จากอดีตนักแสดงสังกัดช่อง 7 และพริตตี้มอเตอร์โชว์ตัวท็อป ปัจจุบันเธอจับพลัดจับผลูก้าวมาเป็นเจ้าของธุรกิจหลากหลายอย่าง
แพร-ภัคจิรา เหลืองธีรนาท

หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เธอเคยเป็นนางเอกละครจักรวงศ์ เรื่อง “ตุ๊กตาทอง” ของทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จนผันตัวไปเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ให้แก่รถยนต์ชื่อดังหลากหลายค่าย แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจแขวนส้นสูงหันหลังให้วงการ และก้าวสู่การเป็นผู้บริหาร
ปัจจุบัน แพร-ภัคจิรา เหลืองธีรนาท กลายมาเป็นหุ้นส่วนของร้านอาหารไทยและร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน อีกทั้งยังเป็นเจ้าของธุรกิจ “แม่หญิงสแนค” ปูอัดทอดกรอบ ขนมพันธุ์ไทย ของคนวัยมันส์ 3 รส 3 สไตล์ ที่วันนี้โกอินเตอร์ไปต่างประเทศแล้ว

• ทราบมาว่าก่อนหน้านี้เคยอยู่ในวงการบันเทิงมาก่อน ช่วยเล่าถึงชีวิตตอนนั้นให้ฟังหน่อยค่ะ
ตอนเด็กๆ แพรจะชอบเรื่องสวยๆ งามๆ อยู่แล้ว ที่บ้านจะคอยสนับสนุน พาเราไปเดินสายแคสติ้งโฆษณา จึงทำให้แพรเดินทางสายนี้มาโดยตลอด
ครั้งหนึ่งแพรได้ไปเป็นนักแสดงสังกัดของทางช่อง 7 เล่นเป็นนางเอกละครจักรวงศ์ เรื่องตุ๊กตาทอง เป็นละครที่เขาเขียนบทขึ้นมาใหม่ เพราะปกติท่านผู้ชมจะเห็นว่าละครจักรๆ วงศ์ๆ ก่อนหน้านี้เกือบทั้งหมดจะมาจากนิทานพื้นบ้าน เช่น ปลาบู่ทอง สังข์ทอง แก้วหน้าม้า พิกุลทอง เกราะเพชรเจ็ดสี หรืออะไรก็ตามแต่ ทุกคนจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเดียวเลยที่เขียนบทขึ้นมาใหม่ค่ะ
เนื้อเรื่องของตุ๊กตาทองจะเกี่ยวกับตุ๊กตาวิเศษที่เขาจะแย่งชิงกัน จะมีนางเอกหลัก 3 คน ทั้งมนุษย์ ยักษ์ และกินรี ซึ่งตัวแพรได้รับบทแสดงเป็นกินรีที่อยู่ในป่าหิมพานต์ค่ะ
หลังจากนั้นทางช่องจ๊ะทิงจาชาแนลเขามีรายการเพลงด้วย แพรก็เลยได้มาเป็นพิธีกรรายการ และก็ทำมาเรื่อยๆ แต่เอาจริงๆ คนที่อยู่ในวงการบันเทิงถ้าไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงก็จะไม่ค่อยรุ่งเท่าไหร่ ตรงนี้เลยทำให้แพรผันตัวเองมาเป็นพิธีกร และเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ค่ะ

• จากนางเอกละครพื้นบ้านผันตัวมาเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ได้อย่างไรคะ
จริงๆ ตอนแรกแพรยังทำทั้ง 3 งานควบคู่กันอยู่นะคะ ทั้งนักแสดง ทั้งพิธีกรและพริตตี้ ที่แพรเลือกอาชีพพริตตี้เพราะมองว่าอาชีพนี้ยังทำให้เราได้อยู่ในสายบันเทิงอยู่
