ถูกแชร์ส่งต่อกันอย่างล้นหลามสำหรับคลิปเหล่าบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่ไทย ‘AVENGERS THAILAND’ คลิปเลียนภาพยนตร์ฮีโร่ชื่อดังของค่ายหนัง Marvel ของครีเอทีฟศิลปินนักร้องและนักพากย์นรก ความฮาจึงบังเกิดไปด้วยสาระและมวลสารที่สำคัญอันเป็นประโยชน์ต่อมวลมหาพี่น้องคนไทยให้ได้ตระหนักรู้และนำมาคิดต่อยอดป้องกันโลกสังคม
Manager online พาไปทำความรู้จัก “papaparty Voice” เพจเฟซบุ๊กและแชนแนลยูทูปกัปตันหัวเรือใหญ่ผู้นำพาบรรดาเหล่าผู้คนที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในปาร์ตี้นี้ดียิ่งขึ้น... “ปาร์ตี้-วัชรพล นนท์ภักดี”

แนะนำตัวเองหน่อย Papaparty Voice แห่ง คลิป AVENGERS THAILAND คือใคร
ชื่อ วัชรพล นนท์ภักดี ชื่อเล่นปาร์ตี้ (ยิ้ม) จริงๆ เป็นพนักงานออฟฟิศ ปกติทำงานครีเอทีฟเกี่ยวกับวงการเพลง แต่เรื่องของการพากย์เป็นความชอบความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆ ที่ได้รับการซึมซับมาจากคุณพ่อจากครอบครัว เพราะคุณพ่อท่านทำงานเกี่ยวกับการใช้เสียงเป็นโฆษกบ้าง เป็นนักโฆษณาบ้างในต่างจังหวัด แล้วท่านก็จะนั่งพากย์อัดบันทึกที่บ้าน พากย์แต่ละครั้ง ใส่ไมค์เสียงดังมาก เหมือนนาฬิกาปลุกของเรา เราก็เลยจะได้รับและซึมซับมา
นักครีเอทีฟกับนักพากย์ ศาสตร์คนละแขนงมาบรรจบกันได้อย่างไร
เราก็ทำควบคู่กันมาว่างเว้นจากงานประจำ ก่อนนอนทุกคืนก็จะซ้อมให้เสียงพากย์จากการเลียนเสียงที่เราชอบที่สุดอย่างโอปป้า คนที่รู้จักก็จะเรียกชื่อจาก “ตี้” เป็น “โอปป้า” กันหมด (หัวเราะ) ก็หัดซ้อมทำมานาน ส่วนตัวเคยสมัครโครงการต่างๆ ไปฝึกไปฝากตัว แต่เหมือนจังหวะมันยังไม่มา คนยังมองไม่เห็นความสามารถ ก็ลองใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์ ช่วงปี 2013 ที่ลงคลิปแรก กลายเป็นเกิดพลิก เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับงานทางด้านการพากย์ให้เสียง
ได้งานพากย์เกี่ยวกับอะไร? ภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือโฆษณา
โฆษณา ช่วงแรกๆ โฆษณาที่จำได้ในช่วงนั้นก็จะเป็นโฆษณาของมันฝรั่งเลย์แล้วก็ธนาคารไทยพาณิชย์ และส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าในออนไลน์ (ยิ้ม) เพิ่มเติมต่อจากที่บอกกล่าวไปข้างต้น ด้วยหน้าที่การงานครีเอทีฟที่ต้องเสพสื่อนักร้องดารา ละคร หนัง เมื่อบวกด้วยความรักชอบการพากย์ก็ทำให้คลิปที่ทำออกมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่เราผ่านตามาหมด มีชุดข้อมูลความรู้ แต่จะลงน้อยมาก ลงปีละ 2-3 คลิป แต่ปีนี้ 2018 เป็นที่ปล่อยเยอะมาก ทั้งในแฟนเพจเฟซบุ๊กในแชนแนลยูทูป
