองรูปพรรณ เงินสด และทรัพย์สินอื่นๆ นับรวมกันแล้วรวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 94.71 ล้านบาท


แต่ระหว่างปฏิบัติการ กลับพบว่านายศราวุธ หรือ "มิก" ถูกคนร้ายใช้รถยนต์อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีขาวเป็นยานพาหนะ ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่หน้าร้านเสริมสวย ริมถนนรามเดโช เขตเทศบาลเมืองลพบุรี

ส่วนพี่ชาย "แม็ก" หรือนายชัยวุฒิ หลังทราบข่าวว่าตำรวจปราบปรามอย่างหนัก ก็หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีรายงานว่า ตำรวจชั้นประทวนนายหนึ่ง "คาบข่าว" ไปบอก กระทั่งจวนตัวจึงได้หลบหนีไป

แม้นางสมคิดจะอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำงานรับจ้างทั่วไป ได้เงินวันละ 300 บาท และไม่รู้ว่านายชัยวุฒิ แฝดผู้พี่หลบหนีไปอยู่ที่ไหน

แต่จากการสืบสวนขยายผล พบนางสมคิด และนายวัฒนา มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำหน้าที่รับโอนเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ไปซื้อทรัพย์สิน และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ จำนวนมาก

แม้ว่าขบวนการนี้จะยังเหลือ "แม็ก" หรือนายชัยวุฒิ แฝดผู้พี่เพียงผู้เดียว แต่ก็ไม่มีแผ่นดินไทยจะอยู่ ปิดฉากขบวนการเอเย่นต์ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านสุจริตชนมานาน