xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : สัปดาห์หัวร้อน #ตำรวจหัวร้อน | #ครอบครัวหัวร้อน | หนุ่มไลฟ์สดหัวร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 12 - 19 พ.ค. 2561)

อันดับ 1 : ตำรวจหัวร้อน! ท้าชก "มาร์ค พิทบูล" ผกก.เบรก บอก "ชนะเหมือนแพ้"

ในโลกโซเชียลไม่มีใครไม่รู้จัก "มาร์ค พิทบูล" หรือ นายณัชพล สุพัฒนะ เน็ตไอดอลวัย 50 ปี ที่สร้างชื่อเสียงกรณีตำรวจตั้งด่าน และกรณีครูจอมทรัพย์ จู่ๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pattawee Konwimon ทราบในเวลาต่อมาเป็นของ พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล หรือ "รองโก้" รอง ผกก.ป.สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ท้าให้มาชกมวย ถือว่าเป็นกีฬา เอาเงินที่ได้จากการจัดไปทำประโยชน์ พร้อมกับกล่าวว่า แต่งเครื่องแบบต่อยก็ได้ ทำเอาอีกฝ่ายรับคำท้า



โลกโซเชียลต่างวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เป็นตำรวจไม่น่าไปท้าตีท้าต่อยกับชาวบ้าน สาเหตุที่ "รองโก้" ท้าเช่นนี้ เพราะไปเห็น มาร์ค พิทบูล ไลฟ์ในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ประชาชนมาตีตำรวจที่ตั้งด่านตรวจ แต่ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ออกมาตำหนิว่าไม่เหมาะสม เห็นว่าชกชนะก็เหมือนแพ้ ชกแพ้ก็ยิ่งแพ้มากขึ้น แล้วจะทำไปทำไม สุดท้ายจึงบอกไปว่า ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ว่ากันไป แต่ไม่อนุญาตให้สวมเครื่องแบบขึ้นชก

อันดับ 2 : ครอบครัวหัวร้อน! ชกตำรวจเหตุเขียนใบสั่ง เจอสาปส่งไล่พ้นระยอง

กลายเป็นบุคคลที่โลกโซเชียลพากันสาปส่งกันไปแล้ว สำหรับ "ครอบครัวหัวร้อน" นายพะยอม แสงมณี อายุ 32 ปี, น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล อายุ 35 ปี และลูกชาย นายอิทธิพล สมถวิล อายุ 18 ปี ทะเลาะด่ากราดตำรวจ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ด้วยถ้อยคำหยาบคาย กิริยาก้าวร้าวไม่เหมาะสม แถมลูกชายตัวดียังชกต่อยตำรวจ เพราะไม่พอใจถูกจับกุมและออกใบสั่งจอดรถในที่ห้ามจอด เมื่อวันที่ 10 พ.ค. กลายเป็นว่าโลกออนไลน์พากันขุดคลิปและภาพที่ไปแสดงพฤติกรรมกร่างที่ ตลาดมณียา จ.นนทบุรี, สภ.ประสาท จ.สุรินทร์ และอีกหลายแห่ง



ทีแรก ก่อนหน้านี้ ทั้งสามคนถูกตั้งข้อกล่าวหาจาก สภ.มาบตาพุด ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ แต่พ่อแม่ปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ว่ากระทำเกินกว่าเหตุ ส่วนลูกชายที่ชกตำรวจถูกดำเนินคดีฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวาง และทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อสังคมประณามอย่างหนัก วันที่ 16 พ.ค. ครอบครัวหัวร้อนก็มอบกระเช้าดอกไม้และขอโทษตำรวจ สภ.มาบตาพุดเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางชาวบ้านมายืนดักรอ พร้อมร้องตะโกนขับไล่ให้พ้นมาบตาพุด จ.ระยอง

อันดับ 3 : หนุ่มไลฟ์สดหัวร้อน! ด่าทหารจอดรถในที่ห้ามจอด เจอชาวเน็ตด่าเละ

หากยังจำกันได้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ธกร อำพันเปรม" เคยออกมารณรงค์แฮชแท็ก #ลูกตำรวจแล้วไง ในช่วงคดีชายพิการถูกฆ่า แต่เมื่อวันที่ 17 พ.ค. เขาใช้เฟซบุ๊กไลฟ์ต่อว่า สิบตรี เอก เงินจันทร์ ทหารในสังกัดกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ จอดรถทหารไปซื้อต้นไม้ริมถนนเทศบาลสงเคราะห์ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อนายธกรเห็นว่าจอดรถตรงฟุตปาธเส้นขาวแดง ก็ออกมาต่อว่าทหารอย่างยาวนาน อ้างว่าแม้จะเป็นทหาร แต่การจอดรถในที่ห้ามจอดไม่ควรทำ แม้ทหารนายนี้จะยกมือไหว้ขอโทษหลายครั้ง