เพราะอะไรจึงมาฮึดลงคลิปเยอะในช่วงนี้
มันดีขึ้นจนตกใจ ตั้งแต่ต้นปีที่ปล่อยคลิป คนแชร์กันกระหน่ำทุกชิ้น แรกๆ ก็งงสงสัย ก็ทำทุกอาทิตย์เลย (หัวเราะ) ถ้าให้คิดวิเคราะห์ว่า ทำไมถึงโดนใจมีคนแชร์กันเยอะต่างจากแต่ก่อน ส่วนตัวว่าคอนเซ็ปต์มันชัดขึ้นจากก่อนหน้านี้ใช้ชื่อเพจว่า papaparty voice แค่อย่างเดียว แต่ช่วงมาปีนี้ผมเพิ่มเติมลงไปอีกว่า ‘นักพากย์ฟีลกู๊ด’
พอจับคอนเซ็ปต์ตัวเองได้ว่าเราพากย์แบบฟีลกู๊ด คนที่เขาเครียดหรือมีปัญหา เขาเข้ามาดูคลิปแล้วเขาหาเครียดเลย กลายเป็นไปโดนใจ มันง่าย ขำ แล้วยิ้มตาม คนที่เครียดอยู่ก็หายเลย เขาก็เลยแชร์ส่งต่อความสุข ทำให้กระจายไปเร็วมาก คือเหมือนเน้นอะไรที่เป็นฟีลกู๊ดทำให้คนหายเครียด ซึ่งส่วนตัวเราก็ชอบเน้นทุกคลิปให้คายเครียดเป็นวัตถุประสงค์ตั้งแต่ตอนแรกๆ มันก็แนวประมาณนี้ แต่มันจะสะเปะสะปะหน่อย (หัวเราะ) คิดอะไรได้ก็พากย์ ทว่าตอนนี้เราจะเน้นเรื่องของกระแสสังคม อย่างโอปป้า คนไม่คิดวาพระเอกจะมาเล่นมุกตลกได้ มันก็เลยทำให้เขาชอบ

ในเรื่องที่หยิบมาเล่น มีขอบเขตที่ตั้งไว้หรือไม่อย่างไร
ก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป เป็นเรื่องที่คนมองได้หลายมุม แต่ผมเลือกที่จะมองในมุมฟีลกู๊ด มุมดี มุมบวก กัดจิกได้เล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่โหดร้ายมาก ดูแล้วยิ้มๆ ตาม เราจะมีขอบเขตของเราคือจะไม่พูดคำหยาบ ไม่ทะลึ่ง ไม่ลามก สุภาพ ฟีลกู๊ด เพราะด้วยมวลสารที่มันดีอยู่แล้ว กระแสแมส คนที่เราติดตาม เขาทำประโยชน์และสิ่งที่ดี อย่างศิลปิน BNK 48 หรือ เป๊ก-ผลิตโชค เราก็เอามาทำเพิ่มเติมในคาแรคเตอร์เรา เราเอามานำเสนอให้เป็นฟีลกู๊ด
ใช้ระยะเวลาในการคิดมุกนานหรือไม่
ทุกคลิปที่เกิดขึ้น นั่งเปิดดูทีวี ยูทูป ไปเจออะไร ก็ปิ๊ไอเดียมาเลย ทำลงเลย เพราะเราทำคนเดียว ซึ่งจุดเริ่มต้นคืออยากให้คลายเครียดจากตัวเองก่อน แต่มันส่งผลดี ส่งผลด้านบวกให้กับทุกๆ คนที่ติดตาม ส่วนตัว ณ ตอนนี้มองว่าสังคมโซเชียลทุกคนจะมาทางดราม่า คิดลบ แล้วก็จะมีคลิปคนตีกันตีกันเยอะเยอะมากมาย แล้วมันเป็นเรื่องที่คนอยากแชร์ ก็รู้สึกว่าอยากช่วยให้มีหลายๆ คลิปให้คนมองมุมนี้บ้าง ผมเองก็เสพข่าว ข่าวเครียดก็มี แต่รู้สึกว่ามันควรนำเสนอในมุมที่สังคมมันดูดี ดูบวกขึ้นมา พอทำคลิปสองคลิปแล้วคนเห็นมุมมองเรา เราก็ยิ่งอยากทำเพิ่มขึ้นมาต่อไปอีก
อย่างคลิป AVENGERS THAILAND ที่กลายเป็นกระแสเหนือคำว่าคลิปตลกพากย์นรก
