ถึงแม้ว่าเส้นทางการเป็นแร็ปเปอร์จะไม่ใช่ความฝันมาตั้งแต่เริ่มต้น แต่วันหนึ่งเขากลับเลือกเดินทางนี้ด้วยเพราะความอยากลองทำ และลองผิดลองถูกด้วยตัวเองเรื่อยมาจนกระทั่งเกิดเป็นความรัก และทำให้วันนี้ชื่อของ “วัชรินทร์ พึ่งสุข” หรือ “ปอนด์ A.K.A P-HOT” ได้กลายมาเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินแร็ปเปอร์รุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น
ล่าสุดเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ The Rapper และถึงแม้ว่าจะไม่ได้คว้าแชมป์ในรายการ แต่ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับสไตล์การร้องเพลงแนวใหม่อย่าง “ลูกแทร็ป” (ลูกทุ่ง + Trap or Rap) ที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับสากลได้อย่างลงตัว ทำให้กระแสตอบรับออกมาดีและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้แล้ว ปอนด์ยังมีผลงานเพลงของตัวเองผ่านทางช่อง Youtube : P-HOT Official หลากหลายเพลง เช่น หน้าปลวก แล้วไง (feat. SNOOPKING), เลิกบุหรี่นะเธอ (feat. Roony), เต้นให้ตีนแตก (feat. Sir Poppa Lot), PoPo (feat. Cp Sming Crew), Monster (feat. Roony), She Bad, ชู้รัก (feat. Earthreaxe), จังหวัดอะไรไม่รู้ (feat. Bambam The Voice (ททท.), Bye Bye (feat.YOUNGOHM), Burning Hot และล่าสุดกับเพลง เบอร์มาดิ (feat. Mindset & MVL (Double P)

• กว่าจะมาเป็นแร็ปเปอร์ P-HOT
ก่อนจะมาร้องเพลงแร็ปอย่างทุกวันนี้ สิ่งที่ผมใฝ่ฝันอยากจะเป็นที่สุดก็คือ นักฟุตบอลทีมชาติ ส่วนตัวผมชอบเตะบอลมากๆ ผมเริ่มเตะบอลมาตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบได้ครับ ถ้าวันไหนไม่ได้ทำ ผมจะเครียดและนอนไม่หลับ และผมโชคดีด้วยที่พ่อกับแม่สนับสนุน เพราะพ่อผมเองก็ทำทีมฟุตบอลอยู่แล้วด้วย มันเลยทำให้ผมซึมซับกับสิ่งนี้มาโดยตลอด
ส่วนตัวเวลาผมที่ทำอะไร ผมค่อนข้างจะเป็นคนที่จริงจัง อย่างฟุตบอลผมก็ไปแข่งจนได้เป็นนักฟุตบอลจังหวัด ซึ่งพ่อก็ได้ส่งให้ผมไปอยู่โรงเรียนกีฬาเพื่อที่ผมจะได้เตะบอลและทำตามความฝันของตัวเองโดยเฉพาะ กิจวัตรประจำวันตอนที่อยู่โรงเรียนก็คือ ตื่นเช้าผมจะออกไปวิ่ง วิ่งเสร็จไปเรียน บ่าย 3 โมงเย็นเลิกเรียน ผมก็จะไปเตะบอลต่อ จะเป็นอยู่แบบนี้ทุกวัน แต่เมื่อก่อนฟุตบอลไทยยังไม่ได้บูมมากอย่างในสมัยนี้ ผมก็เลยตัดสินใจออกจากโรงเรียนกีฬา กลับมาเรียนต่อที่โรงเรียนชายล้วนแถวบ้าน
มีวันหนึ่งที่ผมได้กลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วบังเอิญผมได้ยินพี่ข้างบ้านเขาเปิดเพลงแนวฮิปฮอป เพลงแร็ปของเมืองนอก ผมก็อยากรู้ว่าเป็นเพลงอะไร เพราะมันเป็นเพลงที่สนุกและมันมาก แต่เพลงที่มาสะดุดหูผมมากๆ เลยก็คือเพลงของดาจิม ผมเลยมานั่งคิดว่าเพลงแบบนี้มีในบ้านเราด้วยเหรอ เพราะมันจะออกแนวหยาบนิดหนึ่ง ซึ่งพี่ข้างบ้านเขาก็บอกมาว่า อ๋อเพลงนี้เป็นเพลงใต้ดิน พอผมรู้จัก ผมก็เลยลองฟังและศึกษาไปเรื่อยๆ จนเพื่อนๆ พี่ๆ ในโรงเรียนเรียกผมว่า “ไอ้แร็ป” ตั้งแต่ผมอยู่ชั้นมัธยมชั้นปีที่ 3

• ได้ฉายา “ไอ้แร็ป” แบบนี้แสดงว่าเราชัดเจนแล้วว่าจะมาทางนี้
