xs
xsm
sm
md
lg

ปิดตำนาน 79 ปี แปลงร่าง “โรงงานยาสูบ” เป็น “การยาสูบแห่งประเทศไทย” กลายสภาพนิติบุคคล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง กลายสภาพเป็น “การยาสูบแห่งประเทศไทย” แล้ววันนี้ (14 พ.ค.) หลังออกกฎหมายเฉพาะ แปรสภาพเป็นนิติบุคคล เปิดช่องให้กู้ ออกพันธบัตร ตราสาร และจัดตั้งบริษัทลูก หรือบริษัทมหาชน ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

วันนี้ (14 พ.ค.) เป็นวันแรกที่พระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนองค์กรโดยยกเลิกโรงงานยาสูบ ในสังกัดกระทรวงการคลัง กลายสภาพมาเป็น การยาสูบแห่งประเทศไทย หรือ ยสท. เป็นนิติบุคคล โดยหน้าที่ของ ยสท. คือ การผลิตบุหรี่ซิกาแรตซึ่งเป็นกิจการผูกขาดของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต และการกระทำกิจการอื่น อาทิ ประกอบอุตสาหกรรมและดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับยาสูบ ใบยา หรือผลิตภัณฑ์จากพืชอื่นทั้งในและนอกราชอาณาจักร

รับจ้างผลิตยาสูบเพื่อส่งออกไปจำหน่ายนอกราชอาณาจักร ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับใบยาสูบ ส่งเสริมให้มีการศึกษา วิจัย พัฒนา และปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานการผลิตยาสูบ ใบยาหรือผลิตภัณฑ์จากพืชอื่นและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาสูบ ใบยา หรือผลิตภัณฑ์จากพืชอื่น

นอกจากนี้ ยังให้อำนาจ ยสท. ให้กู้ หรือให้ยืมเงิน โดยมีหลักประกันด้วยบุคคลหรือทรัพย์สินเพื่อส่งเสริมกิจการใบยาอุตสาหกรรมยาสูบ หรือผลิตภัณฑ์จากพืชอื่น และออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อใช้ในการลงทุน รวมทั้งจัดตั้ง บริษัทจำกัด หรือ บริษัทมหาชนจำกัด เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องกับกิจการของ ยสท. อีกด้วย

สำหรับบทเฉพาะกาล กำหนดให้กระทรวงการคลังโอนบรรดากิจการ เงิน ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ และความรับผิด ของกระทรวงการคลังในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับไปเป็นของ ยสท. แต่ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ให้โอนเฉพาะในส่วนที่จำเป็นต่อการดำเนินกิจการของ ยสท. เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประธานกรรมการและกรรมการอำนวยการโรงงานยาสูบ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีคณะกรรมการ ยสท. ชุดใหม่ตามพระราชบัญญัตินี้ ในระบะเวลาไม่เกิน 90 วัน ส่วน น.ส.ดวงน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะครบกำหนดตามสัญญาจ้าง

เหตุผลที่ออกกฎหมายดังกล่าว ระบุว่า โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลังเป็นรัฐวิสาหกิจประเภทหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ แต่ไม่เป็นนิติบุคคล ทำให้มีข้อจำกัดบางประการในการดำเนินกิจการ ประกอบกับการผลิตบุหรี่ซิกาแรตเป็นกิจการผูกขาดของรัฐ สมควรดำเนินการโดยนิติบุคคล ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยกฎหมายเฉพาะ

รวมทั้ง กำหนดให้มีคณะกรรมการ ยสท. ซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เพื่อทำหน้าที่และมีอำนาจวางนโยบายและควบคุมดูแลกิจการอันจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพในเชิงอุตสาหกรรมและขจัดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและควบคุมมาตรฐานการผลิต โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม

อนึ่ง สำหรับโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2482 หรือเมื่อ 79 ปีก่อน สมัยรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีนโยบายที่จะให้รัฐดำเนินการอุตสาหกรรมยาสูบเสียเอง โดยมี พลตรี หลวงชำนาญยุทธศิลป์ เป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยรัฐบาลซื้อโรงงานยาสูบ โรงงานผลิตบุหรี่ รวมถึงกิจการเพาะปลูกใบยา มาดำเนินงานภายใต้การควบคุมของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง

ปัจจุบัน โรงงานยาสูบ ได้รับสิทธิผูกขาดในการผลิตแต่เพียงผู้เดียวภายในราชอาณาจักร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มผู้ใหญ่ที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ และป้องปรามบุหรี่ผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ปัจจุบันผลิตบุหรี่ออกจำหน่ายทั้งสิ้น 16 ตรา มีเกษตรกรเพาะปลูกและบ่มใบยากว่า 2 หมื่นราย มีโรงงานแห่งใหม่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา และสำนักงานยาสูบ 8 แห่งทั่วประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น