ต้องบอกก่อนว่าอันนี้เป็นคลิปแรกและคลิปเดียวที่รู้สึกว่าอยู่ดีๆ ไอเดียมันผุดขึ้นมา หลังหนังจบปุ๊บแล้วมาเปิดดูข่าว บังเอิญมีพวกฆ่าสัตว์กับคนที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองสังคมไทย เราอย่าลืมเขานะ ก็รู้สึกว่าเราน่าจะจับประเด็นสองอันนี้มารวมกัน คนไทยก็มีฮีโร่ เราอยากให้คนเห็นว่าเขาเป็นฮีโร่ที่ทำให้สังคมเราดีขึ้น เราต้องช่วยกันยกย่อง
โดยหลักๆ บุคคลที่ทำประโยชน์ช่วยเหลือก็จะเป็นนักร้อง ดารา หรือข้าราชการที่มีข่าวในช่วงนี้ ก็อยากให้ยกย่องเขา คลิปนี้ก็เป็นเหมือนคลิปแรกที่อยากจะให้ผู้คนในสังคมโซเชียลได้รับประโยชน์และรับสารที่ดีเสพกันบ้าง แต่ก็แอบไม่ทิ้งลายเซ็นตัวเองที่มีความตลกเป็นตัวนำก่อน แล้วค่อยปิดท้ายด้วยสาระสำคัญ คนติดตามก็มีคอนเม้นท์ว่าขนลุก รักชาติ ก็ไม่คิดว่า ณ ตอนนั้นตัวเองจะทำได้

คือเกิดกระแสมาเยอะเลยในตอนนี้ทั้งกับผู้คนและสังคม ส่วนตัวรู้สึกอย่างไรบ้าง
ก็ดีใจ มันเหมือนเราปลุกใจคนให้หันมามองกลุ่มคนดีๆ ที่ทำเพื่อสังคมบ้านเรา คือ ณ ตอนแรกนั้นเราไม่ได้รู้ขนาดนี้ แต่ ณ ตอนนี้ที่ไล่อ่านคอมเมนต์ เรารู้สึกว่ามีความสุข แล้วเราก็เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ที่ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาในเรื่องตรงนี้ก็ดีใจ เพราะว่าอย่างที่กล่าวไป ในกระแสโซเชียล ข่าวไม่ดี คนชอบแชร์กันเสพไปเรื่อยๆ อคติในแง่ลบเข้าสู่คนเยอะขึ้น ตรงนี้ก็ช่วยได้ อยากให้ทุกคนช่วยกัน ตอนนี้โซเชียลอยู่ในมือทุกคนแล้วมันมีอิทธิพลมากกว่าเดิม มากกว่ายุคสมัยปีที่ผ่านมา
วันนี้เด็กขวบสองขวบสามารถเล่นโซเชียลแล้วเขาเหมือนไม่ใช่เด็กแล้ว เขาลอกเลียนแบบผู้ใหญ่ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เร็วแล้ว ถ้าเราไม่ช่วยกันมันจะน่ากลัวมาก เพราะมันจะเริ่มเป็นทิศทางลบ ตรงนี้ก็เป็นแค่ส่วนน้อยมันก็คงยังไม่มากพอ ก็อยากจะปลุกกระแสตรงนี้ขึ้นมาอย่างน้อยก็มองสังคมให้มันฟีลกู๊ดขึ้นและก็พยายามช่วยกันเปิดมุมมองที่ดีในการปิดสรุป อยากให้โซเชียลมันไม่มีแต่ขยะ
คลิปของเรา 90 เปอร์เซ็นต์มันไม่มีสาระ แต่ว่าผมว่ามันยังดีกว่าการที่เราไปเสพอะไรดราม่าหรือที่บั่นทอน สังคมมันมีแต่ข่าวเครียด แล้วชีวิตจริงเรามันก็เครียด กลับบ้านมา เราก็ควรที่จะมีพื้นที่เข้าไปแล้วมีความสุข มีรอยยิ้มกลับมา ก็อยากให้เพจหรือสื่อของเราตรงนั้นเป็นตัวที่ตอบโจทย์ตรงนั้น
ด้วยสาระ ด้วยหมุดหมายในแต่ละคลิป หลังจากได้ไอเดีย ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการพากย์ให้เสียงและตัดต่อ
