xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : ไทยยังมี "โทษประหารชีวิต" | ปลาซัคเกอร์ยังอาย พลังดูดหนุน "บิ๊กตู่" | จับเป็น "ทนายสุกิจ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 16 - 22 มิ.ย. 2561)

อันดับ 1 : ฟื้นโทษ "ประหารชีวิต" ในรอบ 9 ปี สังคมหนุน - นักสิทธิมนุษยชนเห็นต่าง

กลายเป็นประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ กรณีที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้ประหารชีวิต น.ช.ธีรศักดิ์ หลงจิ อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังคดีฆ่าผู้อื่นเพื่อชิงทรัพย์ ด้วยการฉีดสารพิษเมื่อบ่ายวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นผู้ต้องขังรายแรกในรอบ 9 ปี ที่ไทยไม่ได้ประหารชีวิตมานาน และทำให้หลุดจากประเทศที่จะยกเลิกโทษประหารชีวิตเมื่อครบ 10 ปี ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน



นักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งองค์กรแอมเนสตี้ ประเทศไทย ต่างออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านตัดสินโทษประหารชีวิตทุกกรณี โดยให้เหตุผลว่า โทษประหารชีวิตไม่ได้ทำให้คดีอาชญากรรมลดลง อย่างไรก็ตาม ในสังคมโดยเฉพาะโลกโซเชียลกลับสนับสนุนการประหารชีวิตมากกว่าร้อยละ 90 เนื่องจากที่ผ่านมามีคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญเกิดขึ้นมากมาย เห็นว่าต้องลงโทษแบบตายตามกันไป เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น
ขอบคุณภาพ : ไทยโพสต์
อันดับ 2 : พลังดูดยิ่งกว่าปลาซัคเกอร์ "กลุ่มสามมิตร" ดึงนักการเมืองหนุน "ประยุทธ์"

แม้แกนนำรัฐบาลด้านเศรษฐกิจอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ จะออกมาปฏิเสธการก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย แต่พบว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ตั้ง "กลุ่มสามมิตร" เพื่อฟื้นกลุ่มวังน้ำยมและร่วมงานทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ

โดยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. กลุ่มสามมิตรได้เดินสายดูด ส.ส. มาตั้งแต่ จ.เลย พบกับนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ จากนั้นวันที่ 26 มิ.ย. ไปทาบทามนายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. เพื่อไทย แกนนำจังหวัดนครราชสีมา และในวันที่ 30 มิ.ย. มีนัดพบปะอย่างเป็นทางการที่สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท ขณะที่ฝั่งพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า แกนนำยังอยู่ครบ ใครที่ย้ายไปพรรคอื่นเชื่อว่าประชาชนตัดสินใจเองได้ว่าจะเลือกใคร

อันดับ 3 : "ทนายสุกิจ" เจอดี! กองปราบฯ จับคดีรุกป่า "สภาทนายความ" โวยวายปกป้อง

จากเรื่องมโนสาเร่ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ตำรวจกองปราบปรามบุกจับกุม นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ ระหว่างที่พา น.ส.แสงสุริยเทพ พระมหาสุริยา หรือ ร่างทรง 4G ไปแจ้งความกลับกลุ่มที่มาร้องเรียน กลาง สน.พหลโยธิน เพราะมีหมายจับในตดีบุกรุกป่าสงวนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ระหว่างเดินผ่านหน้าห้องรับแจ้งความ กลับแสดงอาการขัดขืน ตำรวจเลยจับนายสุกิจกดศีรษะนอนคว่ำลงพื้นใส่กุญแจมือ



ทำเอาสภาทนายความ ยุคนายถวัลย์ รุยาพร แถลงข่าวใหญ่โตว่า ตำรวจไปจับกุมนายสุกิจกระทบศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยืนยันว่าตำรวจทำตามหน้าที่ ส่วน พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. ยืนยันว่าชุดจับกุมทำตามยุทธวิธี เพราะคดีรุกป่ามีอัตราโทษสูง แต่นายสุกิจสะบัดมือ ไม่ยอมเข้าห้องสอบสวน ควรรู้ว่าเมื่อถูกจับควรทำตัวอย่างไร เตือนสภาทนายความอย่าสร้างบรรทัดฐานในทางที่ผิด

อันดับ 4 : สิ้น "พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร" นายตำรวจน้ำดีแห่งวงการสีกากีไทย

นับเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการตำรวจ เมื่อเวลา 22.35 น. วันที่ 20 มิ.ย. พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจราชสำนักประจำ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ศิลปินแห่งชาติ ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ที่โรงพยาบาลตำรวจ สิริรวมอายุ 88 ปี โดยศพได้บำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 21-25 มิ.ย. โดยศพของ พล.ต.อ.วสิษฐ จะอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์



สำหรับ พล.ต.อ.วสิษฐ เป็นชาวจังหวัดอุดรธานี จบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารการตำรวจ) มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รับราชการในกรมประมวลราชการแผ่นดิน แล้วโอนไปเป็นตำรวจ มีงานเขียนและเสนอแนวทางปฏิรูปตำรวจเสมอ รวมทั้งมีงานเขียนนวนิยายแนวอาชญากรรมหลายเรื่อง ได้รับเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2541

