“สรยุทธ” โพสต์มารดาเสียชีวิตแล้ว หลังทนทุกข์ด้วยโรคพาร์กินสันเทียมมานานกว่า 10 ปี เผยก่อนหน้านี้บวชก็เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรหยุดทรมานแม่ แม้อีกใจก็กลัวว่าท่านจะจากไป จนวันที่ 3 มิ.ย. ปอดติดเชื้อ อาการทรุดหนัก จึงจับมือแม่พร้อมพาสวดมนต์จนกระทั่งชีพจรลงมาอยู่ที่ 0 จากไปอย่างสงบ
วันที่ 5 มิ.ย. นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” ว่ามารดาของตนได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2561
มีรายละเอียดว่า “พ่อผมเสียตั้งผมยังไม่รู้ความ ในความทรงจำของผมจึงมีแค่แม่ที่ทำหน้าที่ทั้งแม่และพ่อไปพร้อมกัน แม่ลำบากมาทั้งชีวิต ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่แม่สบาย ผู้หญิงตัวคนเดียวขายผลไม้เพื่อเลี้ยงลูก 3 คนจนโต ทั้งขายส่งขายปลีกจนแทบไม่มีเวลานอน ตอนหลัง จากค้าขายผลไม้สุดท้ายต้องมาขายของจุกจิก ชิ้นละบาทสองบาท เพราะตึกแถวถูกเวนคืนสร้างทางด่วน วันไหนพอจะมีเวลาหยุดพักบ้าง แม่ก็ยังอุตส่าห์ขับรถพาลูกๆ ไปเที่ยวทะเล เวลาเดียวที่ผมรู้สึกได้ว่าแม่สบายใจคือการได้เห็นลูกๆ ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อถึงเวลาที่แม่ควรจะได้อยู่อย่างสุขสบาย เพราะลูกๆ เริ่มมีฐานะ มีกำลังจะดูแลให้แม่ได้ไปพักผ่อน ไปท่องเที่ยวรอบโลก แม่ก็กลับล้มป่วยเป็นพาร์กินสันเทียม ซึ่งเป็นอาการป่วยที่ทุกข์ทรมานมากว่า 10 ปี นี่คือสิ่งที่ผมเสียใจที่สุด ...
ผมไม่เคยรู้ว่าแม่อยากให้ผมที่เป็นลูกชายคนเดียวบวช เพราะแม่ไม่เคยบอก เพิ่งมารู้จากญาติหลังจากผมลาสิกขาแล้วว่า เมื่อครั้งแม่ยังพูดคุยได้ แม่เคยบอกว่าอยากให้ผมบวช แต่ไม่ได้บอกเพราะเห็นผมงานยุ่งมาก ผมบวช 33 วันครั้งนี้ตั้งใจบวชให้แม่ ทุกเช้าทุกค่ำหลังสวดมนต์ทำวัตร ผมตั้งใจอธิษฐานจิตขออุทิศบุญกุศลให้แม่ และเจ้ากรรมนายเวรของแม่ ผมนึกถึงแต่หน้าแม่และความทุกข์ทรมานของแม่โดยคิดเองในใจว่า หากมีเจ้ากรรมนายเวร ขอโปรดหยุดทรมานแม่ผม แม่ผมทุกข์มากพอแล้ว แต่อีกใจก็แอบกลัวว่า หากเจ้ากรรมนายเวรท่านอโหสิกรรมให้แม่แล้ว แม่ผมอาจจะจากผมกับพี่น้องไป ซึ่งผมก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ผมดีใจที่แม่ปลาบปลื้มใจที่ผมได้บวชให้แม่ เพราะวันที่ผมรับกิจนิมนต์มารับบาตรและสวดมนต์ให้แม่ที่โรงพยาบาล แม่ยกมือ แม่น้ำตาไหล แม้จะพูดไม่ได้ หลังจากนั้นทุกวัน 6 โมงเย็น แม่จะตื่นตาใสรอผมเฟซไทม์มาสวดมนต์ให้ฟัง ...
วันที่ 3 มิถุนายน 2561 แม่อาการแย่ลง จากการติดเชื้อดื้อยาขั้นรุนแรง ก่อนหน้านี้แม่เคยติดเชื้อดื้อยาจนอาการทรุดมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งก่อนผมบวชวันเดียวที่พี่น้องไม่ได้บอกผม แต่ก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ความดันตก ปอดติดเชื้อจนคุณหมอรับว่าไม่น่าจะมีปาฏิหาริย์เหมือนที่ผ่านมา แม่ไม่รู้สึกตัวแล้ว ผมเดินเข้าออกห้องฉุกเฉินหลายครั้ง ตัดสินใจว่าจะพาแม่สวดมนต์ดีมั้ย ใจหนึ่งก็กลัวไม่ทันก่อนที่แม่จะจากไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้แม่จากไป สุดท้ายผมตัดสินใจจับมือแม่ที่ไม่รู้สึกตัวแล้วบอกกับแม่ว่า สวดมนต์พร้อมกับลูกนะแม่ เรามาสวดทำวัตรเย็นด้วยกัน แล้วผมก็เริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็นแปลอย่างช้าๆ อย่างที่เคยสวดในวิหารต่อหน้าพระ บางช่วงที่มีคำที่ใช้แตกต่างกันของผู้ชายกับผู้หญิง ผมก็สวดของผมก่อน และก็บอกแม่ว่าท่อนนี้ของแม่นะ จนจบบททำวัตรเย็น ผมก็สวดบทนมัสการพระอรหันต์ 8 ทิศ ความดันแม่ยังตกลงเรื่อยๆ ในใจผมกลัวว่า จะสวดไม่จบ ระหว่างนั้นแม่กลับรู้สึกตัวกลืนน้ำลายอยู่พักหนึ่ง ผมสวดบทถวายพรพระ พาหุง มหากาฯ กระทั่งบทภะวะสัพฯ จนจบ พี่สาวกับน้องสาวเอ่ยกับแม่ว่าสาธุ อึดใจนั้นเอง เครื่องสัญญาณชีพก็ส่งเสียงดัง ผมเหลือบตาขึ้นไปเห็นชีพจรลงมาอยู่ที่ 0 ...
ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องทรมานอีกแล้ว หลับให้สบายนะหม่าม้า” นายสรยุทธ ระบุ
ทั้งนี้ นางวิชชุดา สุทัศนะจินดา (แซ่โล้) ได้เลี้ยงดูนายสรยุทธ พร้อมกับพี่สาวและน้องสาวอีกคนหนึ่ง เนื่องจากนายสมศักดิ์ สุทัศนะจินดา บิดาเสียชีวิตตั้งแต่นายสรยุทธยังเด็ก โดยมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายผลไม้ทั้งปลีกและส่ง เมื่อตึกแถวที่นางวิชชุดาอาศัยอยู่ถูกเวนคืนเพื่อก่อสร้างทางด่วน ทำให้ต้องย้ายบ้านและหันมาขายของชำ กระทั่งลูกๆ โตขึ้น นางวิชชุดากลับล้มป่วยเป็นพาร์กินสันเทียม ซึ่งเป็นอาการป่วยที่ทุกข์ทรมานมากว่า 10 ปี