ทำราวๆ 5 ชั่วโมง ใช้โน๊ตบุ๊คและไมค์อัดเสียงปกติ แล้วก็โปรแกรม Adobe ในการตัดต่อ จากนั้นก็ใส่เรื่องของเสียงซึ่งในส่วนเรื่องเสียงตอนนี้ก็ได้ทั้งเสียงพระเอก เสียงคนแก่ เสียงเด็ก เสียงตลก หรือเสียงผู้หญิง เหลือเสียสัตว์ยังต้องฝึก ก็คิดว่าจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะหมดมุก ซึ่งเราก็อยากทำให้ถึงล้านซับสไครบ์ เนื่องจากพอคนเริ่มติดแล้ว คนเริ่มจับจุดเราได้ว่าเป็นพื้นที่คลายเครียด ทำให้คนมองสังคมแบบฟีลกู๊ด เราก็รู้สึกว่าเหมือนเรามีบทบาทในสังคมนิดหนึ่ง ก็อยากทำให้มันสุด ลองดูก่อน แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะสำเร็จ อยากทำไปเรื่อยๆ
ส่วนในเรื่องของเนื้อหาก็จะเป็นแบบฟีลกู๊ดต่อไป แต่ในทุกๆ ปี เราก็จะมีการปรับเล็กๆ น้อยๆ ให้ไม่เบื่อกัน แต่หลักๆ เน้นฟีลกู๊ด เพราะฟีลกู๊ด สำหรับผม มันเหมือนตลกครบครัน ดูไม่ค่อยมีสาระ แต่จริงๆ มันมีแฝงอยู่ ถ้าคนที่จับได้ เขาจะรู้สึกว่าในทุกๆ คลิปมันจะมีอะไรบอกอยู่ นอกจากง่ายๆ ที่สุดว่ามันหายเครียด ยิ้มตาม อย่างที่หลายคอมเมนท์บอกว่า กำลังร้องๆ ไห้อยู่ โดนแฟนทิ้ง ดูคลิปนี้แล้วหายร้องได้แล้วลืมเลย ซึ่งถ้าคนคิดเพิ่ม มองต่ออีกระดับ ก็จะแก้ปัญหาได้ ไม่เกิดความเครียด สติมา ปัญญาเกิด พยายามมองมุมดี มันก็จะมีแรงบวกต่อไป

เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เพจ papaparty voice นักพากย์ฟีลกู๊ด
Manager online พาไปทำความรู้จัก “papaparty Voice” เพจเฟซบุ๊กและแชนแนลยูทูปกัปตันหัวเรือใหญ่ผู้นำพาบรรดาเหล่าผู้คนที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในปาร์ตี้นี้ดียิ่งขึ้น... “ปาร์ตี้-วัชรพล นนท์ภักดี”
แนะนำตัวเองหน่อย Papaparty Voice แห่ง คลิป AVENGERS THAILAND คือใคร
ชื่อ วัชรพล นนท์ภักดี ชื่อเล่นปาร์ตี้ (ยิ้ม) จริงๆ เป็นพนักงานออฟฟิศ ปกติทำงานครีเอทีฟเกี่ยวกับวงการเพลง แต่เรื่องของการพากย์เป็นความชอบความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆ ที่ได้รับการซึมซับมาจากคุณพ่อจากครอบครัว เพราะคุณพ่อท่านทำงานเกี่ยวกับการใช้เสียงเป็นโฆษกบ้าง เป็นนักโฆษณาบ้างในต่างจังหวัด แล้วท่านก็จะนั่งพากย์อัดบันทึกที่บ้าน พากย์แต่ละครั้ง ใส่ไมค์เสียงดังมาก เหมือนนาฬิกาปลุกของเรา เราก็เลยจะได้รับและซึมซับมา
นักครีเอทีฟกับนักพากย์ ศาสตร์คนละแขนงมาบรรจบกันได้อย่างไร