ใช่ครับ เพราะด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชอบอะไรแตกต่างและไม่ชอบทำอะไรเหมือนใคร ตอนแรกผมเริ่มจากการแต่งตัวก่อนนะครับ เพราะเราก็ยังแร็ปไม่เป็น ผมได้ศึกษาไปเรื่อยๆ จนไปเจอเว็บไซต์ SIAM HIPHOP และเจอแผ่นเพลงแผ่นหนึ่งซึ่งผมก็เลยขอซื้อแผ่นนั้นจากทางเว็บไซต์ ในนั้นเขามีเบอร์ติดต่อไว้ ผมก็เลยได้ติดต่อไปจนได้รู้จักกับพี่เกด ซึ่งพี่เขาก็เป็นแร็ปอยู่ในนั้นด้วย
ผมปรึกษาเขาและถามเขาไปว่า “ผมอยากทำเพลง ต้องทำยังไง” เขาก็เลยแนะนำในเรื่องต่างๆ และบอกให้ผมพยายามฟังเพลงเยอะๆ ให้แร็ปตามเพลงคนอื่นไปก่อน เพราะเริ่มแร็ปแรกๆ ปากเราจะยังไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ การฟังเยอะๆ เราก็จะได้ไอเดียหาคำมาแต่งเพลงได้ อะไรประมาณนี้ครับ
• กว่าจะมาถึงวันนี้ ฝึกฝนตัวเองอย่างไรบ้าง
แรกๆ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมทำอะไรไม่เป็นเลย ผมก็เลยลองแร็ปจากเพลงของศิลปินอย่าง โจอี้บอย ไทเทเนียม พี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ฯลฯ ผมเริ่มด้วยตัวเองทุกอย่าง ฝึกเองไปมั่วๆ ทำผิดๆ ถูกๆ หลังจากนั้นผมก็เลยขอเงินพ่อซื้อไมค์ก้านราคา 150 บาท และฝึกเขียนเพลงไว้เยอะมาก สุดท้ายมันก็ลงล็อก จนเราสามารถทำเพลงได้ แร็ปลงบีตลงจังหวะได้
แร็ปจะคล้ายๆ กับการแต่งกลอน อารมณ์ประมาณกลอน 4 สุภาพ กลอน 8 แต่ต้องประกอบเข้ากับจังหวะ อะไรทำนองนี้ครับ ซึ่งมันสามารถแต่งไปได้ตลอด ไม่มีคำว่าตัน อย่างเวลาผมไปเปิดหนังสือพิมพ์ผมเจอ เช่นคำว่า “โศกนาฏกรรม” ผมก็จะขีดเส้นใต้คำนี้เอาไว้ว่าเราจะเอามาใช้กับอะไรดี และเราก็จะหาเรื่องราวต่างๆ เพื่อเอามาปะติดปะต่อกับคำนี้เกิดเป็นเรื่องราวให้ได้ครับ
ผมจะพยายามฝึกฝนและทำการบ้านทุกวัน ผมฝึกหนักมาก เพราะการจะเป็นแร็ปเปอร์ได้เราต้องดู ต้องฟัง ต้องอ่านตลอดเวลา เพื่อที่จะเอาสถานการณ์ต่างๆ ที่คนเขาพูดกัน ดูกันมาอยู่ในเพลงด้วย ก็เหมือนคำที่ฮิตๆ สมัยนี้ หรือคำที่เล่าจากเรื่องจริง ยิ่งอะไรที่เป็นเรื่องจริง ถ้าเราเล่าไป คนก็จะอินและสัมผัสใจคนฟังได้

• หลังจากนั้น เราทำอย่างไรต่อไปกับเส้นทางที่เราเลือกแล้วบ้าง
ผมก็เริ่มไปประกวดครับ ประกวดครั้งแรกที่ Siam Hiphop audio Battle 3 ปี ค.ศ. 2006 ซึ่งเขาก็ได้จัดให้รวบรวมเอาสายแร็ป สายฮิปฮอปมาประกวดกัน คนเก่งๆ ลงประกวดกันเยอะมาก ผมก็ได้เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายครับ
หลังจากนั้นผมก็ไปประกวดรายการ battle of the year ปี ค.ศ. 2007 รายการนี้เป็นรายการที่ใหญ่มากในสมัยนั้นเพราะเมื่อก่อนยังไม่มีสื่อที่เปิดกว้างแบบทุกวันนี้
ตอนนั้นที่ไปแข่ง เขาจะมี 4 ภาค ผมเป็นคนใต้ อยู่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็เลยลงของภาคใต้ จนได้อันดับ 2 คัดเลือกภาคใต้ และได้มาแข่งระดับประเทศที่กรุงเทพมหานคร ได้อันดับ 4 รอบชิงแชมป์ประเทศครับ
จำได้แม่นเลยครับว่าครั้งนั้นผมได้เงินรางวัล 5,000 บาท ดีใจและภูมิใจมากที่เราทำได้ เพราะการแข่งขันครั้งนั้นผมไม่ได้คาดหวังเลยว่าเราจะชนะ เราคิดแต่ว่าจะมาหาประสบการณ์ มาฟังคำแนะนำจากคนอื่นๆ เราจะได้กล้ามากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเวทีประกวดเพลงแร็ป เพลงฮิปฮอปมีน้อยมากจริงๆ
