จาก “หมอบัณฑิต” ถึง “แม่หมอนิ่ม” ย้อนรอยคดีดัง จุดจบของการยืมมือฆ่า

ความเหมือนที่แตกต่าง เปรียบเทียบจำคุกตลอดชีวิต “แม่หมอนิ่ม” กรณีจ้างวานฆ่า “เอ็กซ์ จักรกฤษณ์” นักแม่นปืนทีมชาติไทย กับ “บัณฑิต” จ้างวานฆ่าอดีตภรรยา จากจำคุกตลอดชีวิตเหลือ 40 ปี

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2556 นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ เอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 3 นัด ภายในรถยนต์ ปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน ชส 2223 กทม. ขณะขับรถยนต์ ผ่านหน้าวัดบางเพ็งใต้ ถนนสุขาภิบาล 3 ย่านมีนบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค. ศาลจังหวัดมีนบุรีได้มีคำพิพากษาประหารชีวิตสถานเดียว หมอนิ่ม-พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ และ นายสันติ ทองเสม หรือ ทนายอี๊ด ส่วนคนขี่จักรยานยนต์และมือปืนให้จำคุกตลอดชีวิต รวมทั้ง น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม

ล่าสุด วันที่ 7 ส.ค. ศาลอุทธรณ์ ได้หารือตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 มารดาของ พญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 เป็นผู้จ้างวานให้นายสันติ หรือ ทนายอี๊ด ติดต่อให้ นายจีรศักดิ์ กลิ่นคล้าย จำเลยที่ 1 มือปืน และ นายธวัชชัย เพชรโชติ จำเลย 4 ขี่จักรยานยนต์มาฆ่าผู้ตายจริง เนื่องจาก น.ส.สุรางค์ ยังโกรธแค้นที่ผู้ตาย ทำร้ายร่างกายหมอนิ่ม บุตรสาวคนเดียว และทำร้ายหลานสาวได้รับบาดเจ็บหลายครั้งหลายหน และเชื่อว่า ผู้ตายไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมได้ ก่อนจะตัดสินให้ น.ส.สุรางค์ แม่ของหมอนิ่ม จำคุกไว้ตลอดชีวิต หลังให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาและตัดสิน

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2536 ได้เกิดคดีฆาตกรรมจ้างวานฆ่าที่สะเทือนขวัญคนไทยเป็นอย่างมาก กรณีของ นพ.บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์" อดีตแพทย์ รพ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ้างวาน 4 ฆาตกร ฆ่าภรรยาซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาล รพ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังถูกพบเป็นศพบริเวณทางเข้าหมู่บ้านหนองปลาไหล หมู่ 12 ต.ไร่มะขาม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เนื่องจาก นพ.บัณฑิต ต้องการแต่งงานใหม่ แต่กลัวฝ่ายอดีตภรรยามาป่วนในงานแต่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถสืบหาตัวคนร้ายในเวลา 3 สัปดาห์ ก็สามารถตามทั้ง 4 ฆาตกรได้ครบ และให้การรับสารภาพว่า นพ.บัณฑิต เป็นผู้จ้างวานฆ่าภรรยาของตัวเอง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านลาด จะสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องดำเนินคดี นพ.บัณฑิต ในข้อหาจ้างวานฆ่า และถูกตัดสินให้ถูกประหารชีวิต แต่ นพ.บัณฑิต ยื่นอุทธรณ์แต่ไม่เป็นผล จึงยื่นฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต่อมา นพ.บัณฑิต ได้รับการอภัยโทษประหารชีวิตลดเหลือจำคุกเพียง 40 ปี และออกจากคุกมาแล้วเมื่อปี 2552