อันดับ 5: ตีแสกหน้า "ชูวิทย์" คุก 1 เดือนไม่รอลงอาญา แจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ

เพิ่งออกจากคุก เป็นพิธีกรรายการทีวีตีแสกหน้าคนอื่นไม่ทันไร ก็ต้องกลับมาติดคุกอีกรอบ สำหรับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ฉายาเจ้าพ่ออ่าง เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ข้อหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีไม่ยื่นรายการเงินลงทุนภัตตาคารแห่งหนึ่ง มูลค่า 1.5 แสนบาท แต่ศาลลดโทษให้เหลือจำคุก 1 เดือน

โดยศาลเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินแก่ ป.ป.ช. ที่อ้างว่าโอนหุ้นให้พนักงานสถานประกอบการไฮคลาสฯ นั้น ขัดกับที่พนักงานให้การกับ ป.ป.ช. ว่าเป็นนอมินีเพื่อยื่นเรื่องขอใบอนุญาตเท่านั้น หลังศาลตัดสิน นายชูวิทย์ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์ 2 แสนบาท แต่ศาลไม่อนุญาตเพราะจำเลยอาจหลบหนี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายชูวิทย์ไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที

อันดับ 6 : จวกยับครู ทวงค่าเทอม ป.2 เขียนแปะหน้าอกเสียบประจาน

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.เฟซบุ๊กเพจ “Red Skull Phatthalung” โพสต์ภาพนักเรียนชายคนหนึ่งมีป้ายติดหน้าอกข้อความว่า “ยังไม่ได้ชำระค่าเทอม 700 บาท” ระบุว่าเป็นนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนเทศบาล 1 เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ กลายเป็นที่วิจารณ์และประณามครูที่ทำร้ายจิตใจเด็กอย่างรุนแรง ภายหลัง นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ สั่งย้ายครูที่ก่อเหตุไปที่โรงเรียนเทศบาล 4 จนกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ



สาเหตุเกิดจากทางโรงเรียนเรียกเก็บค่าสอนพิเศษ และค่าประกันอุบัติเหตุหมู่ จึงเขียนป้ายเพื่อให้ผู้ปกครองอ่านและช่วยโรงเรียนเก็บเงินให้ครบ เมื่อผู้ปกครองมาเห็นก็โกรธมาก จึงนำรูปไปโพสต์เพื่อระบายแค้น หลังเกิดเรื่องไม่คิดว่าจะเป็นข่าวขนาดนี้ จึงลบโพสต์ ปิดโทรศัพท์และหนีไปอยู่บ้านญาติ กระทั่งมีครูติดตามมาแจ้ง จึงคุยโทรศัพท์กับนายกเทศมนตรี ซึ่งกล่าวขอโทษและให้ความช่วยเหลือแก้ปัญหาเรื่องเงินไปแล้ว

อันดับ 7 : สาวหน้าตาดี โพสต์ขอชาวเน็ตคนละ 1 บาทช่วยผ่อนรถ - เตือนขอทานออนไลน์เสี่ยงคุก

ในโลกโซเชียลมักจะมีอะไรแปลกๆ ที่กลายเป็นปรากฎการณ์ทางสังคมเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งนามว่า "ทับทิม กรพินธุ์" โพสต์ข้อความระบุว่า "เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กและผู้ติดตามอีก 30,000 กว่าคน มีเรื่องให้ช่วย ขอคนละ 1 บาท ช่วยทับทิมผ่อนรถเดือนนี้หน่อย โครงการปันน้ำใจคนละ 1 บาท ใครไม่ชอบปล่อยผ่านนะคะไม่ต้องคอมเมนต์ด่า ช่วยแชร์หน่อยนะคะ" พร้อมเลขที่บัญชีและภาพเซลฟี่ตัวเอง



ปรากฎว่ามีชาวเน็ตหลงเชื่อ ต่างพากันแชร์และโอนเงินเข้ามาจริงๆ โดยที่เจ้าตัวมักจะโพสต์ภาพคู่กับรถเบนซ์ และเที่ยวต่างประเทศบ่อยครั้ง แต่งตัวหรูหรา ของใช้แบรนด์เนม จนมีผู้คนเข้ามาตำหนิเธอจำนวนมาก และมีลักษณะเข้าข่าย "ขอทานออนไลน์" หรือไม่ สุดท้ายเจ้าตัวจึงหงายการ์ด โพสต์ขอร้องให้หยุดโอนเงินและบริจาค พร้อมอภัยในความผิดพลาดในการสื่อสาร โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมกับลบโพสต์ต้นฉบับออกไป

ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีขอทานออนไลน์เกิดขึ้นบนโลกโซเชียล โดยมีชายรายหนึ่งโพสต์ไปตามเฟซบุ๊กกลุ่มต่างๆ อ้างว่าตกงานมาได้ 1 สัปดาห์ มีเงินในบัญชี 60 บาทแต่กดออกมาไม่ได้ ให้ช่วยโอนเงิน 40 บาท แต่ชาวเน็ตไปสืบพบว่าเป็นมิจฉาชีพ ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน 2559 มาตรา 13 ระบุว่า ห้ามบุคคลใดทำการขอทาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ




กำลังโหลดความคิดเห็น