แพรเริ่มงานพริตตี้ด้วยการทำงานตั้งแต่ในระดับราคา 1,500 บาท เพราะการที่เราเข้าไปสู่ที่ใหม่ๆ เราก็ถือว่ายังเป็นน้องใหม่อยู่ซึ่งมันไม่เกี่ยวเลยว่าเราจะมีดีกรีเป็นถึงนางเอกหรืออะไรมา ทุกอย่างมันจะต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด แพรก็มองว่ามันเยอะกว่าบางคนที่เขาเข้ามาแล้วเริ่มได้ที่ 500 บาท 600 บาท 800 บาทอยู่นะ จนวันหนึ่งเราได้เข้าไปเชียร์ฟุตบอลเพื่อเป็นสีสันให้แก่สโมสรฟุตบอลศรีราชา เอฟซี เวลาที่เขามีแข่ง จุดนี้เลยทำให้เราเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น
แต่กว่าจะได้มาเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ หลายคนจะมองว่าอาชีพพริตตี้เป็นอาชีพง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นอาชีพที่ยากมากอยู่นะคะ เพราะกว่าที่เราจะได้เข้าไปสู่มอเตอร์โชว์ได้ เราจะต้องผ่านการแคสติ้งด้วยเหมือนกัน
การแคสติ้งของพริตตี้มอเตอร์โชว์จะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น ค่าย BMW อาจจะเข้มงวดและแคสติ้งหลายรอบหน่อย ของแพรที่เคยไปรอบแรกจะได้พูดแนะนำตัว พอเสร็จเขาก็จะตัดออกไปว่าเหลือกี่คน ส่วนรอบลึกๆ ก็จะมีเดิน มีพรีเซ็นต์สินค้าว่าเราจะขายของชิ้นนั้นๆ ยังไง
หลังจากแคสติ้งผ่านแล้ว ก่อนจะถึงวันงานเราต้องมีการเทรนทั้งบุคลิกภาพที่เขาจะส่งให้ไปเรียน ทั้งการพูด การฟัง การยืน การเดิน เราต้องเรียนรู้ทั้งหมด ซึ่งแพรได้พูดคำว่า BMW ไปครึ่งวันเลย (หัวเราะ) เพราะเราต้องพูดให้สำเนียงชัดเจน ดูแข็งแรง อีกทั้งโปรดักต์เราก็ต้องเรียนรู้ด้วย ตอนนั้นแพรได้เทรนที่ศูนย์ของ BMW เขาก็จะมีทางฝ่ายเทคนิค ฝ่ายช่างมาให้สอนเรื่องเครื่องยนต์ ส่วนประกอบต่างๆ ไปจนถึงประวัติของรถว่าเกิดมาอย่างไร
พอเทรนเสร็จก็จะมีข้อสอบให้ทำว่าสิ่งที่เราได้เรียนไปว่าเราได้ความรู้ขนาดไหน จริงๆ ตอนทำงานอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดลึกขนาดนั้นนะคะ แต่เราต้องเทรนเพราะเราต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับรถ ซึ่งถ้าเกิดมีลูกค้ามาถามแล้วเราตอบไม่ได้ มันจะดูไม่ดี
แพรเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์มานานอยู่เหมือนกันนะคะ น่าจะเกือบๆ 10 ปีได้ แพรได้ทำงานให้ทางค่าย Suzuki มาก่อน ตามด้วยค่าย Mazda, BMW, MINI Cooper และ Ssangyong ค่ะ แต่ด้วยความที่แพรทำงานมาตั้งแต่อายุ 19 ปี เราต้องใส่ส้นสูงมาตลอด หลังจากนั้นแพรเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ เริ่มมีอาการปวดหลัง ยืนนานไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเราใช้ร่างกายหนักมาก ตรงนี้เลยทำให้แพรคิดว่ามันได้เวลาที่เราต้องแขวนส้นสูงแล้ว

• แขวนส้นสูงหันหลังให้กับงานพริตตี้? หลังจากนั้นทำอะไรต่อไปคะ
ตั้งแต่นั้นมาแพรเลยมาคิดว่าเราจะทำอะไรต่อไปดี และด้วยความที่แพรชอบทำอาหาร แพรก็เลยได้รับโอกาสเปิดร้านอาหารไทย ชื่อร้านว่า “เพื่อนรัก” อยู่ที่ซอยพญานาค ติดกับโรงแรมเอเชีย แถวๆ บีทีเอสราชเทวีค่ะ เป็นร้านที่แพรกับเพื่อนที่สนิทกันทำด้วยกัน แต่จริงๆ กิจการที่แพรทำเขาเปิดมาก่อนแล้ว เราก็ทำหน้าที่ไปรับช่วงต่อเนื่องจากเขาอยากให้คนรุ่นใหม่เข้าไปพัฒนา ตรงนี้แพรจึงได้มีโอกาสเข้าไปบริหาร ร้านเปิดมาได้ประมาณ 6 ปีแล้วค่ะ
