... รายงาน
“ตรงไหนคือความเสียหาย แม่ค้าคนใด ขอประชาชนช่วยประกาศออกไป หากใครเคยถูกผมข่มขู่ กรรโชก รีดเอาทรัพย์เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐบางคนทำอยู่ ทุกคนรักครอบครัว จึงขอเอาชีวิตพ่อแม่เป็นเดิมพัน ขอให้ท่านได้มีอันเป็นไป เหมือนชีวิตผม น้ำตาลูกผู้ชายครั้งนี้ อยากให้ทุกท่านเข้าใจ อยากให้ตำรวจเข้าใจ สิ่งที่ได้ทำกับผม ขอให้ย้อนกลับคืนไปสู่ครอบครัว พ่อแม่ ลูกภรรยาผู้นั้น ชีวิตผมไม่เคยเฟก เป็นธรรมชาติอย่างนี้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมไม่ได้แอ็กชันหรือดรามา แต่มันออกมาจากจิตใต้สำนึก ผมไม่เคยทำแบบเขาทำ ไม่เคยฆ่า ข่มขืน ผมเข้าใจทุกคน เป็นอดีตตำรวจ แต่ผมกลับถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำแบบนั้น ผมไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนดี แต่ผมไม่ชั่ว หรือเลวระยำ เหมือนใครบางคน พวกคุณไม่มีความระอาใจบ้างหรือที่ทำกับผมแบบนี้ ก็ไม่เป็นไร แต่ผมเชื่อประชาชนเกือบ 70 ล้านคน ขอเพียง 1 คน ที่น่าจะเข้าใจผม”
นี่เป็นคำพูดของ “เดอะต่อ” พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 2 และที่ปรึกษาบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด ที่เข้ามอบตัวต่อตำรวจ สน.โชคชัย ที่หน้าบ้านบิดาในหมู่บ้านคริสตัลปาร์ค ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
พ.ต.ท.สันธนะ ปรากฏตัวคราวล่าสุดจากการที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.นำกำลังตำรวจตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง เพื่อทลายแหล่งจำหน่ายอาหารเสริมและเครื่องสำอางผิดกฎหมาย ก่อนที่ พ.ต.ท.สันธนะ อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาตลาดฯ ขับไล่ตำรวจที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากเป็นที่เอกชน
ก่อนที่รอง ผบ.ตร.จะนำกำลังเข้าตรวจค้นยาวนานกว่า 5 วัน ได้ของกลางกว่า 3 แสนชิ้น และสืบสวนเอาผิดเพิ่มเติมในกรณีมีผู้มีอิทธิพล เรียกเก็บค่าคุ้มครอง การก่อสร้างต่อเติมบุกรุกคลองเปรมประชากร และการขยายเวลาการก่อสร้างตลาดโดยไม่ส่งมอบพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ แต่กลับเอาพื้นที่ตรงนั้นไปปล่อยเช่าแก่ผู้ค้า
พฤติกรรมที่สังคมมองว่า “กร่าง” ของ พ.ต.ท.สันธนะ ทำเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงกับ “รับไม่ได้” เสียดายที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม วอนสังคมอย่าไปให้ราคา
บ่ายวันที่ 11 พ.ค. ศาลอาญาออกหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ข้อหากรรโชกทรัพย์ 9 ฉบับ เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ และผู้ร่วมขบวนการอีก 10 คน รวม 45 หมายจับ ก่อนที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำหน่วยอรินทราชบุกค้นคอนโดพหลโยธินเพลส ซอยพหลโยธิน 8 แต่ไม่เจอ
กระทั่งพบว่า พ.ต.ท.สันธนะไปอยู่ที่บ้านของบิดาเพื่อกราบเท้าขอพร พร้อมเข้ามอบตัวต่อตำรวจ แต่ร้องขอให้พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย นำหมายมารับมอบตัวที่บ้าน กระทั่งช่วงเช้าจึงควบคุมตัวโดยถอดเสื้อผ้าโชว์เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในที่สุด
คงมีคนสงสัยว่า พ.ต.ท.สันธนะ เป็นใครมาจากไหน พ่อแม่เป็นใคร ถึงนำมากล่าวอ้างได้
พ.ต.ท.สันธนะ เกิดเมื่อ 13 มกราคม 2502 ปัจจุบันอายุ 59 ปี เป็นบุตรชายคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน ของ พ.ต.อ.สมชาย ประยูรรัตน์ ผู้เป็นบิดา กับ นางนิตยา ประยูรรัตน์ ผู้เป็นมารดา
