xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการเหมือง ร้อง รมว.เกษตรฯ ขอความเป็นธรรมถูกตัดสิทธิ์เข้าใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้ประกอบการเหมืองแร่ยื่น รมว.เกษตรฯ ขอความเป็นธรรม ถูกกฎกระทรวงฯ ปี 60 ตัดสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ระบุเป็นกฎกระทรวงสองมาตรฐานเลือกปฏิบัติ เอื้อบิ๊กพลังงานทุกราย ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แต่กีดกันกลุ่มเหมืองแร่ที่เป็นเอสเอ็มอีให้เฉพาะรายที่เคยได้ก่อน คสช.ออกคำสั่งกลางปี 2560

วันนี้ (14 ส.ค.) แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือน ก.ค.2561 ได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากผู้ประกอบการแร่หลายรายที่เสนอเรื่องผ่านสภาการเหมืองแร่ ได้แก่ 1. บริษัท เอ็นนิโก้ ซัพพลาย จำกัด (เเร่ยิปซัม) 2. น.ส.ศิริพร บินสมประสงค์ (แร่ยิปซัมและแอนไฮไดรต์) 3. บริษัท ไพศาลี พารวยสตีล จำกัด (เเร่เหล็ก) 4. บริษัท บ้านทองศิลาทรัพย์ จํากัด (หินบะซอลต์) 5. บริษัท ศิลามาทวี จำกัด (เเร่หิน) 6. บริษัท มาทวีศิลาทรัพย์ จำกัด (เเร่หิน) 7. บริษัท บ้านทองศิลาทรัพย์ จำกัด (เเร่หิน) และบริษัทอื่นๆ

สาระสำคัญในหนังสือ คือ ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาถูกตัดสิทธิ์ในการขอรับความยินยอมให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งนโยบายภาครัฐในอดีตได้ให้อนุญาตทำเหมืองได้ และผลจากการจัดสัมมนาเรื่อง “สัญญาณเตือน...เมกะโปรเจกต์ไทยและอุตสาหกรรมก่อสร้าง” เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยตัวแทนภาครัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชนได้เข้าร่วมให้ความเห็นและข้อเสนอแนะตรงกันว่า ทางรัฐบาลควรอนุญาตให้ผู้ประกอบการทำเหมืองแร่ในเขตพื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งจะมีแหล่งแร่อุตสาหกรรมเพียงพอสำหรับในปัจจุบันและอนาคตสำหรับโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคมขนส่งของภาครัฐ นอกจากนี้ ในเขตพื้นที่ ส.ป.ก. ยังมีแร่หลายประเภท เช่น ยิปซัม เฟลด์สปาร์ โดโลไมต์ ฯลฯ จำนวนมากสำหรับรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมแก้วกระจก อุตสาหกรรมซีเมนต์ และอุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น

ในหนังสือของ น.ส.ศิริพร บินสมประสงค์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองแร่ยิปซัมและแอนไฮไดรต์ ได้อ้างถึงกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2560 กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 31/2560 โดยสรุปว่า 1. กลุ่มพลังงาน ได้รับสิทธิ์ให้ยื่นคำขอรับการพิจารณายินยอมให้ใช้พื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินได้ทุกราย ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต 2. กลุ่มเหมืองแร่ ได้รับสิทธิ์ให้ยื่นคำขอได้เฉพาะรายที่เคยได้รับความยินยอม หรืออนุญาตไว้ก่อนคำสั่ง คสช.ที่ 31/2560 หรือก่อนวันที่ 23 มิ.ย.2560 เท่านั้น

ข้อกำหนดดังกล่าวมีผลให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่ที่รอการพิจารณาขอรับคำยินยอมหรืออนุญาตค้างไว้ และผู้ที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอต้องถูกตัดสิทธิ์ไปทันที ทั้งๆ ที่กรณี น.ส.ศิริพร บินสมประสงค์ ได้ยื่นขอรับคำยินยอมให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ส.ป.ก.ตั้งแต่ปี 2554 และรอการพิจารณาจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) มาเป็นเวลาเกือบ 7 ปี เมื่อมาถูกตัดสิทธิ์ดังกล่าวมีผลให้บริษัทได้รับความเสียหายจากการลงทุนในการสำรวจแร่และลงทุนเครื่องจักร กระทบต่อธุรกิจเหมืองที่ต้องยุติลงเพราะเหมืองเดิมปริมาณแร่สำรองจะหมดในปี 2561 กระทบต่อภาระผูกพันในการส่งแร่ต่อลูกค้าต่างประเทศ และผลกระทบปลายทางคือลูกจ้างเหมืองที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ต้องตกงานจำนวนมากหากต้องปิดเหมือง

ข้อเสนอของ น.ส.ศิริพร บินสมประสงค์ คือ ขอให้พิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฉบับดังกล่าว ให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่ได้รับสิทธิ์ในการขอรับคำยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินได้ทุกราย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยไม่เลือกปฏิบัติ

อนึ่ง คำสั่ง คสช.ที่ 31/2560 ลงวันที่ 23 มิ.ย.2560 เรื่อง การใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ ระบุว่า คปก.มีอำนาจพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.เพื่อดำเนินกิจการอื่นนอกเหนือจากเกษตรกรรม อีกทั้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งรวมถึงการพิจารณาอนุญาตให้สำรวจหรือใช้ทรัพยากรธรรมชาติ กิจการด้านพลังงานและอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์แก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ โดยร่างแก้ไข พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเมื่อ 31 พ.ค.2561 ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ






กำลังโหลดความคิดเห็น