จากนั้นมาผมก็ได้ห่างจากการประกวดไปสักระยะ แต่เราก็ยังอยู่ในวงการเพลงนะครับ โดยผมไปเป็น MC เปิดเพลง และทำเพลงแร็ปใต้ดินมาเป็นเวลากว่า 10 ปี

• หายจากการประกวดไปหลายปี และกลับมาประกวดอีกครั้งหนึ่งใน รายการ Rap is Now the War is on 3
ใช่ครับ ผมกลับมาประกวดอีกครั้งในปี ค.ศ. 2017 ในรายการ Rap is Now the War is on 3 จริงๆ ผมเห็นรายการ Rap is Now มาตั้งแต่ที่เขามีซีซัน 1 ซีซัน 2 แล้วนะครับ ซึ่งรายการเขาบูมมากๆ
จนซีซัน 3 ผมเลยคิดว่าเราต้องลงประกวดบ้างแล้ว เราจะไม่ลงไม่ได้ ตอนนั้นเขาก็แบ่งเป็น 4 ภาคเหมือนเดิม ผมก็ลงของภาคใต้เช่นเดิม เขาต้องคัดให้เหลือ 4-5 คนเพื่อเป็นตัวแทน
การกลับไปประกวดอีกครั้ง ด้วยความที่ผมห่างจากการจับไมค์แบตเทิร์นมานาน ครั้งนั้นใจผมสั่นมาก ตื่นเต้นมาก ตั้งตัวแทบไม่ทันเหมือนกัน พอไปยืนบนเวที ผมรู้เลยว่าตัวเองแก่ที่สุดบนนั้นแล้ว (หัวเราะ) ถ้าเราแพ้เด็ก เราก็อายเหมือนกันนะ
สุดท้ายผมก็ได้เป็นตัวแทนภาคใต้ จนผ่านมาได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายครับ รายการนี้ทำให้ผมได้มาเจอ “พี่หมวดแวน” ที่สนิทกันอยู่แล้ว ตอนนั้นที่รู้ว่าต้องแบตเทิลกับพี่หมวดแวนเชื่อไหมผมกุมขมับเลยนะครับ เพราะประสบการณ์เขาแน่นมาก อย่างเวที battle of the year เขาก็ได้ที่ 2 มา โปรไฟล์ก็ดี ผลงานเขาก็เยอะมาก ผมเลยคุยกับเพื่อนว่าแล้วเราจะเอาอะไรไปชนะเขาวะ ตอนนั้นเลยคิดว่าเราไม่ชนะไม่เป็นไร แต่เราจะแพ้ขาดลอยไม่ได้ ผมก็มานอนๆ คิดว่าจะแร็ปสู้เขายังไงดี จนมาคิดได้ว่าพี่แวนเขาเป็นตำรวจ มีจุดให้ด่าเยอะนี่หว่า ผมก็เลยอัดคลิปส่งให้เขาบอกว่า รอบนี้ไม่มีพี่ไม่มีน้องนะ ซึ่งพี่แวนก็เอาไปแชร์และกลายเป็นคลิปไวรัลไป
ครั้งนั้นผมหาคำด่าพี่แวนได้เพราะผมนั่งแท็กซี่ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วเจอด่าน เจอตำรวจเป่านกหวีด ผมเลยจุดประกาย เอาเรื่องนกหวีดมาแต่งด่าพี่แวนก็แล้วกัน ซึ่งวันแข่งผมพกนกหวีดไปด้วยนะ แร็ปประมาณว่า “ควรกลับไปฝึกแร็ปที่ด่านไป” อะไรประมาณนี้ครับ (หัวเราะ) พอประกาศผลรายการนั้น ผมก็ได้อันดับ 4 มาครับ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน
ผมต้องขอบคุณรายการนี้ที่เขาจุดประกายให้หลายคนได้รู้จักแร็ป ได้รู้จักฮิปฮอปมากขึ้น อีกทั้งยังได้ปลุกไฟใครหลายๆ คนที่เขาเคยแร็ปแต่เลิกไปทำงานต่างๆ ที่ไม่ใช่ตัวเอง หรือทิ้งความฝันของตัวเองไปแล้ว ได้กลับมาแร็ปอีกครั้งหนึ่ง ถ้าไม่มี Rap is Now ผมมองว่า แร็ป ฮิปฮอปก็จะยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้แร็ป ฮิปฮอปก็มีคนรู้จักมากขึ้น เป็นกระแสมากขึ้นครับ

• The Rapper เวทีล่าสุด เห็นว่ารายการนี้ทำให้ P-Hot เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ผมมาเห็นรายการ The rapper และส่งเพลงไปออดิชันวันสุดท้ายแล้ว พอสักพักหนึ่งเขาก็เรียกตัวไปออดิชันอีกรอบและได้ไปประกวดรายการนี้ครับ