มีพี่ชาย คือ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 31 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.คนก่อนหน้า
และน้องชาย คือ พ.ต.ท.สันต์นที ประยูรรัตน์ นายตำรวจนอกราชการ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าทีมบุกค้นตลาดใหม่ดอนเมือง
พ.ต.ท.สันธนะ จบจากโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 17 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 33 วิทยาลัยตำรวจเอฟบีไอ สหรัฐอเมริกา ปริญญาโทนิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
หลังจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2523 เป็นรองสารวัตรจราจร สน.บางกอกน้อย และอีกหลายโรงพัก กระทั่งปี 2526 โยกจากนครบาลมาอยู่กองปราบปราม ปี 2534 ครองยศพันตำรวจตรี แล้วย้ายไปเป็นสันติบาล
กระทั่งเป็นรองผู้กำกับ สำนักงานจเรตำรวจ เคยสร้างความฮือฮาเมื่อปี 2540 ด้วยการบริจาคเงินเดือนทั้งหมดให้มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ 3 ปีติดต่อกัน กระทั่งปี 2543 ไปเป็นตำรวจสันติบาลอีกครั้ง
ในแวดวงสีกากีขณะนั้น ว่ากันว่า พ.ต.ท.สันธนะ ร่ำรวยถึงขั้นมหาเศรษฐี มีธุรกิจส่วนตัวบางอย่าง ก่อนที่เจ้าตัวจะอ้างว่าทำธุรกิจทัวร์พาคนไปเล่นการพนันที่บ่อยปอยเปต กัมพูชา และต่างประเทศ
กลางดึกวันที่ 12 ต.ค. 2545 ตำรวจ สน.บางกอกน้อย นำกำลังบุกเข้าทลายบ่อนการพนันบาคาร่า ภายในสมาคมบริหารธุรกิจและกฎหมาย ซอยวัดดงมูลเหล็ก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ มีชายที่อ้างตัวเองเป็น พ.ต.ท.สันธนะ มาปรากฏตัวที่หน้าประตู ห้ามตำรวจเข้ามาเด็ดขาด พร้อมกับชักปืนข่มขู่ พร้อมด่าทออย่างหยาบคาย ส่วนนักพนันภายในทยอยหลบหนีออกทางประตูหลังจนหมด
หลังจากนั้น สน.บางกอกน้อย ตั้งด่านตรวจค้นที่หน้าบ่อนทุกคืนเพื่อกดดันไม่ให้นักพนันเข้าไปเล่น กระทั่งกลางดึกวันที่ 27 ต.ค. 2545 นักเลงในบ่อน รวมทั้งชายที่อ้างชื่อว่า พ.ต.ท.สันธนะก็มาปรากฏตัวตะโกนด่าตำรวจ
หลังจากที่ชื่อของ พ.ต.ท.สันธนะ ตกเป็นข่าว รวมทั้งปรากฏภาพและเสียงที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย ถ่ายเอาไว้ ที่สุดแล้ว 31 ต.ค. 2545 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวให้ พ.ต.ท.สันธนะออกจากราชการไว้ก่อน
สิ้นสุดการเป็นข้าราชการตำรวจ พร้อมถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และยังดำเนินคดีอาญาซ้ำ ขณะที่ฝั่งของ พ.ต.ท.สันธนะ ก็สาวไส้แฉข้อมูลบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาล โยงไปถึงนายตำรวจระดับสูง
หลังจากนั้น ปลายปี 2549 คนร้ายลอบยิงรถยนต์ของ พ.ต.ท.สันธนะ ที่สามแยกสวรรคโลก ถนนสุโขทัย หลังกลับจากการดูแข่งม้าที่สนามม้านางเลิ้ง แต่ พ.ต.ท.สันธนะไม่ได้ขับรถ ลูกน้องคนสนิทเสียชีวิตแทน
ปี 2552 พ.ต.ท.สันธนะ พร้อมพวกรวม 8 คน ถูกตำรวจ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย จับกุมในข้อหาอาวุธปืนที่สามเหลี่ยมทองคำ ระบุว่ามีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รีดไถเงินจากนักเสี่ยงโชค แต่ก็ได้รับการประกันตัว โดยมี พ.ต.อ.สมชาย ผู้เป็นพ่อ เอาโฉนดที่ดินของนางนิตยาซึ่งเป็นแม่ของ พ.ต.ท.สันธนะ มูลค่า 1.1 ล้านบาท มายื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน
นอกจากนี้ ในเส้นทางการเมือง เคยนั่งหัวหน้าพรรคประชากรไทย ลงสมัคร ส.ส.สองรอบ แต่ก็สอบตก อีกทั้งยังไปร่วมชุมนุมทางการเมือง แล้วถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นแกนนำ ทั้งๆ ที่แกนนำตัวจริงยังงงอยู่เลย
วันนี้ “สันธนะ” กลายเป็นผู้ต้องหาในคดีทลายตลาดใหม่ดอนเมือง คงต้องดูว่าหลังถอดเสื้อโชว์แสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป