xs
xsm
sm
md
lg

อยากขายโรงแรม 70 ล้าน! เถ้าแก่เพชรบูรณ์สุดช้ำ “ไอ้ต่อ” คนกุเรื่องแอบถ่าย ได้ประกัน 1 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เจ้าของโรงแรมม่านรูดในตัวเมืองเพชรบูรณ์ เหยื่อ “ไอ้ต่อ” กุเรื่องแอบถ่ายสุดเครียด เปรยคิดอยากขายกิจการ 70 ล้าน หลังข่าวสะพัดทำเสื่อมเสียชื่อเสียง ลูกค้าไม่กล้าใช้บริการ ยันเรื่องแอบถ่ายไม่มีอยู่ในหัว สอบถามผู้จัดการธนาคาร เป็นเพียงพนักงานขับรถ เคยมาตอนเซ็นเอกสารขอกู้ คิดว่าคงมีเงินเลยกรรโชกทรัพย์ โอดได้ประกัน 1 หมื่น น้อยไป เทียบกับชื่อเสียงป่นปี้ หวั่นเข้ามาทำร้ายร่างกาย แฝงตัวเป็นลูกค้าซ้ำ

กรณีที่ นายณรงค์ฤทธิ์ หรือ ต่อ รีกวย อายุ 34 ปี พนักงานธนาคารออมสิน สาขาตลาดท่าพล ในจังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 2 ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ร้องเรียนว่า ได้พาสาววัย 24 ปี ที่คบหากันหลังแยกกันอยู่กับภรรยา ไปใช้บริการโรงแรมม่านรูดในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ปี 2560-2561 แต่พบว่ามีภาพตนกับแฟนสาวกำลังมีเพศสัมพันธ์ในทวิตเตอร์ และอ้างว่า ได้ล่อซื้อคลิปจากกลุ่มไลน์จำนวน 3,000 บาท ภายหลังถูกตำรวจสอบสวนจนสารภาพว่ากุเรื่องขึ้นมา และเจ้าของโรงแรมเปิดเผยว่า เคยถูก นายณรงค์ฤทธิ์ ติดต่อเข้ามาข่มขู่และกรรโชกทรัพย์ด้วย ก่อนดำเนินคดี 3 ข้อหา ได้แก่ แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน, แจ้งความเท็จเพื่อให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญาและพยายามกรรโชกทรัพย์ดำเนินคดี

วันนี้ (15 ส.ค.) พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 ส.ค. มีหญิงสาวแสดงตัวว่าเป็นแฟน นายณรงค์ฤทธิ์ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส เข้าพบ ร.ต.อ.สยาม เสตา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ประกันตัวไปในวงเงิน 10,000 บาท แต่ขณะอยู่ในห้องขัง ได้สังเกตพฤติการณ์ผ่านกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ต้องหามีอาการเครียดจัด เอามือลูบผมและใช้ศีรษะกระแทกกับลูกกรงห้องขังอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทางคดีคาดว่าจะใช้เวลาประมาน 30 วัน สำนวนสอบสวนจะแล้วเสร็จ ก่อนส่งให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไป

อีกด้านหนึ่ง นายเลิศพงษ์ พงษ์วราพัฒน์ หรือ อากู๋ อายุ 75 ปี เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนเพชบุระ ต.สะเดียง อ.เมืองฯ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการถูกนายณรงค์ฤทธิ์กุเรื่อง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเลย แม้สื่อมวลชนจะไม่ได้บอกว่าเป็นโรงแรมอะไร แต่คนในพื้นที่ก็รับรู้และไม่มีใครกล้าไปพัก เพราะกลัวถูกแอบถ่าย ยืนยันว่า ก่อนที่นายณรงค์ฤทธิ์พาหญิงสาวมาใช้บริการครั้งล่าสุด เมื่อบ่ายวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ก็ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการก่อนหน้านี้ จึงได้นำหลักฐานไปให้ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์

นายเลิศพงษ์ ยืนยันว่า ทางโรงแรมไม่มีกล้องแอบถ่าย และไม่มีความคิดที่จะแอบถ่าย พนักงานแต่และคนล้วนมีอายุมาก ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกล้อง หลังทราบว่านายณรงค์ฤทธิ์ได้ประกันตัวในวงเงิน 1 หมื่นบาท ก็รู้สึกว่าน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับชื่อเสียงของโรงแรมที่เสื่อมเสีย และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ข่าวที่เกิดขึ้นนอกจากจะกังวลเรื่องลูกค้าไม่กล้ามาใช้บริการแล้ว ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะเกรงว่านายณรงค์ฤทธิ์จะเข้ามาทำร้ายร่างกาย หรือแฝงตัวมาเป็นลูกค้า เพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบกับผู้ต้องหาแต่อย่างใด ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหาย ได้ปรึกษาทนายความไปบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าผู้ต้องหาจะมีปัญญาจ่ายหรือไม่

นอกจากนี้ ตนยังคิดที่จะขายกิจการโรงแรมดังกล่าว บนพื้นที่ 3 ไร่ ซึ่งมีทั้งส่วนของอาคารพาณิชย์และห้องพัก 22 ห้อง รวมมูลค่า 70 ล้านบาท เพราะอายุมากแล้ว มีปัญหาสุขภาพ และไม่อยากเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ลูกสาวที่เป็นแคชเชียร์จะคัดค้านก็ตาม แต่ก็ได้ชี้แจงสาเหตุกลับไป นอกจากนี้ จากการสอบถามผู้จัดการสาขาธนาคาร ทราบว่า นายณรงค์ฤทธิ์ไม่ได้เป็นพนักงานสินเชื่อ เป็นเพียงพนักงานขับรถ เคยมาที่โรงแรมด้วยกันเพื่อนำเอกสารขอสินเชื่อมาให้เซ็น นายณรงค์ฤทธิ์คงเห็นว่ามีทรัพย์สิน จึงกุเรื่องขึ้นมาเพื่อกรรโชกทรัพย์

รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจได้ตรวจสอบนายณรงค์ฤทธิ์ พบว่า เป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ของธนาคาร ส่วนสาววัย 24 นั้น เป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่เดียวกัน ขณะที่ผู้จัดการสาขาธนาคาร ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้ว ส่วนพนักงานธนาคารก็ระบุว่า นายณรงค์ฤทธิ์ เป็นคนเงียบๆ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ขณะนี้ถูกพักงานชั่วคราว


กำลังโหลดความคิดเห็น