รายการนี้จะว่าไปแล้วน่าจะทำให้ผมประสบความสำเร็จมากที่สุดเลยก็ได้นะครับ มันทำให้มีอะไรแปลกๆ ดีๆ เข้ามาในชีวิตของผมมากขึ้น กว้างขึ้น ทำให้แม่ค้าส้มตำ วินมอเตอร์ไซค์ หรือเดินไปไหนคนก็รู้จักเรา แม้ว่าเราจะเข้าแค่รอบ play off และต้องตกรอบไป แต่ผมก็ไม่ได้เสียใจเลยครับ เพราะเราก็ทำเต็มที่แล้ว ผมจะจำช่วงเวลาช่วงนี้ไว้ แต่ผมไม่ได้หลงละเลิงกับชื่อเสียงหรืออะไรนะครับ เพราะหลักๆ แล้วผมมองว่าเพื่อนพี่น้องอยู่นานกว่าชื่อเสียง ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตที่เราได้ทำ และได้ต่อสู้อยู่บนเส้นทางนี้มานาน
• ทราบมาว่าเอกลักษณ์ของ P-HOT คือการร้อง “ลูกแทร็ป” แล้วลูกแทร็ปคืออะไรเหรอคะ
ลูกแทร็ปคือ (ลูกทุ่ง + Trap or Rap) ครับ คำนี้มาจากพี่แต๊บ โปรดิวเซอร์ในรายการ The Rapper คิดให้ เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยทำลูกแทร็ป โดยหยิบเพลง ไก่จ๋า (เพลงประพันธ์ของ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ต้นฉบับ สายัณห์ สัญญา) โดยเอาคาราโอเกะ เอาบีตเพลงนี้มาร้อง และใส่แร็ปที่ผมใช้เวลาแต่งไปประมาณครึ่งชั่วโมงเข้าไป
จนมาในรายการ The Rapper เขาก็อยากให้ผมทำแบบนั้นต่อ เพราะเขาเคยฟังเพลงไก่จ๋ามาแล้ว แล้วเขาก็ชอบ เวทีนี้ผมก็เลยได้ร้องเพลงลูกแทร็ปอีกครั้ง โดยใช้ “เพลงขอเป็นพระเอกในหัวใจเธอ” ของพี่กุ้ง สุทธิราช วันนั้นเป็นรอบออดิชัน ผมแต่งตัวเป็นลูกทุ่งไปเลย (หัวเราะ) พอขึ้นไปเวที มาในลุคแรกดูเหมือนเราจะติดหล่อ จนเราแร็ป วันนั้นทำให้ผมได้หมวกทองมา 3 ใบ จากที่คณะกรรมการแย่งกัน ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะสตีลแย่งผมกัน สุดท้ายผมต้องเลือกกรรมการเองและได้อยู่กับ TJ ครับ
พอรอบแบตเทิลกับ I ron boy ผมใช้เพลง “มันต้องถอน” (ปอยฝ้าย มาลัยพร) และรอบ pay off ใช้เพลง “เลี้ยงส่ง” (So Cool)
ผมว่าการเอาลูกทุ่งผสมกับแร็ป มันสนุกดี แต่ผมจะผสมให้เป็นแนวสมัยใหม่ ไม่ให้มันเชย บวกกับความเป็นตัวผมเองลงไป ตรงนั้นก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ถือว่าเป็นทางของผมเหมือนกัน

• จากความฝันในวันวานที่อยากจะเป็นนักฟุตบอล จนเปลี่ยนแนวมาเป็นแร็ปเปอร์ วันนี้คิดว่าตัวเองมาถูกทางไหมคะ
เอาจริงๆ ตอนแรกพ่อกับแม่ผมเขาก็บอกนะครับว่าทำเพลงแบบนี้มันจะได้อะไร เพลงนี้มันจะดังได้เหรอในบ้านเรา สมัยก่อนคนอาจจะยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าแร็ปคืออะไร ฮิปฮอปคืออะไร ตอนนี้ทางบ้านก็เข้าใจและไม่ห่วงในสิ่งที่ผมทำแล้วครับ เพราะทุกวันนี้เราก็หาเงินได้จากการร้องแร็ปนี่แหละ และผมก็จะทำมันต่อไปเรื่อยๆ ครับ
• อนาคตจะมีผลงานอะไรออกมาให้ได้เห็นอีกบ้างคะ
ผลงานเพลงล่าสุดคือเพลง เบอร์มาดิ - P-HOT ft. Mindset & MVL (Double P) ครับ เร็วๆ นี้ผมก็จะมีโปรเจกต์กับ TJ ที่จะปล่อยเดือนกันยายนนี้ด้วย แล้วก็จะมีเพลงลูกแทร็ป “เพลงหมากัด” ตรงนี้ก็ได้นำไปเสนอขออนุญาตพี่เอกชัย ศรีวิชัย และบอกกับพี่เอกชัย ศรีวิชัย ไปแล้วว่าผมอยากทำเพลงนี้ เพราะเราเป็นคนใต้ด้วย พี่เอกชัยก็เป็นคนใต้ที่หลายคนชื่นชอบด้วย ซึ่งพี่เอกก็ได้นัดกับผมแล้วครับ แต่ว่าครั้งแรกที่นัดกัน แม่ผมป่วยหนักก็เลยต้องยกเลิกนัดไปก่อน ตอนนี้ก็กำลังหาวันนัดไปคุยกันอีกครั้ง แล้วก็อาจจะเริ่มทำเพลงนี้กันเลย เพลงนี้พี่เอกอาจจะร้องท่อนฮุก ผมจะร้องแร็ป แล้วก็จะมีอีก 1 คน มาฟีเจอริง (featuring) ก็อยากให้รอติดตามกันครับ