ในโลกโซเชียลต่างวิจารณ์นายธกรจำนวนมาก ว่าใช้อารมณ์ ใช้คำพูดรุนแรง อวดฉลาด และถามกลับว่าคนถ่ายคลิปต้องการอะไร ทั้งที่ทหารยอมรับผิดไปแล้ว แทนที่จะไปไล่แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก จอดกีดขวางการจราจร บางคนยกกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนตร์ทหาร พ.ศ. 2476 ที่ระบุชัดว่า กฎหมายที่เกี่ยวแก่พระราชบัญญัติรถยนตร์ ห้ามมิให้ใช้บังคับแก่รถยนต์ทหาร พร้อมชื่นชม สิบตรี เอก ว่ามีมารยาท สุภาพ อดทน แถมยังเสียเงินค่าปรับ 500 บาท ให้แก่ สน.ประชาชื่นอีกด้วย สุดท้ายนายธกรจึงออกมาอัดคลิปขอโทษ ยอมรับว่าทำเกินกว่าเหตุ



อันดับ 4 : "ป้าทุบรถ" หัวไม่ร้อน! ศาลปกครองสั่งรื้อ 5 ตลาด แถมชดใช้เงิน 1.47 ล้านบาท

หลังจากที่สังคมตื่นรู้ กรณีป้าใช้ขวานทุบรถที่มาจอดหน้าบ้าน บริเวณตลาดหมู่บ้านเสรีวิลล่า เขตประเวศ กทม. สาเหตุมาจากการก่อสร้างตลาดรอบบ้าน 5 แห่ง ทำให้ป้าได้รับผลกระทบ และยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2555 ในที่สุดวันที่ 16 พ.ค. ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้ผู้ว่าฯ กทม., ผอ.เขตประเวศ, สำนักงานเขตประเวศ และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) สั่งรื้อตลาด 5 แห่งภายใน 60 วัน และชดใช้ค่าเสียหายแก่ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ และพี่น้องรวม 4 ราย รวม 1.47 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี



ศาลพิเคราะห์แล้วตีความว่า บริษัท สุวิทย์และเสรี จำกัด จัดสรรที่ดินเมื่อปี 2530 มีเจตนาให้ใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้น ไม่ปรากฎว่าจัดสรรที่ดินเพื่อการพาณิชย์ การที่ผู้ว่าฯ กทม. ออกใบรับแจ้งก่อสร้างตลาดจึงใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อวัตถุประสงค์ต่อประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ปี 2515 ว่าด้วยการควบคุมอาคาร และเมื่อ ผอ.เขตประเวศไม่ได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ปล่อยให้สร้างตลาดตั้งแต่ปี 2553-2561 เป็นเวลา 7 ปีเศษ ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร และเมื่อ น.ส.บุญศรี และพี่น้องเดือดร้อนเสียหาย อยู่ในภาวะทุกข์ทรมานด้านจิตใจเป็นเวลานาน จึงเห็นควรกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้ กทม. ต้องชดใช้เป็นค่าเสียหายสำหรับการสูญเสียความสุข (Hedonic Losses) รายละ 368,400 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5%

อันดับ 5 : ยังจะหัวร้อนไหม? ตำรวจเตรียมถอดยศ "สันธนะ" กรรโชกทรัพย์ตลาดใหม่ดอนเมือง

หลัง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 2 เข้ามอบตัวหลังถูกออกหมายจับข้อหากรรโชกทรัพย์ รวม 8 หมายจับ ไปเมื่อเช้าวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งบ่ายวันที่ 13 พ.ค. ศาลอาญาให้ประกันตัวในวงเงิน 3 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เจ้าตัวยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งส่งตัวแทนยื่นหนังสือเตือน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในการปฏิบัติหน้าที่ ระบุว่า มีปัญหาขัดแย้งส่วนตัว อาศัยหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ จำเป็นต้องใช้กระบวนการยุติธรรม

