xs
xsm
sm
md
lg

ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ยกระดับเอสเอ็มอีชุมชน “แม่แย้มหมอนขิด” ขายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซีพี ออลล์ ตอกย้ำนโยบายส่งเสริมและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย เดินหน้ายกระดับเอสเอ็มอี “แม่แย้มหมอนขิด” ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชุมชนบ้านศรีฐาน จ.ยโสธร ผ่านช่องทางจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ช่วยสร้างอาชีพสร้างรายได้ที่มั่นคงให้คนในท้องถิ่น ล่าสุดคว้ารางวัลเซเว่น อีเลฟเว่นเอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2560 มาครอง


“หมอนขิด” อีกหนึ่งภูมิปัญญาซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่สำคัญของชาวอีสานที่มีความผูกพันกับคติความเชื่อของชาวอีสานมาช้านาน ดังจะเห็นได้จาก “ผ้าขิด” ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำหมอนขิดที่ต้องใช้ฝีมือและความสามารถในการทอสูงกว่าผ้าชนิดอื่น “ขิด” เป็นภาษาพื้นบ้านของภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาจากคำว่า “สะกิด” หมายถึงงัดช้อนขึ้นหรือสะกิดขึ้น สันนิษฐานว่ามาจาก ภาษาบาลีคำว่า “ขจิด” แปลว่า “ทำให้งดงาม” ช่างอีสานถือว่าผ้าขิดเป็นของสูงจึงมักจะทอใช้ในโอกาสที่เป็นมงคลเช่นห่อพระไตรปิฎกหรืองานพิธีต่างๆ เป็นภูมิปัญญาสั่งสมที่มีมาตั้งแต่ในอดีต ต่อมา ชาวบ้านได้นำผ้าขิด มาทำเป็นหมอนสามเหลี่ยม ซึ่งเดิมเรียกว่าหมอนหน้าม้า ตามลักษณะรูปทรงสามเหลี่ยมคล้ายหน้าม้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าใช้สำหรับถวายพระภิกษุสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ หรือมอบแด่เจ้าเมืองที่เคารพนับถือ ซึ่งการทอผ้าลายขิดและการทำหมอนขิดได้ถ่ายทอดให้ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน และได้นำมาประยุกต์เข้ากับศิลปะและประโยชน์ใช้สอยได้อย่างกลมกลืนหลากหลายรูปแบบตามสมัยนิยม

สำหรับการทำหมอนขิดที่บ้านศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหมอนขิดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและมีชื่อเสียงมาช้านาน รวมถึงเป็นสินค้า OTOP ประจำจังหวังยโสธร ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ชาวบ้านที่นี่กว่า 95% มีอาชีพหลักในการทำหมอนขิด โดยไม่ต้องออกไปหางานทำที่อื่น เป็นอาชีพหลักของที่นี่สร้างรายได้และสร้างชุมชนให้เข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบัน “แม่แย้มหมอนขิด” หนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายหมอนขิดที่ชุมชนบ้านศรีฐาน ยังเพิ่มช่องทางจำหน่ายขยายธุรกิจเพื่อส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านช่องทางที่หลากหลายของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ที่ทันสมัยอีกด้วย

นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าทั่วไปและสินค้านวัตกรรม จากผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้าคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชน โดยบริษัททำหน้าที่เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้ เพื่อส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านช่องทางที่หลากหลายของ “ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง” อาทิ นิตยสารทเวนตี้โฟร์แคตตาล็อก, เว็บไซต์ www.24catalog.com, www.shopat24.com, www.amulet24.com, แอปพลิเคชัน, ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ช้อปปิ้งสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง


“ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง กว่า 9,000 รายการ โดยบริษัทได้ช่วยสนับสนุนด้วยการเข้าไปร่วมพัฒนาสินค้าและบริการร่วมกับผู้ประกอบการรายย่อย ตลอดจนเป็นช่องทางการขายตั้งต้นให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ตลาดและการจัดการด้านค้าปลีกทันสมัย เพื่อต่อยอดในการขยายตัวไปยังช่องทางอื่นๆ อีกทั้งจัดให้มี Store Hub เพื่อให้ฝากส่งสินค้าที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นสาขาต่างๆ เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า รวมถึงผลักดันเอสเอ็มอีไปสู่ตลาดเอเชีย ขายสินค้าให้ลูกค้าชาวจีนและลาว ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เอสเอ็มอีตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน” นายอำพา กล่าว

ด้านนางแย้ม จันใด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “แม่แย้มหมอนขิด” เล่าให้ฟังว่า เดิมทีเป็นคนบ้านศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหมอนขิดที่สำคัญของประเทศ และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ชีวิตมีความผูกพันธ์กับหมอนขิดมาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อมีความรู้และฝีมือในการทำหมอนขิดอยู่แล้ว พอว่างจากการทำไร่ทำนา ตนและสามีก็จะรับจ้างผลิตหมอนขิด โดยทำตั้งแต่การเย็บ การสอย ขึ้นรูปตามแบบที่เตรียมไว้ ไปจนถึงการบรรจุนุ่นให้เป็นรูปทรงสวยงาม และเงินที่ได้มานอกจากจะเพื่อการยังชีพแล้วยังเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของลูก 2 คนให้มีโอกาสทางการศึกษาสูงๆ ต่อไป

