xs
xsm
sm
md
lg

จากรอยสักสู่ผืนผ้าใบ “จุ๊กกรู หว่อง” ศิลปินรอยสักของไทยดังไกลระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จุ๊กกรู หว่อง” คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักทายาทศิลปินรอยสักชื่อดังผู้ซึ่งถือว่าเป็นผู้บุกเบิกศิลปะรอยสักสมัยใหม่และผู้ที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะการสักคนแรกในเมืองไทยอย่าง จิมมี่ หว่อง ผู้พ่อ เพราะด้วยฝีไม้ลายมือที่การันตรีจากผู้ที่มาให้เขาวาดลวดลายบนเรือนร่างนอกจากดาราระดับแถวหน้าเมืองไทย ไฮโซนักธุรกิจเซเลบริตี้ชื่อดัง นักแสดงต่างชาติระดับท็อปของโลกอย่างฮอลลีวูด บียอนเซ่, เคต มอส ยังลัดฟ้าข้ามน้ำมาเจิมถึงเมืองไทยบ้านเรา

ท่ามกลางความสำเร็จบนศิลปะเรือนร่าง และล่าสุดเรายังได้เห็นวิวัฒนาการฝีไม้ลายมือข้ามแขนงศาสตร์งานศิลป์ด้วยการวาดภาพบุคคลที่ทรงเสน่ห์และเต็มไปด้วยความสุขจนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างล้นหลาม...

ศิลปะบนเรือนร่างกลายมาเป็นบนผ้าใบได้อย่างไร
 
คงต้องเล่าย้อนไปถึงตอนก่อนที่เริ่มเข้าสู่การเป็นช่างสัก อย่างที่ทุกคนทราบคือคุณพ่อผม จิมมี่ หว่อง เป็นศิลปินอยู่แล้ว ท่านทำงานเพ้นท์เสื้อ สกรีนเสื้อขายชาวต่างชาติ ทีนี้บังเอิญ ในสมัยสงครามเวียดนาม มีชาวต่างชาติ ทหารอเมริกัน มาอยู่แถวจังหวัดนครพนม ก็มีอาจารย์คนหนึ่งเขาเป็นฝรั่งได้นำเครื่องไม้เครื่องมือในการสัก มาสักทหาร คุณพ่อชอบงานศิลปะก็เลยไปขอเรียนรู้วิชานี้มาแล้วก็มาทำเป็นอาชีพ นับระยะเวลาคนไทยคนแรกที่ริเริ่มศิลปะรอยสักก็ประมาณ 45 ปีที่แล้ว

คือรอยสักที่คุณพ่อทำคือเป็นนวัตกรรมใหม่เลยนะ เพราะใช้เครื่องแล้วก็เป็นรูปการ์ตูนมิกกี้เมาส์ เต่า รูปเกาะ ง่ายๆ ไม่ได้เป็นยันต์แบบไทยๆ ที่เราคุ้นชิน เนื่องจากรอยสักยันต์ไทยจะเป็นเรื่องของเครื่องรางของขลัง ค้าขาย เสน่ห์ คงกระพัน

ค่านิยมของรอยสักในตอนนั้นถือว่ารุ่งโรจน์ได้รับการยอมรับอย่างตอนนี้หรือไม่

วัฒนธรรมรอยสักบ้านเราอาจจะมีความเห็นที่ไม่ค่อยตรงไปตรงมากับรอยสัก เราพูดถึงรอยสักในเรื่องของตีรันฟันแทง รุนแรง มันก็เลยกลายจะออกมาเป็นดาร์กๆ เหมือนกัน คนที่ต้องการมีรอยสักเพื่อคุ้มครองตัวเองส่วนมากก็จะเป็นนักเลง แต่ถ้าพูดกันในมุมเฉพาะของด้านศิลปะถือว่ามีวิวัฒนาการเรื่อยมา คือบางช่วงเวลาจะเป็นรูปการ์ตูน บางช่วงเวลาก็จะเป็นรูปธรรมชาติ ตัวอักษร ลายกราฟฟิกต่างๆ และตอนนี้ก็กลับมายันต์ แต่ครานี้สักยันต์ลายมาเป็นที่นิยม แต่เราไม่ได้ใช้เข็มกานร่มทำ เราใช้เครื่องสมัยใหม่เขียนตัวยันต์

การเขียนด้วยเครื่องสักสมัยใหม่มันเรียบร้อยกว่า ละเอียดกว่า มันก็ย้อนไปย้อนมา สมัยนี้ที่นิยมกันคือเขามีพจนานุกรมของรอยสักยันต์ มันแปลว่าอันนั้นนี้ ยกตัวอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ ดารานางเอกนักแสดงฮอลลีวูดที่มาสักยันต์ 5 แถวของอาจารย์หนู กันภัย ก็ทำให้รอยสักยันต์กลับมารุ่งเรื่องอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าเธอสักแล้วเธอก็ได้อยู่กับคู่ชีวิตของเธอนาน ก็อย่างนี้ เป็นวิวัฒนาการ กลับมานิยมอีกครั้งหนึ่ง

แล้วเราเข้ามาสู่เส้นทางวิถีสักรอยได้อย่างไร

เราก็เป็นลูกมือท่านก่อน คุณพ่อเห็นว่าเราวาดรูปได้ตั้งแต่เด็กๆ คือเราวาดรูปได้มีพรสวรรค์ทั้งๆ ที่ไม่ได้ร่ำเรียนอะไร เราก็วาดรูปช่วยท่านอยู่แล้ว เพราะบางทีแขกมา 3-4 คน เราก็ต้องช่วยออกแบบช่วยคุณพ่อ ช่วยแปะกระดาษลอกลาย กระทั่งช่วยซื้อน้ำซื้ออะไรอย่างนี้ (หัวเราะ)

คือตอนที่เราได้ลองสัก ก็ช่วงที่คุณพ่อทำแล้วอาจจะเหลือเล็กๆ น้อยๆ ช่องไฟไว้แดงๆ ให้ลงสีหน่อยหนึ่ง ท่านก็แนะนำเรากับลูกค้าว่าเราลูกท่าน และแนะนำว่ากำลังฝึกทำอยู่เล็กๆ น้อยๆ ชาวต่างชาติเขาก็เมตตาให้โอกาสเราทำ ซึ่งลูกๆ ทั้งหมดในครอบครัว เหมือนกันหมด ทุกคนก็เลยทำงานรอยสักได้หมด จนแต่ละคนก็แตกลายกันไปมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทุกวันนี้จูก็เปิดร้านอยู่ที่สยาม จอยเปิดร้านอยู่ที่สุขุมวิท ผมมีร้านเปิดอยู่ที่ประตูน้ำ

ใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่อย่างนั้นนานหรือไม่จนถึงจะมีฝีมือช่ำชอง

ทำอยู่แบบค่อยเป็นค่อยไปกว่าจะเจนสนาม (ยิ้ม) เริ่มจากวาดรูปช่วยค่อยมาลองสักเล็กๆ น้อยๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ทำงานด้วยตัวเองซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีที่คุณพ่อเริ่มไว้นานแล้ว เป็นช่างสักคนแรกในประเทศไทยที่ทำสักโดยใช้เครื่องไฟฟ้า แล้วในสมัยก่อนนวัตกรรมการสื่อสารไม่ใช้แบบนี้ เป็นการบอกปากต่อปาก เราก็เลยได้มีโอกาสได้ทำงานกับดารานางแบบชั้นนำ คนก็เลยเห็นเรา รู้จักเราเยอะในเวลาที่ไม่นานนัก

จากเรื่องรอยสักที่นับว่าประสบความสำเร็จระดับประเทศ เราย้ายศิลปะจากเนื้อหนังมาสู่ผืนผ้าใบได้อย่างไร

เราอยากเห็นว่าเราทำอะไรได้บ้าง นอกจากรอยสัก เพราะเราทำรอยสัก เราประสบความสำเร็จที่สุดแล้วที่เราทำผ่านมา หลังจากนั้นเราก็เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หาอะไรใหม่ๆ ก็เลยเริ่มต้นมาจากต้นทุนเดิมวาดรูปได้มีพรสวรรค์ แล้วก็มีโอกาสได้มาฝึกเล่าเรียนกับครูโต ม.ล.จิราธร จิรประวัติ คือท่านเป็นคนเก่งเรื่องศิลปะมาก แล้วท่านก็เมตตาเรามาก อบรมสั่งส่อนให้เรามีความรู้แล้วก็เรามีมุมมองใหม่ๆ ในการทำศิลปะ ก็เลยมีโอกาสได้วาดรูปสวยๆ มาให้ดู นี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องงานศิลปะวาดภาพ

แนวการเขียดภาพที่เราทำในตอนนี้เรียกว่าเป็นภาพอิลลัสเตรชั่น เป็นการวาดภาพประกอบ จากต้นฉบับแล้วจินตนาการให้สวยงามสอดคล้องกับต้นฉบับและเป็นลายเส้นของเรา เพราะการวาดภาพเหล่านี้ หนึ่ง วาดให้สวย สอง วาดให้คนผู้ชมรู้สึกละมุนตา ดูแล้วมีความสุข หลายอย่างมันอยู่ในรูปภาพ ถ้าผู้ชมๆ แล้วรู้สึกมีความสุข แสดงว่ามันก็ประสบความสำเร็จแล้ว อันนี้เราวาดรูปตามจินตนาการของเรา คือตามความถนัดของศิลปิน เราก็จะเห็นว่าการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะมันเป็นส่วนบุคคลจริงๆ บางที เหมือนอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เวลาเราเห็นภาพวาดของอาจารย์ เราก็จะรู้ว่าท่านเขียนได้ในทันที

ความยากง่ายของศิลปะทั้งสองแขนงเหล่านี้แตกต่างกันหรือไม่

ไม่เหมือนกัน เครื่องสักมันเหมือนปากกาก็จริงแต่มันหนักเป็นกิโลกรัมเหมือนกัน เราต้องใช้ปลายนิ้วจับความหนักก็ไม่เหมือนกันแล้ว ส่วนเทคนิคก็ต่างกัน การสักมันต้องเจอคนอีกคนหนึ่ง ซึ่งคนอีกคนหนึ่งก็ต้องมีความอดทนเข้มแข็ง เราก็ต้องทำตามโจทย์ที่เขาออเดอร์ด้วย แต่ไอ้นี้วาดเราทำตามใจเรา เราทำเสร็จแล้วผู้ชมมีความสุข แต่สักเราทำต้องให้เขามีความสุขเลย ภายใน 3-4 ชั่วโมงต้องเสร็จและก็ต้องดูแลรักษาอาการเขาด้วยว่าไหวไม่ไหว

ฉะนั้นเรื่องความยากหรือง่ายมันก็ต้องฝึกเป็นสเต็ปๆ อย่างวาดรูป หนึ่ง เราต้องรักวาดรูปก่อน สอง เราต้องมีใจที่มุ่งมั่น เพราะว่าการเดินทางมันไม่ใช่สูตรสำเร็จ มันก็ต้องค่อยๆ ขยับๆ คือมันไม่มีหรอกที่อยู่ๆ มาวาดปุ๊บปั๊บ ดัง มันก็ค่อยเป็นค่อยไป ถ้าเกิดว่าเราไปติดตามในอินสตราแกรม จะเห็นถึงวิวัฒนาการการวาดรูป 4-5 ปี มันค่อยเป็นค่อยไป มันถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ มันอาจจะเริ่มจากลายเส้น ดินสอก่อน ไปปากกา ไปลงสี ไปสีน้ำ และก็ไปโครงสร้างอื่นๆ คือการวาดรูปก็เป็นการเรียนรู้ อย่างไหนเหมาะอย่างไหนสวยไม่สวย มันต้องฝึกขยันฝึกเข้าไว้

ซึ่งก็ต้องขอพระคุณครูโต ท่านเป็นครู เป็นผู้ริเริ่ม และยังเป็นผู้ตรวจงานรูปภาพเราทุกรูป ท่านก็จะแนะนำว่าอันนี้ดี อันนี้ไม่ดี อันนี้ได้ อันนี้ไม่ได้ ท่านก็ให้คำแนะนำ เราก็ฝึกมา 4-5 ปี วาดภาพดาราให้พี่ เบิร์ด ธงชัย พี่เขาชอบ (ยิ้ม) คนระดับพี่เขาก็ถือว่ามันก็ประสบความสำเร็จแล้วนะ

ด้วยความที่ประสบความสำเร็จทั้งคู่สองอย่างของศิลปะ ณ ตอนนี้เราทุ่มเทหรือให้น้ำหนักกับงานในส่วนไหนมากกว่ากัน

รอยสักก็ไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่เราก็ไม่หยุดวิวัฒนาการ เราทำอะไรได้ เราก็ฝึก เพื่อว่าเราจะได้เห็นตัวเราเองว่าเราทำอะไรได้บ้าง เราอยากรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง และจะไปถึงจุดไหนอีก เราก็อยากเห็น ก็ทำให้เรามาถึงวันนี้ คือถ้าถามว่าการวาดรูปอิลลัสเตรชั่นกับรอยสัก อิลลัสเตรชั่นเหมาะกับเราในตอนนี้ เพราะหนึ่ง เราโตมากแล้ว สอง มันเป็นลายมือส่วนตัวเราจริงๆ อย่างรอยสัก ลาย 5 แถว ร้านสักอื่นๆ อาจจะทำได้คล้ายกัน แต่ถ้าเกิดเป็นภาพวาด มันเป็นส่วนตัวมากๆ ซึ่งเอามาเทียบกัน มันคนละมิติ มันคู่ขนานกันเหมือนกัน รอยสักอีกแนวหนึ่ง ภาพวาดก็อีกแนวหนึ่ง เป็นลายเส้นที่น่าสนใจ

คำตอบน่าจะอยู่ที่ผู้ชม ว่าผู้ชมจะนิยมเรื่องอะไร อย่างเราก็เหมือนเวทีการแสดง เรามีสองเวที มันอยู่ที่เขาจะอยากชมเวทีไหนและอยากจะซื้อตั๋วชมเวทีไหน ถ้าเกิดสนับสนุนฝั่งไหนฝั่งนั้นก็จะมีการแสดงเกิดขึ้น เรื่องธรรมดามันก็มีการแสดงเกิดขึ้น แต่ตอนนี้การวาดรูปเราประสบความสำเร็จมาก ฉะนั้น เราก็มีความสุขกับการวาดรูปเหมือนกัน เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข

ถ้ามีน้องๆ เด็กรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นศิลปินอยากจะวาดได้แบบนี้ หรือเป็นช่างสักแบบเราควรทำอย่างไร

ถามว่าตัวเองถนัดอะไร และทำมัน คือทุกอย่างมันไม่มีสูตรสำเร็จ มาถึงปุ๊บยิ่งใหญ่เลย ทุกอย่างมันคือโชคชะตา บางทีตั้งใจแต่ไม่มีโอกาส หรือบางทีมีโอกาสแต่ทำได้ไม่ดีก็อยู่ไม่ได้ ฉะนั้นมันต้องเพิ่งพากัน 30 ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟัน ประมาณอย่างนั้น ทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตา ไม่อย่างนั้นทุกที่มี ณเดชน์ หมด ก็มีอยู่คนเดียว คือโชคชะตาให้เราวาดรูปได้มาแล้ว และเราสามารถเล่นจังหวะประมาณไหนจนเราอยู่ในเส้นที่ฉายแสงมาก็ถือว่าเราก็เก่งนะ ทำได้ดี คุณพ่อก็ชื่นชมที่ลูกๆ ดูแลตัวเองได้และอาชีพที่ท่านเริ่มต้นไว้ก็ยังดำรงอยู่ ทำให้ท่านชื่นใจว่าอาชีพที่ท่านทำมาก็ไม่สูญหายและก็ได้รับความนิยมสูงสุด รอยสักเราได้รับความนิยมสูงสุดเพราะว่าเขาเรียกว่าดาราทั่วฟ้าเมืองไทย เราทำงานร่วมกันมา 45 ปีแล้ว และส่วนตัวเราเองคือเราก็มีวิวัฒนาการ เราก็แตกแขนงไปในส่งนของการวาดรูปได้อีก มันก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์เหมือนกัน

งานวาดรูปงานศิลปะให้อะไรกับเราบ้าง

หนึ่งทำให้รามีสมาธิ แน่นอนว่าเวลาเราตั้งใจจดจ่อกับอะไรนานๆ เราจะรู้สึกว่าตัวเองนิ่ง สงบ แล้วอิ่มเอมอยู่กับสิ่งที่เราทำ คือถ้าเกิดเราเป็นคนวอกแวก งานแบบนี้เราก็ทำไม่ได้ ศิลปะทำให้คนมีสมาธิ ก็อยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเกิดว่าลูกๆ รักงานศิลปะอย่างเพิ่งดูถูกว่างานศิลปะทำให้ลำบาก แต่ศิลปะเป็นประโยชน์ในทุกๆ ด้าน หนึ่ง งานศิลปะวาดรูปวาดอะไรทำให้คนมีสมาธิ พอเรามีสมาธิเราจะเรียนหนังสือรู้เรื่อง โฟกัสได้ สิ่งที่ชอบก็ทำได้

ถ้าเราเห็นลูกวาดรูปได้ เราควรจะดีใจนะ ชื่นชมว่าเด็กสมาธิดี อนาคตจะได้หรือไม่ได้เรื่องทางศิลปะ มันเรื่องของเขา แต่ศิลปะคู่ขนานกับสมาธิ เรื่องของจินตนาการ... จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ถ้าเกิดเราไม่มีจินตนาการ เราจะไปดาวอังคารดวงจันทร์ได้อย่างไร เรามีจินตนาการ เราสังเกต จะวาดจะอะไรก็จำรายละเอียด บวกลบคูณหารเองด้วย ประเมินให้เหมาะสม นี่คือสิ่งที่ศิลปะให้ นอกจากจรรโลงใจ

ผลงานถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ มีอะไรที่อยากจะทำและยังไม่ได้ทำอีกบ้างหรือไม่

เราคิดว่าเราจะนำรูปที่เราวาดไปเพ้นท์ลงในเครื่องจัมโบ้เจ็ทเครื่องบิน เราคิดใหญ่ คิดเล็กไม่ก้าวหน้า เหมือนแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต อันนี้คือสิ่งที่จะทำ เราคิดว่าศิลปะมันอยู่ทุกที่ อีกหน่อยมันก็ต้องอยู่บนฟ้า (ยิ้ม) ซึ่งใครที่ชื่นชอบหรือสนใจรักในงานศิลปะเหมือนกัน สามารถติดตามผลงานได้ในอินสนตราแกรม jukkoo wong ถ้าสนใจชอบภาพวาดงานศิลปะก็เข้ามาดูแล้วเราจะมีความสุขร่วมกันหรือติดต่อกับฝ่ายเลขานุการเรา 092-5691914 ติ๊ก ทำเพื่อผู้ป่วยยากไร้ เครื่องมือแพทย์ และอะไรอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ ทำบุญด้านนี้สุขภาพเราก็จะดีด้วย ได้ภาพสวยๆ ไปเก็บสะสมเป็นสิริมงคล เป็นกุศลของเราชาวสยาม


ข้อมูล : รายการพระอาทิตย์ Live
ภาพ : IG jukkoowong และ Facebook : Jukkoo Tattoo
เรียบเรียงโดย : รัชพล ธนศุทธิสกุล



กำลังโหลดความคิดเห็น