“ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์” เปิดใจก่อนเดินทางไปพะเยาในพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) ยกกลุ่มปฏิบัติการเบื้องหลังที่ไม่เคยออกทีวีเป็น “พระเอกตัวจริง” เผย “ถ้ำหลวง” มีแผนยกระดับจากวนอุทยานเป็นอุทยาน มีหอประวัติศาสตร์รวบรวมเรื่องราว มั่นใจจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของแม่สาย พร้อมลั่นเป็นห่วง “หมูป่า” ฝากชาวโป่งผาช่วยดูแลให้เป็นปกติสุข รอดพ้นจากพวกหาผลประโยชน์ เชื่อมั่นเด็กๆ จะเติบโตเป็นคนดีของสังคม
วันนี้ (15 ก.ค.) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายวนอุทยานถ้ำหลวง (ผอ.ศอร.) ได้เปิดใจผ่านการไลฟ์สดของเพจ “PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย” ก่อนที่จะต้องเดินทางไปพะเยาในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.)
โดย นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจทีมปฏิบติงาน ขอบคุณคนเป็นหมื่นที่เวียนเข้ามาช่วยงาน สำหรับตนคนที่สำคัญสุด คือ อาสาสมัครกับน้องๆ ทหารที่ช่วยขนท่อเข้าไปสูบน้ำในถ้ำ ขนถังออกซิเจนเข้าไปในถ้ำ พวกนี้แทบไม่เคยโผล่หน้าออกทีวีเลย นี่คือ พระเอกตัวจริง อีกทีมคือ กลุ่มที่เดินอยู่ยอดดอยหาโพรงที่เชื่อมถ้ำ พวกนี้แบกอาหารไปที 3 วัน ไม่ได้กลับ ตนขอเปรียบเทียบคนที่มาช่วยเป็นจิ๊กซอว์ ประมาณหมื่นตัว ตนในฐานะผู้บัญชาการฯมีหน้าที่ต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า บทเรียนครั้งนี้ต้องถ่ายทอดเพื่อเป็นบทเรียนในอนาคต บางเรื่องก็สอนเด็ก ๆ ได้ด้วย เช่น เที่ยวถ้ำหน้าน้ำอันตราย อุทยานต้องมีฤดูเปิดปิดถ้ำ ถ้ำหลวงฯมีแผนยกระดับวนอุทยานเป็นอุทยาน มีหอประวัติศาสตร์ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เป็นจุดขายการท่องเที่ยวใหม่ของแม่สาย เราจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ต้องมีการรวบรวมข้อมูลทีมผู้เชี่ยวชาญที่สุดในโลกแต่ละด้านคือใคร หากเกิดเหตุทั่วโลกก็สามารถดึงข้อมูลตรงนี้มาใช้ได้เลย
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า บางทีความสำเร็จเกิดขึ้น เราลืมเรื่องอื่นหมดเลย กรณีจ่าแซม พวกเราเสียใจและเสียดายมาก แต่สำหรับผมแล้วเชื่อว่าจ่าแซมจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป ซึ่งจ่าแซมได้ทำหน้าที่สำคัญคือลำเลียงถังออกซิเจนไปวางตามจุดต่างๆ ในถ้ำ
ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวด้วยว่า อีกเรื่องนึงอยากจะฝากให้พวกเราช่วยกันดูด้วย พวกผมเมื่อทำภารกิจสำเร็จก็จะหมดภารกิจตรงนั้น ก็จะเหลือแต่คววามทรงจำกับความภูมิใจ แต่คนกลุ่มนึงที่จะลำบากในอนาคต ก็คือ น้องๆ เค้าเอง เขาไม่ใช่พระเอกแล้วก็ไม่ใช่ผู้ร้าย เขาเป็นเพียงเด็กน้อยกลุ่มนึงที่มีความกระตือรือร้น มีความอยากรู้อยากเห็น แล้วก็เล่นสนุกเพื่อออกกำลังกาย วันนี้เขาคงได้รับบทเรียนพอสมควร แต่มันขึ้นกับเราที่เป็นผู้ใหญ่ที่จะดูแลน้องเขา ถ้าเราดูแลน้องเขาผิดไป เชื่อว่า น้องเขาคงกดดันสูงมาก และจะดำเนินชีวิตเป็นปกติสุขยากลำบาก เราต้องดูแลน้องเขาแบบคนปกติ คนธรรมดา ไม่ใช่ดูแลน้องเขาแบบผู้สำเร็จหรือผู้บกพร่อง
“ผมเชื่อเหลือเกินว่า พอน้องกลับบ้านได้แล้วก็จะมีกลุ่มสื่อมวลชน กลุ่มออนไลน์ สารพัดกลุ่ม จะต้องมาถามน้องเป็นอะไรยังไง หรือแม้กระทั่งว่าให้น้องเขาเขียนหรือเล่าเพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง ซึ่งผมว่ามันจะไปกันใหญ่ ฝากพ่อแม่พี่น้องแม่สาย หรือชุมชนของโป่งผา ช่วยดูแลน้องๆ ให้เป็นปกติสุขด้วย เราช่วยเขามาแล้ว ชีวิตปลอดภัยแล้วจิตใจต้องปลอดภัยด้วย ต้องเป็นคนที่เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของชาติได้ ผมคาดหวังและเชื่อจริงๆ ว่า เขาจะเติบโตเป็นคนดีของสังคม วันนึงถ้าเขายืนแล้วปักหลักในอาชีพการงานของเขาได้แล้ว ผมอยากเห็นน้องเรียนรู้ว่าคนเป็นหมื่นคนที่มาช่วย และอีกหลายสิบล้านคนที่ให้กำลังใจ เราเป็นผู้ให้เขาเป็นผู้รับ วันข้างหน้าถ้าเขาปักหลักได้ ผมอยากให้เขาเรียนรู้การเป็นผู้ให้บ้าง แต่ถ้าวันข้างหน้าเขาไม่สามารถเรียนรู้ตรงนี้ได้ เขาจะลำบาก ฝากพี่น้องโป่งผาช่วยดูแลเขาด้วย ผมเป็นห่วงจริงๆ”