ติดต่องานได้ที่
เบอร์โทร 089-182-9447
Youtube P-Hot Official
Facebook : P-Hot
ข้อมูล : รายการพระอาทิตย์ live
ภาพ : รายการพระอาทิตย์ live, Facebook : P-Hot
เรียบเรียง : วรัญญา งามขำ
ล่าสุดเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ The Rapper และถึงแม้ว่าจะไม่ได้คว้าแชมป์ในรายการ แต่ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับสไตล์การร้องเพลงแนวใหม่อย่าง “ลูกแทร็ป” (ลูกทุ่ง + Trap or Rap) ที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับสากลได้อย่างลงตัว ทำให้กระแสตอบรับออกมาดีและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้แล้ว ปอนด์ยังมีผลงานเพลงของตัวเองผ่านทางช่อง Youtube : P-HOT Official หลากหลายเพลง เช่น หน้าปลวก แล้วไง (feat. SNOOPKING), เลิกบุหรี่นะเธอ (feat. Roony), เต้นให้ตีนแตก (feat. Sir Poppa Lot), PoPo (feat. Cp Sming Crew), Monster (feat. Roony), She Bad, ชู้รัก (feat. Earthreaxe), จังหวัดอะไรไม่รู้ (feat. Bambam The Voice (ททท.), Bye Bye (feat.YOUNGOHM), Burning Hot และล่าสุดกับเพลง เบอร์มาดิ (feat. Mindset & MVL (Double P)
• กว่าจะมาเป็นแร็ปเปอร์ P-HOT
ก่อนจะมาร้องเพลงแร็ปอย่างทุกวันนี้ สิ่งที่ผมใฝ่ฝันอยากจะเป็นที่สุดก็คือ นักฟุตบอลทีมชาติ ส่วนตัวผมชอบเตะบอลมากๆ ผมเริ่มเตะบอลมาตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบได้ครับ ถ้าวันไหนไม่ได้ทำ ผมจะเครียดและนอนไม่หลับ และผมโชคดีด้วยที่พ่อกับแม่สนับสนุน เพราะพ่อผมเองก็ทำทีมฟุตบอลอยู่แล้วด้วย มันเลยทำให้ผมซึมซับกับสิ่งนี้มาโดยตลอด
ส่วนตัวเวลาผมที่ทำอะไร ผมค่อนข้างจะเป็นคนที่จริงจัง อย่างฟุตบอลผมก็ไปแข่งจนได้เป็นนักฟุตบอลจังหวัด ซึ่งพ่อก็ได้ส่งให้ผมไปอยู่โรงเรียนกีฬาเพื่อที่ผมจะได้เตะบอลและทำตามความฝันของตัวเองโดยเฉพาะ กิจวัตรประจำวันตอนที่อยู่โรงเรียนก็คือ ตื่นเช้าผมจะออกไปวิ่ง วิ่งเสร็จไปเรียน บ่าย 3 โมงเย็นเลิกเรียน ผมก็จะไปเตะบอลต่อ จะเป็นอยู่แบบนี้ทุกวัน แต่เมื่อก่อนฟุตบอลไทยยังไม่ได้บูมมากอย่างในสมัยนี้ ผมก็เลยตัดสินใจออกจากโรงเรียนกีฬา กลับมาเรียนต่อที่โรงเรียนชายล้วนแถวบ้าน
มีวันหนึ่งที่ผมได้กลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วบังเอิญผมได้ยินพี่ข้างบ้านเขาเปิดเพลงแนวฮิปฮอป เพลงแร็ปของเมืองนอก ผมก็อยากรู้ว่าเป็นเพลงอะไร เพราะมันเป็นเพลงที่สนุกและมันมาก แต่เพลงที่มาสะดุดหูผมมากๆ เลยก็คือเพลงของดาจิม ผมเลยมานั่งคิดว่าเพลงแบบนี้มีในบ้านเราด้วยเหรอ เพราะมันจะออกแนวหยาบนิดหนึ่ง ซึ่งพี่ข้างบ้านเขาก็บอกมาว่า อ๋อเพลงนี้เป็นเพลงใต้ดิน พอผมรู้จัก ผมก็เลยลองฟังและศึกษาไปเรื่อยๆ จนเพื่อนๆ พี่ๆ ในโรงเรียนเรียกผมว่า “ไอ้แร็ป” ตั้งแต่ผมอยู่ชั้นมัธยมชั้นปีที่ 3
• ได้ฉายา “ไอ้แร็ป” แบบนี้แสดงว่าเราชัดเจนแล้วว่าจะมาทางนี้
ใช่ครับ เพราะด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชอบอะไรแตกต่างและไม่ชอบทำอะไรเหมือนใคร ตอนแรกผมเริ่มจากการแต่งตัวก่อนนะครับ เพราะเราก็ยังแร็ปไม่เป็น ผมได้ศึกษาไปเรื่อยๆ จนไปเจอเว็บไซต์ SIAM HIPHOP และเจอแผ่นเพลงแผ่นหนึ่งซึ่งผมก็เลยขอซื้อแผ่นนั้นจากทางเว็บไซต์ ในนั้นเขามีเบอร์ติดต่อไว้ ผมก็เลยได้ติดต่อไปจนได้รู้จักกับพี่เกด ซึ่งพี่เขาก็เป็นแร็ปอยู่ในนั้นด้วย
ผมปรึกษาเขาและถามเขาไปว่า “ผมอยากทำเพลง ต้องทำยังไง” เขาก็เลยแนะนำในเรื่องต่างๆ และบอกให้ผมพยายามฟังเพลงเยอะๆ ให้แร็ปตามเพลงคนอื่นไปก่อน เพราะเริ่มแร็ปแรกๆ ปากเราจะยังไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ การฟังเยอะๆ เราก็จะได้ไอเดียหาคำมาแต่งเพลงได้ อะไรประมาณนี้ครับ
• กว่าจะมาถึงวันนี้ ฝึกฝนตัวเองอย่างไรบ้าง
แรกๆ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมทำอะไรไม่เป็นเลย ผมก็เลยลองแร็ปจากเพลงของศิลปินอย่าง โจอี้บอย ไทเทเนียม พี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ฯลฯ ผมเริ่มด้วยตัวเองทุกอย่าง ฝึกเองไปมั่วๆ ทำผิดๆ ถูกๆ หลังจากนั้นผมก็เลยขอเงินพ่อซื้อไมค์ก้านราคา 150 บาท และฝึกเขียนเพลงไว้เยอะมาก สุดท้ายมันก็ลงล็อก จนเราสามารถทำเพลงได้ แร็ปลงบีตลงจังหวะได้
แร็ปจะคล้ายๆ กับการแต่งกลอน อารมณ์ประมาณกลอน 4 สุภาพ กลอน 8 แต่ต้องประกอบเข้ากับจังหวะ อะไรทำนองนี้ครับ ซึ่งมันสามารถแต่งไปได้ตลอด ไม่มีคำว่าตัน อย่างเวลาผมไปเปิดหนังสือพิมพ์ผมเจอ เช่นคำว่า “โศกนาฏกรรม” ผมก็จะขีดเส้นใต้คำนี้เอาไว้ว่าเราจะเอามาใช้กับอะไรดี และเราก็จะหาเรื่องราวต่างๆ เพื่อเอามาปะติดปะต่อกับคำนี้เกิดเป็นเรื่องราวให้ได้ครับ
ผมจะพยายามฝึกฝนและทำการบ้านทุกวัน ผมฝึกหนักมาก เพราะการจะเป็นแร็ปเปอร์ได้เราต้องดู ต้องฟัง ต้องอ่านตลอดเวลา เพื่อที่จะเอาสถานการณ์ต่างๆ ที่คนเขาพูดกัน ดูกันมาอยู่ในเพลงด้วย ก็เหมือนคำที่ฮิตๆ สมัยนี้ หรือคำที่เล่าจากเรื่องจริง ยิ่งอะไรที่เป็นเรื่องจริง ถ้าเราเล่าไป คนก็จะอินและสัมผัสใจคนฟังได้
• หลังจากนั้น เราทำอย่างไรต่อไปกับเส้นทางที่เราเลือกแล้วบ้าง
ผมก็เริ่มไปประกวดครับ ประกวดครั้งแรกที่ Siam Hiphop audio Battle 3 ปี ค.ศ. 2006 ซึ่งเขาก็ได้จัดให้รวบรวมเอาสายแร็ป สายฮิปฮอปมาประกวดกัน คนเก่งๆ ลงประกวดกันเยอะมาก ผมก็ได้เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายครับ
หลังจากนั้นผมก็ไปประกวดรายการ battle of the year ปี ค.ศ. 2007 รายการนี้เป็นรายการที่ใหญ่มากในสมัยนั้นเพราะเมื่อก่อนยังไม่มีสื่อที่เปิดกว้างแบบทุกวันนี้
ตอนนั้นที่ไปแข่ง เขาจะมี 4 ภาค ผมเป็นคนใต้ อยู่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็เลยลงของภาคใต้ จนได้อันดับ 2 คัดเลือกภาคใต้ และได้มาแข่งระดับประเทศที่กรุงเทพมหานคร ได้อันดับ 4 รอบชิงแชมป์ประเทศครับ
จำได้แม่นเลยครับว่าครั้งนั้นผมได้เงินรางวัล 5,000 บาท ดีใจและภูมิใจมากที่เราทำได้ เพราะการแข่งขันครั้งนั้นผมไม่ได้คาดหวังเลยว่าเราจะชนะ เราคิดแต่ว่าจะมาหาประสบการณ์ มาฟังคำแนะนำจากคนอื่นๆ เราจะได้กล้ามากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเวทีประกวดเพลงแร็ป เพลงฮิปฮอปมีน้อยมากจริงๆ
จากนั้นมาผมก็ได้ห่างจากการประกวดไปสักระยะ แต่เราก็ยังอยู่ในวงการเพลงนะครับ โดยผมไปเป็น MC เปิดเพลง และทำเพลงแร็ปใต้ดินมาเป็นเวลากว่า 10 ปี