• แบบนี้ชีวิตเปลี่ยนไปหรือเปล่าคะ
ตั้งแต่หันหลังให้กับอาชีพพริตตี้ จนมาเป็นผู้บริหารร้านอาหาร ชีวิตเปลี่ยนเลยนะคะ หนักกว่าเดิมด้วยค่ะ (หัวเราะ) เพราะด้วยความที่เป็นธุรกิจของตัวเอง เราจึงอยากทำให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ตอนแรกแพรคิดหลายอย่างมากว่าเราจะทำอะไรดี เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันกับเราเขาก็ประสบความสำเร็จกันไปเยอะแล้ว มันเลยทำให้เราอยากจะมีแบรนด์ของตัวเอง
ตอนนั้นยอมรับเลยนะคะว่าแพรคิดเยอะมากเลย ทั้งคิดว่าจะทำครีมดีไหม หรือจะทำสครับขัดผิวดี คือทุกอย่างในหัวมันเยอะไปหมด
สุดท้ายแพรเลยคิดได้ว่า ทำขนมก็แล้วกัน เพราะเราชอบทำอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเปิดร้านอาหารอยู่แล้วด้วย จนกระทั่งเกิดไอเดียมาเป็นผลิตภัณฑ์ “แม่หญิงสแนค” ปูอัดทอดกรอบ ขึ้นมาค่ะ

• ทำไมถึงอยากทำผลิตภัณฑ์ปูอัดทอดกรอบออกมาวางขายคะ
ก่อนที่จะทำ แพรได้สำรวจตลาดแล้วค่ะว่ายังไม่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะมากเท่าไหร่ ถึงจะมีก็น้อยมาก และอีกอย่างพี่ชายแพรเขามีโรงงานปูอัดอยู่แล้วด้วย แพรเลยมองว่าเราจะทำยังไงดีถึงจะแปรรูปปูอัดให้ออกมาในรูปแบบใหม่ๆ ได้ ตรงนี้พอเราคิดได้จึงเกิดมาเป็นผลิตภัณฑ์ปูอัดทอดกรอบ “แม่หญิงสแนค” ค่ะ
• มีอุปสรรคปัญหาในการทำธุรกิจนี้บ้างหรือเปล่า
กว่าที่เราจะผลิตสินค้าขึ้นมาเป็นแบรนด์หนึ่งได้ก็ไม่ง่ายนะคะ เพราะเราต้องออกแบบทั้งแพกเกจจิ้ง และการทำผลิตภัณฑ์อาหาร เราต้องมี อย.ครบ มีข้อมูลโภชนาการครบ และด้วยความที่เป็นของรับประทาน ของทอด อุณหภูมิ น้ำมัน การคิวซีตัวแผ่นปูอัด อะไรทุกๆ อย่างจะต้องเป๊ะด้วย
ดังนั้น ไม่ใช่ว่าจะทำรอบเดียวแล้วผ่านเลยนะคะ อย่างตอนแรกที่แพรผลิตออกมา 6,000 ซอง เสียไปถึง 5,000 ซองเลยนะคะ เพราะการทอดของเราเป็นการทอดโดยใช้สายพาน ต้องทำในปริมาณเยอะๆ พอเสียก็เลยจะเสียเยอะ เราเลยต้องยอมทิ้ง ดีกว่าของออกมาไม่มีคุณภาพค่ะ

• แล้วคิดว่าจุดเด่นของแบรนด์ ‘แม่หญิงสแนค’ คืออะไรคะ
จุดเด่นปูอัดทอดกรอบของแพรคือจะแผ่นใหญ่ ไม่มีผงชูรส และแพรจะใช้เนื้อปลา 80 เปอร์เซ็นต์ค่ะ
คือจริงๆ ต้องอธิบายก่อนนะคะ เพราะหลายคนคิดว่าปูอัดเป็นปู แต่จริงๆ แล้วทำมาจากเนื้อปลา ซึ่งปูอัดจะมีหลายเกรด มีส่วนผสมแป้งกี่เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่เกรดไป เพราะเนื้อปลาล้วนๆ จะไม่มี ไม่สามารถทำได้ จึงต้องมีส่วนผสมของแป้งด้วยค่ะ
• ตอนนื้เห็นว่ามีส่งออกไปต่างประเทศแล้ว