“กระทั่งปี 2542 เห็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้ครอบครัว จึงหันมาผลิตหมอนขิดขายเอง และจ้างแรงงานในท้องถิ่นมาช่วยกันทำ ใครมีความถนัดด้านเย็บ สอย หรือบรรจุนุ่น ก็รับวัสดุอุปกรณ์กลับไปทำที่บ้าน ในแต่ละขั้นตอนจะมุ่งเน้นผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีหลากหลายรูปแบบ ประณีตสวยงาม สินค้าจึงได้รับเลือกให้เป็นโอทอป 4 ดาว ทำให้ได้รับความนิยมจากลูกค้าซื้อไปใช้สอยในครัวเรือน ใช้ในงานบุญ งานบวช และเป็นของฝาก ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถลืมตาอ้าปากได้ นอกจากนี้ยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนร่วมหมู่บ้าน โดยไม่ต้องออกไปหางานทำที่อื่น เป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกนุ่นทั่วประเทศ รวมถึงเป็นการส่งเสริมแหล่งผลิต สืบสานวัฒนธรรม และภูมิปัญญาพื้นบ้านในการทำหมอนขิดของชุมชนให้คงอยู่ต่อไปด้วย”


เมื่อความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น แม่แย้มจึงเริ่มมองหาช่องทางใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วถึง ประกอบกับบุตรชายคนโตสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีตามที่ตนตั้งใจไว้ ได้เข้ามาช่วยทำธุรกิจของครอบครัว ในปี 2559 จึงเริ่มนำผลิตภัณฑ์หมอนขิด เข้ามาจำหน่ายผ่านช่องที่หลากหลายของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง
“ลูกชายเข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจ ดูแลเรื่องการขายการตลาด ตระเวนออกบูธขายสินค้าตามงานโอทอป และมีโอกาสได้เจอทีมงานของภาครัฐและทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้งแนะนำให้มาขายผ่านนิตยสารทเวนตี้โฟร์ แคตตาล็อก จึงนำหมอนสามเหลี่ยมขิด หมอนสามเหลี่ยมขิดช่องเดียว เบาะรองนั่ง เข้ามาจำหน่าย และได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จากนั้นจึงนำหมอนหนุนเพื่อสุขภาพ หมอนรองคอ ที่นอนพับ และที่นอนระนาด เข้ามาขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังส่งออกผลิตภัณฑ์หมอนขิดไปยังต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา กัมพูชา และลาว เป็นต้น ” นางแย้มเล่าด้วยรอยยิ้ม


ผู้ประกอบการ SME ชุมชน กล่าวทิ้งท้ายว่า การได้ร่วมงานกับทางทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ทำให้ผลิตภัณฑ์หมอนขิดเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น เพราะทางบริษัทจะมีทีมงานคอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ได้เรียนรู้ถึงระบบการบริหารจัดการ การศึกษากลุ่มผู้บริโภค การประเมินความต้องการของผู้บริโภค การบริหารสต๊อกสินค้า รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้รับรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่นเอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2560 ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งรู้สึกภูมิใจกับรางวัลนี้และยังเป็นกำลังใจให้ตนตั้งใจผลิตสินค้าดีมีคุณภาพต่อไป

นายกฤษณพงษ์ จันใด ทายาทผู้สนับสนุนและสานต่อกิจการ “แม่แย้มหมอนขิด” กล่าวถึงกลยุทธ์ความสำเร็จและการเข้ามาร่วมนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง “เริ่มแรกจากการนำสินค้าไปขายที่เมืองทองธานีซึ่งเป็นงานของพัฒนาชุมชนจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย และมีโอกาสได้พบกับทีมงานของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง มาติดต่อว่าสนใจจะขายของในทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง หรือไม่ผมก็เลยตัดสินใจลองขายดู โดยเลือกผลิตภัณฑ์เข้าไปสองชิ้น คือ เบาะรองนั่ง และหมอนสามเหลี่ยม ผลตอบรับกลับมาดี ทางฝ่ายการตลาดจึงสอบถามมาทางผมว่ามีสินค้าตัวไหนที่พอจะขายได้อีกไหมผมก็เลยเพิ่มเข้าไป นำไปให้ทีมงานเข้าที่ประชุมผลปรากฏว่าพอเพิ่มเข้าไปอีกประมาณ 2-3 ชิ้น ผลตอบรับก็ดีขึ้น มียอดขายเพิ่มขึ้นซึ่งตอนนี้ก็มีเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ ครับ เช่นหมอนสามเหลี่ยมสิบช่องเดี่ยว เบาะรองนั่ง หมอนรองคอ หมอนหนุนเพื่อสุขภาพ ที่นอนนุ่น และทีนอนระนาด ครับ



ผลที่ได้รับจากการเข้ามาร่วมกับทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง คือทางร้านของเราก็มียอดขายเพิ่มขึ้นและคนในชุมชนคนงานของเรามีงานเพิ่มมากขึ้น รายได้เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลดีกับทางร้านและชุมชนสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้เรามีอยู่ 2 สาขา คือที่บ้านศรีฐาน และที่ตลาดไทย สาขาที่สามกำลังต่อเติมโดยเช่าพื้นที่ของตลาดต่อยอดที่ประตูน้ำพระอินทร์ซึ่งจะเลยนวนครออกมานิดหน่อย และสิ่งที่อยากจะฝากสำหรับผู้ที่สนใจและมีสินค้าอยากให้ลองพัฒนาสินค้าของตัวเองให้มีมาตรฐาน ลองนำไปเสนอทางกับทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ดูซึ่งเขาพร้อมสนับสนุนเอสเอ็มอีและมีคำแนะนำดีๆ ให้เราเสมอครับ”



สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีท่านใดที่สนใจนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง ผ่านเว็บไซต์ www.24catalog.com, www.Shopat24.com และ Call Center 02-780-7666 ตลอด 24 ชั่วโมง”
เรื่อง/ภาพ : อรวรรณ เหม่นแหลม





กำลังโหลดความคิดเห็น