• หายจากการประกวดไปหลายปี และกลับมาประกวดอีกครั้งหนึ่งใน รายการ Rap is Now the War is on 3
ใช่ครับ ผมกลับมาประกวดอีกครั้งในปี ค.ศ. 2017 ในรายการ Rap is Now the War is on 3 จริงๆ ผมเห็นรายการ Rap is Now มาตั้งแต่ที่เขามีซีซัน 1 ซีซัน 2 แล้วนะครับ ซึ่งรายการเขาบูมมากๆ
จนซีซัน 3 ผมเลยคิดว่าเราต้องลงประกวดบ้างแล้ว เราจะไม่ลงไม่ได้ ตอนนั้นเขาก็แบ่งเป็น 4 ภาคเหมือนเดิม ผมก็ลงของภาคใต้เช่นเดิม เขาต้องคัดให้เหลือ 4-5 คนเพื่อเป็นตัวแทน
การกลับไปประกวดอีกครั้ง ด้วยความที่ผมห่างจากการจับไมค์แบตเทิร์นมานาน ครั้งนั้นใจผมสั่นมาก ตื่นเต้นมาก ตั้งตัวแทบไม่ทันเหมือนกัน พอไปยืนบนเวที ผมรู้เลยว่าตัวเองแก่ที่สุดบนนั้นแล้ว (หัวเราะ) ถ้าเราแพ้เด็ก เราก็อายเหมือนกันนะ
สุดท้ายผมก็ได้เป็นตัวแทนภาคใต้ จนผ่านมาได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายครับ รายการนี้ทำให้ผมได้มาเจอ “พี่หมวดแวน” ที่สนิทกันอยู่แล้ว ตอนนั้นที่รู้ว่าต้องแบตเทิลกับพี่หมวดแวนเชื่อไหมผมกุมขมับเลยนะครับ เพราะประสบการณ์เขาแน่นมาก อย่างเวที battle of the year เขาก็ได้ที่ 2 มา โปรไฟล์ก็ดี ผลงานเขาก็เยอะมาก ผมเลยคุยกับเพื่อนว่าแล้วเราจะเอาอะไรไปชนะเขาวะ ตอนนั้นเลยคิดว่าเราไม่ชนะไม่เป็นไร แต่เราจะแพ้ขาดลอยไม่ได้ ผมก็มานอนๆ คิดว่าจะแร็ปสู้เขายังไงดี จนมาคิดได้ว่าพี่แวนเขาเป็นตำรวจ มีจุดให้ด่าเยอะนี่หว่า ผมก็เลยอัดคลิปส่งให้เขาบอกว่า รอบนี้ไม่มีพี่ไม่มีน้องนะ ซึ่งพี่แวนก็เอาไปแชร์และกลายเป็นคลิปไวรัลไป
ครั้งนั้นผมหาคำด่าพี่แวนได้เพราะผมนั่งแท็กซี่ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วเจอด่าน เจอตำรวจเป่านกหวีด ผมเลยจุดประกาย เอาเรื่องนกหวีดมาแต่งด่าพี่แวนก็แล้วกัน ซึ่งวันแข่งผมพกนกหวีดไปด้วยนะ แร็ปประมาณว่า “ควรกลับไปฝึกแร็ปที่ด่านไป” อะไรประมาณนี้ครับ (หัวเราะ) พอประกาศผลรายการนั้น ผมก็ได้อันดับ 4 มาครับ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน
ผมต้องขอบคุณรายการนี้ที่เขาจุดประกายให้หลายคนได้รู้จักแร็ป ได้รู้จักฮิปฮอปมากขึ้น อีกทั้งยังได้ปลุกไฟใครหลายๆ คนที่เขาเคยแร็ปแต่เลิกไปทำงานต่างๆ ที่ไม่ใช่ตัวเอง หรือทิ้งความฝันของตัวเองไปแล้ว ได้กลับมาแร็ปอีกครั้งหนึ่ง ถ้าไม่มี Rap is Now ผมมองว่า แร็ป ฮิปฮอปก็จะยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้แร็ป ฮิปฮอปก็มีคนรู้จักมากขึ้น เป็นกระแสมากขึ้นครับ
• The Rapper เวทีล่าสุด เห็นว่ารายการนี้ทำให้ P-Hot เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ผมมาเห็นรายการ The rapper และส่งเพลงไปออดิชันวันสุดท้ายแล้ว พอสักพักหนึ่งเขาก็เรียกตัวไปออดิชันอีกรอบและได้ไปประกวดรายการนี้ครับ
รายการนี้จะว่าไปแล้วน่าจะทำให้ผมประสบความสำเร็จมากที่สุดเลยก็ได้นะครับ มันทำให้มีอะไรแปลกๆ ดีๆ เข้ามาในชีวิตของผมมากขึ้น กว้างขึ้น ทำให้แม่ค้าส้มตำ วินมอเตอร์ไซค์ หรือเดินไปไหนคนก็รู้จักเรา แม้ว่าเราจะเข้าแค่รอบ play off และต้องตกรอบไป แต่ผมก็ไม่ได้เสียใจเลยครับ เพราะเราก็ทำเต็มที่แล้ว ผมจะจำช่วงเวลาช่วงนี้ไว้ แต่ผมไม่ได้หลงละเลิงกับชื่อเสียงหรืออะไรนะครับ เพราะหลักๆ แล้วผมมองว่าเพื่อนพี่น้องอยู่นานกว่าชื่อเสียง ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตที่เราได้ทำ และได้ต่อสู้อยู่บนเส้นทางนี้มานาน