ใช่ค่ะ ตอนนี้มีส่งออกไปขายที่ฮ่องกง และประเทศสิงคโปร์ อย่างที่ประเทสิงคโปร์คือเรามีญาติอยู่ที่นั่น พอเขาได้เห็นผลิตภัณฑ์ของเรา เขาก็เลยสนใจ แล้วต้องบอกว่าที่นั่นเวลาที่เขาไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ เขาจะไม่กินป็อปคอร์นเหมือนกันกับบ้านเรา แต่เขาจะชอบทานสแน็ก ก็เลยได้เอาปูอัดทอดกรอบของเราไปขายที่โรงหนังที่สิงคโปร์ค่ะ
ส่วนที่ฮ่องกง ต้องบอกก่อนว่าแพรเป็นสายไหว้พระทุกที่อยู่แล้ว ทั้งไทยและต่างประเทศ พอผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่ๆ เราก็เลยถือโอกาสเอาผลิตภัณฑ์ไปให้ซินแสที่นั่นทำพิธีให้ จนเราได้มีโอกาสเจอไกด์คนหนึ่งที่หลังๆ ได้มาสนิทกัน เขาก็เลยขอเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของเราค่ะ

• แล้วผลตอบรับในประเทศไทยล่ะคะ ดีไหม
ดีนะคะ ก็มีหลายคนซื้อไปแล้วกลับมาซื้ออีก และด้วยความที่แพรมีเพื่อนเยอะอยู่แล้วด้วย เพื่อนๆ ก็จะช่วยโปรโมตในเรื่องของการตลาดออนไลน์ให้ด้วยค่ะ
ส่วนตอนนี้ที่ประเทศไทยก็มีขายที่สวนลุมไนท์บาร์ซา, ร้าน Clover Bangkok อาคารมณียาเซ็นเตอร์ ติด Skywalk BTS ชิดลม, ร้านอาหารเพื่อนรัก BTS ราชเทวี และที่เพลินวาน หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ค่ะ
นอกจากนี้ เราก็มีตัวแทนจำหน่ายที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดจันทบุรีด้วยค่ะแต่ถ้าหากใครอยากรับประทานแต่ไม่สะดวกซื้อทางหน้าร้าน สามารถสั่งได้ที่ Line @MaeYingSnack จัดส่งให้ทั่วประเทศเลยค่ะ
• วางเป้าหมายหรือมีแผนอะไรเกี่ยวกับการทำธุรกิจอีกบ้าง
ตอนนี้ผลิตภัณฑ์แม่หญิงสแนคก็มีออกมา 3 รสชาติ มีรสต้มยำกุ้ง รสวาซาบิ และรสลาบค่ะเร็วๆ นี้ก็จะมีรสชาติออกมาใหม่ คือ รสเขียวหวาน กะเพรา และรสคลาสสิกค่ะ
นอกจากนี้แพรยังมีร้านอาหารอีกหนึ่งร้านที่แพรเป็นหุ้นส่วนเล็กๆ อยู่ ชื่อว่า Marian Urban Gastro Bar ทองหล่อ 13 เป็นร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งใครที่ชอบทานล็อบสเตอร์ ออยสเตอร์แนะนำเลยค่ะ

• มีธุรกิจหลายอย่างขนาดนี้ คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยังคะ
ด้วยครอบครัวแพร พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แพรจะอยู่กับแม่ และทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ เราเลยได้ทำหน้าที่เป็นเสาหลักดูแลครอบครัว และส่งน้องเรียนมหาวิทยาลัยด้วย ถามว่าเหนื่อยไหม ลำบากไหม เอาจริงๆ การทำธุรกิจมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แต่มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเราตั้งใจ
แพรมองว่ากว่าที่ทุกคนจะประสบความสำเร็จได้ มันต้องฝ่าฟัน ทุกวันนี้แพรภูมิใจในตัวเอง ทุกอย่างที่แพรทำ แพรมีที่บ้านคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้อยู่แล้ว เราก็เลยมีกำลังใจที่จะทำต่อไปค่ะ

ข้อมูล : รายการพระอาทิตย์ live ช่อง News 1