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีตลาดใหม่ดอนเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาพฤติกรรมของ พ.ต.ท.สันธนะว่าทำให้องค์กรตำรวจเสียหายหรือไม่ หากทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย ก็เป็นเหตุให้ถอดยศตำรวจได้ เพราะถือว่าใช้ยศตำรวจทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์กร ไม่จำเป็นต้องให้ผลคดีถึงที่สุด ส่วนการออกหมายเรียก พ.ต.อ. (พิเศษ) สมชาย ประยูรรัตน์ และ นางนิตยา ประยูรรัตน์ ในกรณีให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหานั้น สน.โชคชัยได้ยกเลิกออกหมายเรียกแล้ว

อันดับ 6 : วินร้อน! มอเตอร์ไซค์รับจ้างประท้วง "แกร็บ" จี้ยกเลิกใช้ จยย. ป้ายดำรับผู้โดยสาร

ความขัดแย้งระหว่างวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กับผู้ขับขี่รถรับจ้างแอปพลิเคชัน “แกร็บไบค์” ที่ใช้จักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายขาวดำ) เกิดขึ้นไม่หยุด วันที่ 17 พ.ค. กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะแห่งกรุงเทพฯ รวมตัวกันที่หน้าอาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เพื่อเรียกร้องให้แกร็บหยุดสนับสนุนให้สมาชิกนำรถป้ายขาวดำมารับส่งผู้โดยสาร หลังจาก กอ.รมน. กทม. ได้เรียกแกร็บ และอนุญาตเฉพาะรถที่ใช้ป้ายทะเบียนสำหรับรถรับจ้างสาธารณะ (ป้ายเหลือง) เท่านั้น โดยมีตัวแทนฝ่ายกฎหมายแกร็บฯ เป็นผู้รับหนังสือ

ขณะที่ในโลกโซเชียลได้มีวีดีโอคลิประหว่างวินจักรยานยนต์รับจ้างที่เขตสาทร กับคนขับแกร็บไบค์ ที่มารับผู้โดยสารเพื่อไปเยาวราช ในราคา 28 บาท ปรากฏว่าวินมอเตอร์ไซค์ขี่มาปาดหน้า ตำหนิว่าเสียมารยาท ทำไมมาเรียกตรงนี้ มีวินอยู่หน้าตึกทำไมไม่ใช้บริการ ผู้โดยสารชี้เรียกวินฯ 120 บาท ส่วนแกร็บไบค์แค่ 28 บาท ขณะที่ฝั่งจักรยานยนต์รับจ้างระบุว่า แม้ทะเบียนรถที่มารับจะเป็นป้ายเหลืองถูกต้อง แต่ปัญหาคือ มารับตรงหน้าวิน มีการข้ามเขต ทั้งที่วินทุกคนก็ควรรับเขตใครเขตมัน ส่วนราคา 120 บาท เป็นราคามาตรฐานมานานแล้ว

อันดับ 7 : ไมโครโฟนร้อน! ครม. ตีกลับงบไอซีที "รัฐสภาใหม่" ตัวละแสนสอง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 พ.ค. อนุมัติเพิ่มงบประมาณก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เฉพาะค่าก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ 273.51 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 150.45 ล้านบาท และค่าที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้าง 88.54 ล้านบาท แต่ตีกลับงบระบบไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบไอที 8,135.56 ล้านบาท เนื่องจากบางรายการยังไม่ชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมไม่ได้ที่อุปกรณ์บางชิ้นแพงเกินไป เช่น ค่าไมโครโฟน 1.2 แสนบาท นาฬิกา 7 หมื่นบาท

การตีกลับงบไอซีทีดังกล่าว ทำให้นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อธิบายว่า ถือเป็นการมองต่างมุม ฝ่ายบริษัทออกแบบอาจมองว่าจำเป็น แต่อีกฝ่ายมองว่าน่าจะใช้ของที่มีราคาถูกกว่านี้ได้ ซึ่งไมโครโฟนที่จะซื้อมีระบบสแกนนิ้ว ใช้แสดงตัวตนสมาชิกรัฐสภาอย่างชัดเจนตอนลงมติ แก้ปัญหาเสียบบัตรแทนกัน และเชื่อมกับจอคอมพิวเตอร์ คมชัดระดับ 4K สามารถเห็นหน้าผู้อภิปรายได้ ส่วนนาฬิกาติดตั้งทั่วอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ควบคุมผ่านระบบไอที ทำให้นาฬิกาทุกเรือนเดินตรงกันหมด แก้ปัญหาสมาชิกสภาเข้าประชุมไม่ทัน แต่ได้มีการประชุมเพื่อปรับลดงบประมาณเมื่อวันที่ 18 พ.ค. แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น