• ทราบมาว่าเอกลักษณ์ของ P-HOT คือการร้อง “ลูกแทร็ป” แล้วลูกแทร็ปคืออะไรเหรอคะ
ลูกแทร็ปคือ (ลูกทุ่ง + Trap or Rap) ครับ คำนี้มาจากพี่แต๊บ โปรดิวเซอร์ในรายการ The Rapper คิดให้ เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยทำลูกแทร็ป โดยหยิบเพลง ไก่จ๋า (เพลงประพันธ์ของ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ต้นฉบับ สายัณห์ สัญญา) โดยเอาคาราโอเกะ เอาบีตเพลงนี้มาร้อง และใส่แร็ปที่ผมใช้เวลาแต่งไปประมาณครึ่งชั่วโมงเข้าไป
จนมาในรายการ The Rapper เขาก็อยากให้ผมทำแบบนั้นต่อ เพราะเขาเคยฟังเพลงไก่จ๋ามาแล้ว แล้วเขาก็ชอบ เวทีนี้ผมก็เลยได้ร้องเพลงลูกแทร็ปอีกครั้ง โดยใช้ “เพลงขอเป็นพระเอกในหัวใจเธอ” ของพี่กุ้ง สุทธิราช วันนั้นเป็นรอบออดิชัน ผมแต่งตัวเป็นลูกทุ่งไปเลย (หัวเราะ) พอขึ้นไปเวที มาในลุคแรกดูเหมือนเราจะติดหล่อ จนเราแร็ป วันนั้นทำให้ผมได้หมวกทองมา 3 ใบ จากที่คณะกรรมการแย่งกัน ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะสตีลแย่งผมกัน สุดท้ายผมต้องเลือกกรรมการเองและได้อยู่กับ TJ ครับ
พอรอบแบตเทิลกับ I ron boy ผมใช้เพลง “มันต้องถอน” (ปอยฝ้าย มาลัยพร) และรอบ pay off ใช้เพลง “เลี้ยงส่ง” (So Cool)
ผมว่าการเอาลูกทุ่งผสมกับแร็ป มันสนุกดี แต่ผมจะผสมให้เป็นแนวสมัยใหม่ ไม่ให้มันเชย บวกกับความเป็นตัวผมเองลงไป ตรงนั้นก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ถือว่าเป็นทางของผมเหมือนกัน
• จากความฝันในวันวานที่อยากจะเป็นนักฟุตบอล จนเปลี่ยนแนวมาเป็นแร็ปเปอร์ วันนี้คิดว่าตัวเองมาถูกทางไหมคะ
เอาจริงๆ ตอนแรกพ่อกับแม่ผมเขาก็บอกนะครับว่าทำเพลงแบบนี้มันจะได้อะไร เพลงนี้มันจะดังได้เหรอในบ้านเรา สมัยก่อนคนอาจจะยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าแร็ปคืออะไร ฮิปฮอปคืออะไร ตอนนี้ทางบ้านก็เข้าใจและไม่ห่วงในสิ่งที่ผมทำแล้วครับ เพราะทุกวันนี้เราก็หาเงินได้จากการร้องแร็ปนี่แหละ และผมก็จะทำมันต่อไปเรื่อยๆ ครับ
• อนาคตจะมีผลงานอะไรออกมาให้ได้เห็นอีกบ้างคะ
ผลงานเพลงล่าสุดคือเพลง เบอร์มาดิ - P-HOT ft. Mindset & MVL (Double P) ครับ เร็วๆ นี้ผมก็จะมีโปรเจกต์กับ TJ ที่จะปล่อยเดือนกันยายนนี้ด้วย แล้วก็จะมีเพลงลูกแทร็ป “เพลงหมากัด” ตรงนี้ก็ได้นำไปเสนอขออนุญาตพี่เอกชัย ศรีวิชัย และบอกกับพี่เอกชัย ศรีวิชัย ไปแล้วว่าผมอยากทำเพลงนี้ เพราะเราเป็นคนใต้ด้วย พี่เอกชัยก็เป็นคนใต้ที่หลายคนชื่นชอบด้วย ซึ่งพี่เอกก็ได้นัดกับผมแล้วครับ แต่ว่าครั้งแรกที่นัดกัน แม่ผมป่วยหนักก็เลยต้องยกเลิกนัดไปก่อน ตอนนี้ก็กำลังหาวันนัดไปคุยกันอีกครั้ง แล้วก็อาจจะเริ่มทำเพลงนี้กันเลย เพลงนี้พี่เอกอาจจะร้องท่อนฮุก ผมจะร้องแร็ป แล้วก็จะมีอีก 1 คน มาฟีเจอริง (featuring) ก็อยากให้รอติดตามกันครับ
ติดต่องานได้ที่
เบอร์โทร 089-182-9447
Youtube P-Hot Official
Facebook : P-Hot
ข้อมูล : รายการพระอาทิตย์ live
ภาพ : รายการพระอาทิตย์ live, Facebook : P-Hot
เรียบเรียง : วรัญญา งามขำ