ภาพ : รายการพระอาทิตย์ live และเพจ Maeyingsnack
เรียบเรียง : วรัญญา งามขำ
แพร-ภัคจิรา เหลืองธีรนาท
หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เธอเคยเป็นนางเอกละครจักรวงศ์ เรื่อง “ตุ๊กตาทอง” ของทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จนผันตัวไปเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ให้แก่รถยนต์ชื่อดังหลากหลายค่าย แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจแขวนส้นสูงหันหลังให้วงการ และก้าวสู่การเป็นผู้บริหาร
ปัจจุบัน แพร-ภัคจิรา เหลืองธีรนาท กลายมาเป็นหุ้นส่วนของร้านอาหารไทยและร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน อีกทั้งยังเป็นเจ้าของธุรกิจ “แม่หญิงสแนค” ปูอัดทอดกรอบ ขนมพันธุ์ไทย ของคนวัยมันส์ 3 รส 3 สไตล์ ที่วันนี้โกอินเตอร์ไปต่างประเทศแล้ว
• ทราบมาว่าก่อนหน้านี้เคยอยู่ในวงการบันเทิงมาก่อน ช่วยเล่าถึงชีวิตตอนนั้นให้ฟังหน่อยค่ะ
ตอนเด็กๆ แพรจะชอบเรื่องสวยๆ งามๆ อยู่แล้ว ที่บ้านจะคอยสนับสนุน พาเราไปเดินสายแคสติ้งโฆษณา จึงทำให้แพรเดินทางสายนี้มาโดยตลอด
ครั้งหนึ่งแพรได้ไปเป็นนักแสดงสังกัดของทางช่อง 7 เล่นเป็นนางเอกละครจักรวงศ์ เรื่องตุ๊กตาทอง เป็นละครที่เขาเขียนบทขึ้นมาใหม่ เพราะปกติท่านผู้ชมจะเห็นว่าละครจักรๆ วงศ์ๆ ก่อนหน้านี้เกือบทั้งหมดจะมาจากนิทานพื้นบ้าน เช่น ปลาบู่ทอง สังข์ทอง แก้วหน้าม้า พิกุลทอง เกราะเพชรเจ็ดสี หรืออะไรก็ตามแต่ ทุกคนจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเดียวเลยที่เขียนบทขึ้นมาใหม่ค่ะ
เนื้อเรื่องของตุ๊กตาทองจะเกี่ยวกับตุ๊กตาวิเศษที่เขาจะแย่งชิงกัน จะมีนางเอกหลัก 3 คน ทั้งมนุษย์ ยักษ์ และกินรี ซึ่งตัวแพรได้รับบทแสดงเป็นกินรีที่อยู่ในป่าหิมพานต์ค่ะ
หลังจากนั้นทางช่องจ๊ะทิงจาชาแนลเขามีรายการเพลงด้วย แพรก็เลยได้มาเป็นพิธีกรรายการ และก็ทำมาเรื่อยๆ แต่เอาจริงๆ คนที่อยู่ในวงการบันเทิงถ้าไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงก็จะไม่ค่อยรุ่งเท่าไหร่ ตรงนี้เลยทำให้แพรผันตัวเองมาเป็นพิธีกร และเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ค่ะ
• จากนางเอกละครพื้นบ้านผันตัวมาเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ได้อย่างไรคะ
จริงๆ ตอนแรกแพรยังทำทั้ง 3 งานควบคู่กันอยู่นะคะ ทั้งนักแสดง ทั้งพิธีกรและพริตตี้ ที่แพรเลือกอาชีพพริตตี้เพราะมองว่าอาชีพนี้ยังทำให้เราได้อยู่ในสายบันเทิงอยู่
แพรเริ่มงานพริตตี้ด้วยการทำงานตั้งแต่ในระดับราคา 1,500 บาท เพราะการที่เราเข้าไปสู่ที่ใหม่ๆ เราก็ถือว่ายังเป็นน้องใหม่อยู่ซึ่งมันไม่เกี่ยวเลยว่าเราจะมีดีกรีเป็นถึงนางเอกหรืออะไรมา ทุกอย่างมันจะต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด แพรก็มองว่ามันเยอะกว่าบางคนที่เขาเข้ามาแล้วเริ่มได้ที่ 500 บาท 600 บาท 800 บาทอยู่นะ จนวันหนึ่งเราได้เข้าไปเชียร์ฟุตบอลเพื่อเป็นสีสันให้แก่สโมสรฟุตบอลศรีราชา เอฟซี เวลาที่เขามีแข่ง จุดนี้เลยทำให้เราเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น
แต่กว่าจะได้มาเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ หลายคนจะมองว่าอาชีพพริตตี้เป็นอาชีพง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นอาชีพที่ยากมากอยู่นะคะ เพราะกว่าที่เราจะได้เข้าไปสู่มอเตอร์โชว์ได้ เราจะต้องผ่านการแคสติ้งด้วยเหมือนกัน
การแคสติ้งของพริตตี้มอเตอร์โชว์จะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น ค่าย BMW อาจจะเข้มงวดและแคสติ้งหลายรอบหน่อย ของแพรที่เคยไปรอบแรกจะได้พูดแนะนำตัว พอเสร็จเขาก็จะตัดออกไปว่าเหลือกี่คน ส่วนรอบลึกๆ ก็จะมีเดิน มีพรีเซ็นต์สินค้าว่าเราจะขายของชิ้นนั้นๆ ยังไง
หลังจากแคสติ้งผ่านแล้ว ก่อนจะถึงวันงานเราต้องมีการเทรนทั้งบุคลิกภาพที่เขาจะส่งให้ไปเรียน ทั้งการพูด การฟัง การยืน การเดิน เราต้องเรียนรู้ทั้งหมด ซึ่งแพรได้พูดคำว่า BMW ไปครึ่งวันเลย (หัวเราะ) เพราะเราต้องพูดให้สำเนียงชัดเจน ดูแข็งแรง อีกทั้งโปรดักต์เราก็ต้องเรียนรู้ด้วย ตอนนั้นแพรได้เทรนที่ศูนย์ของ BMW เขาก็จะมีทางฝ่ายเทคนิค ฝ่ายช่างมาให้สอนเรื่องเครื่องยนต์ ส่วนประกอบต่างๆ ไปจนถึงประวัติของรถว่าเกิดมาอย่างไร
พอเทรนเสร็จก็จะมีข้อสอบให้ทำว่าสิ่งที่เราได้เรียนไปว่าเราได้ความรู้ขนาดไหน จริงๆ ตอนทำงานอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดลึกขนาดนั้นนะคะ แต่เราต้องเทรนเพราะเราต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับรถ ซึ่งถ้าเกิดมีลูกค้ามาถามแล้วเราตอบไม่ได้ มันจะดูไม่ดี
แพรเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์มานานอยู่เหมือนกันนะคะ น่าจะเกือบๆ 10 ปีได้ แพรได้ทำงานให้ทางค่าย Suzuki มาก่อน ตามด้วยค่าย Mazda, BMW, MINI Cooper และ Ssangyong ค่ะ แต่ด้วยความที่แพรทำงานมาตั้งแต่อายุ 19 ปี เราต้องใส่ส้นสูงมาตลอด หลังจากนั้นแพรเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ เริ่มมีอาการปวดหลัง ยืนนานไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเราใช้ร่างกายหนักมาก ตรงนี้เลยทำให้แพรคิดว่ามันได้เวลาที่เราต้องแขวนส้นสูงแล้ว
• แขวนส้นสูงหันหลังให้กับงานพริตตี้? หลังจากนั้นทำอะไรต่อไปคะ
ตั้งแต่นั้นมาแพรเลยมาคิดว่าเราจะทำอะไรต่อไปดี และด้วยความที่แพรชอบทำอาหาร แพรก็เลยได้รับโอกาสเปิดร้านอาหารไทย ชื่อร้านว่า “เพื่อนรัก” อยู่ที่ซอยพญานาค ติดกับโรงแรมเอเชีย แถวๆ บีทีเอสราชเทวีค่ะ เป็นร้านที่แพรกับเพื่อนที่สนิทกันทำด้วยกัน แต่จริงๆ กิจการที่แพรทำเขาเปิดมาก่อนแล้ว เราก็ทำหน้าที่ไปรับช่วงต่อเนื่องจากเขาอยากให้คนรุ่นใหม่เข้าไปพัฒนา ตรงนี้แพรจึงได้มีโอกาสเข้าไปบริหาร ร้านเปิดมาได้ประมาณ 6 ปีแล้วค่ะ
• แบบนี้ชีวิตเปลี่ยนไปหรือเปล่าคะ
ตั้งแต่หันหลังให้กับอาชีพพริตตี้ จนมาเป็นผู้บริหารร้านอาหาร ชีวิตเปลี่ยนเลยนะคะ หนักกว่าเดิมด้วยค่ะ (หัวเราะ) เพราะด้วยความที่เป็นธุรกิจของตัวเอง เราจึงอยากทำให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ตอนแรกแพรคิดหลายอย่างมากว่าเราจะทำอะไรดี เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันกับเราเขาก็ประสบความสำเร็จกันไปเยอะแล้ว มันเลยทำให้เราอยากจะมีแบรนด์ของตัวเอง
ตอนนั้นยอมรับเลยนะคะว่าแพรคิดเยอะมากเลย ทั้งคิดว่าจะทำครีมดีไหม หรือจะทำสครับขัดผิวดี คือทุกอย่างในหัวมันเยอะไปหมด
สุดท้ายแพรเลยคิดได้ว่า ทำขนมก็แล้วกัน เพราะเราชอบทำอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเปิดร้านอาหารอยู่แล้วด้วย จนกระทั่งเกิดไอเดียมาเป็นผลิตภัณฑ์ “แม่หญิงสแนค” ปูอัดทอดกรอบ ขึ้นมาค่ะ
• ทำไมถึงอยากทำผลิตภัณฑ์ปูอัดทอดกรอบออกมาวางขายคะ
ก่อนที่จะทำ แพรได้สำรวจตลาดแล้วค่ะว่ายังไม่มีคู่แข่งทางการตลาดเยอะมากเท่าไหร่ ถึงจะมีก็น้อยมาก และอีกอย่างพี่ชายแพรเขามีโรงงานปูอัดอยู่แล้วด้วย แพรเลยมองว่าเราจะทำยังไงดีถึงจะแปรรูปปูอัดให้ออกมาในรูปแบบใหม่ๆ ได้ ตรงนี้พอเราคิดได้จึงเกิดมาเป็นผลิตภัณฑ์ปูอัดทอดกรอบ “แม่หญิงสแนค” ค่ะ
• มีอุปสรรคปัญหาในการทำธุรกิจนี้บ้างหรือเปล่า
กว่าที่เราจะผลิตสินค้าขึ้นมาเป็นแบรนด์หนึ่งได้ก็ไม่ง่ายนะคะ เพราะเราต้องออกแบบทั้งแพกเกจจิ้ง และการทำผลิตภัณฑ์อาหาร เราต้องมี อย.ครบ มีข้อมูลโภชนาการครบ และด้วยความที่เป็นของรับประทาน ของทอด อุณหภูมิ น้ำมัน การคิวซีตัวแผ่นปูอัด อะไรทุกๆ อย่างจะต้องเป๊ะด้วย
ดังนั้น ไม่ใช่ว่าจะทำรอบเดียวแล้วผ่านเลยนะคะ อย่างตอนแรกที่แพรผลิตออกมา 6,000 ซอง เสียไปถึง 5,000 ซองเลยนะคะ เพราะการทอดของเราเป็นการทอดโดยใช้สายพาน ต้องทำในปริมาณเยอะๆ พอเสียก็เลยจะเสียเยอะ เราเลยต้องยอมทิ้ง ดีกว่าของออกมาไม่มีคุณภาพค่ะ
• แล้วคิดว่าจุดเด่นของแบรนด์ ‘แม่หญิงสแนค’ คืออะไรคะ
จุดเด่นปูอัดทอดกรอบของแพรคือจะแผ่นใหญ่ ไม่มีผงชูรส และแพรจะใช้เนื้อปลา 80 เปอร์เซ็นต์ค่ะ
คือจริงๆ ต้องอธิบายก่อนนะคะ เพราะหลายคนคิดว่าปูอัดเป็นปู แต่จริงๆ แล้วทำมาจากเนื้อปลา ซึ่งปูอัดจะมีหลายเกรด มีส่วนผสมแป้งกี่เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่เกรดไป เพราะเนื้อปลาล้วนๆ จะไม่มี ไม่สามารถทำได้ จึงต้องมีส่วนผสมของแป้งด้วยค่ะ
• ตอนนื้เห็นว่ามีส่งออกไปต่างประเทศแล้ว
ใช่ค่ะ ตอนนี้มีส่งออกไปขายที่ฮ่องกง และประเทศสิงคโปร์ อย่างที่ประเทสิงคโปร์คือเรามีญาติอยู่ที่นั่น พอเขาได้เห็นผลิตภัณฑ์ของเรา เขาก็เลยสนใจ แล้วต้องบอกว่าที่นั่นเวลาที่เขาไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ เขาจะไม่กินป็อปคอร์นเหมือนกันกับบ้านเรา แต่เขาจะชอบทานสแน็ก ก็เลยได้เอาปูอัดทอดกรอบของเราไปขายที่โรงหนังที่สิงคโปร์ค่ะ
ส่วนที่ฮ่องกง ต้องบอกก่อนว่าแพรเป็นสายไหว้พระทุกที่อยู่แล้ว ทั้งไทยและต่างประเทศ พอผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่ๆ เราก็เลยถือโอกาสเอาผลิตภัณฑ์ไปให้ซินแสที่นั่นทำพิธีให้ จนเราได้มีโอกาสเจอไกด์คนหนึ่งที่หลังๆ ได้มาสนิทกัน เขาก็เลยขอเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของเราค่ะ
• แล้วผลตอบรับในประเทศไทยล่ะคะ ดีไหม
ดีนะคะ ก็มีหลายคนซื้อไปแล้วกลับมาซื้ออีก และด้วยความที่แพรมีเพื่อนเยอะอยู่แล้วด้วย เพื่อนๆ ก็จะช่วยโปรโมตในเรื่องของการตลาดออนไลน์ให้ด้วยค่ะ
ส่วนตอนนี้ที่ประเทศไทยก็มีขายที่สวนลุมไนท์บาร์ซา, ร้าน Clover Bangkok อาคารมณียาเซ็นเตอร์ ติด Skywalk BTS ชิดลม, ร้านอาหารเพื่อนรัก BTS ราชเทวี และที่เพลินวาน หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ค่ะ
นอกจากนี้ เราก็มีตัวแทนจำหน่ายที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดจันทบุรีด้วยค่ะแต่ถ้าหากใครอยากรับประทานแต่ไม่สะดวกซื้อทางหน้าร้าน สามารถสั่งได้ที่ Line @MaeYingSnack จัดส่งให้ทั่วประเทศเลยค่ะ
• วางเป้าหมายหรือมีแผนอะไรเกี่ยวกับการทำธุรกิจอีกบ้าง
ตอนนี้ผลิตภัณฑ์แม่หญิงสแนคก็มีออกมา 3 รสชาติ มีรสต้มยำกุ้ง รสวาซาบิ และรสลาบค่ะเร็วๆ นี้ก็จะมีรสชาติออกมาใหม่ คือ รสเขียวหวาน กะเพรา และรสคลาสสิกค่ะ
นอกจากนี้แพรยังมีร้านอาหารอีกหนึ่งร้านที่แพรเป็นหุ้นส่วนเล็กๆ อยู่ ชื่อว่า Marian Urban Gastro Bar ทองหล่อ 13 เป็นร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งใครที่ชอบทานล็อบสเตอร์ ออยสเตอร์แนะนำเลยค่ะ
• มีธุรกิจหลายอย่างขนาดนี้ คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยังคะ
ด้วยครอบครัวแพร พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แพรจะอยู่กับแม่ และทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ เราเลยได้ทำหน้าที่เป็นเสาหลักดูแลครอบครัว และส่งน้องเรียนมหาวิทยาลัยด้วย ถามว่าเหนื่อยไหม ลำบากไหม เอาจริงๆ การทำธุรกิจมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แต่มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเราตั้งใจ
แพรมองว่ากว่าที่ทุกคนจะประสบความสำเร็จได้ มันต้องฝ่าฟัน ทุกวันนี้แพรภูมิใจในตัวเอง ทุกอย่างที่แพรทำ แพรมีที่บ้านคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้อยู่แล้ว เราก็เลยมีกำลังใจที่จะทำต่อไปค่ะ
ข้อมูล : รายการพระอาทิตย์ live ช่อง News 1
ภาพ : รายการพระอาทิตย์ live และเพจ Maeyingsnack
เรียบเรียง : วรัญญา งามขำ