เราก็ทำควบคู่กันมาว่างเว้นจากงานประจำ ก่อนนอนทุกคืนก็จะซ้อมให้เสียงพากย์จากการเลียนเสียงที่เราชอบที่สุดอย่างโอปป้า คนที่รู้จักก็จะเรียกชื่อจาก “ตี้” เป็น “โอปป้า” กันหมด (หัวเราะ) ก็หัดซ้อมทำมานาน ส่วนตัวเคยสมัครโครงการต่างๆ ไปฝึกไปฝากตัว แต่เหมือนจังหวะมันยังไม่มา คนยังมองไม่เห็นความสามารถ ก็ลองใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์ ช่วงปี 2013 ที่ลงคลิปแรก กลายเป็นเกิดพลิก เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับงานทางด้านการพากย์ให้เสียง
ได้งานพากย์เกี่ยวกับอะไร? ภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือโฆษณา
โฆษณา ช่วงแรกๆ โฆษณาที่จำได้ในช่วงนั้นก็จะเป็นโฆษณาของมันฝรั่งเลย์แล้วก็ธนาคารไทยพาณิชย์ และส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าในออนไลน์ (ยิ้ม) เพิ่มเติมต่อจากที่บอกกล่าวไปข้างต้น ด้วยหน้าที่การงานครีเอทีฟที่ต้องเสพสื่อนักร้องดารา ละคร หนัง เมื่อบวกด้วยความรักชอบการพากย์ก็ทำให้คลิปที่ทำออกมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่เราผ่านตามาหมด มีชุดข้อมูลความรู้ แต่จะลงน้อยมาก ลงปีละ 2-3 คลิป แต่ปีนี้ 2018 เป็นที่ปล่อยเยอะมาก ทั้งในแฟนเพจเฟซบุ๊กในแชนแนลยูทูป
เพราะอะไรจึงมาฮึดลงคลิปเยอะในช่วงนี้
มันดีขึ้นจนตกใจ ตั้งแต่ต้นปีที่ปล่อยคลิป คนแชร์กันกระหน่ำทุกชิ้น แรกๆ ก็งงสงสัย ก็ทำทุกอาทิตย์เลย (หัวเราะ) ถ้าให้คิดวิเคราะห์ว่า ทำไมถึงโดนใจมีคนแชร์กันเยอะต่างจากแต่ก่อน ส่วนตัวว่าคอนเซ็ปต์มันชัดขึ้นจากก่อนหน้านี้ใช้ชื่อเพจว่า papaparty voice แค่อย่างเดียว แต่ช่วงมาปีนี้ผมเพิ่มเติมลงไปอีกว่า ‘นักพากย์ฟีลกู๊ด’
พอจับคอนเซ็ปต์ตัวเองได้ว่าเราพากย์แบบฟีลกู๊ด คนที่เขาเครียดหรือมีปัญหา เขาเข้ามาดูคลิปแล้วเขาหาเครียดเลย กลายเป็นไปโดนใจ มันง่าย ขำ แล้วยิ้มตาม คนที่เครียดอยู่ก็หายเลย เขาก็เลยแชร์ส่งต่อความสุข ทำให้กระจายไปเร็วมาก คือเหมือนเน้นอะไรที่เป็นฟีลกู๊ดทำให้คนหายเครียด ซึ่งส่วนตัวเราก็ชอบเน้นทุกคลิปให้คายเครียดเป็นวัตถุประสงค์ตั้งแต่ตอนแรกๆ มันก็แนวประมาณนี้ แต่มันจะสะเปะสะปะหน่อย (หัวเราะ) คิดอะไรได้ก็พากย์ ทว่าตอนนี้เราจะเน้นเรื่องของกระแสสังคม อย่างโอปป้า คนไม่คิดวาพระเอกจะมาเล่นมุกตลกได้ มันก็เลยทำให้เขาชอบ
ในเรื่องที่หยิบมาเล่น มีขอบเขตที่ตั้งไว้หรือไม่อย่างไร
ก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป เป็นเรื่องที่คนมองได้หลายมุม แต่ผมเลือกที่จะมองในมุมฟีลกู๊ด มุมดี มุมบวก กัดจิกได้เล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่โหดร้ายมาก ดูแล้วยิ้มๆ ตาม เราจะมีขอบเขตของเราคือจะไม่พูดคำหยาบ ไม่ทะลึ่ง ไม่ลามก สุภาพ ฟีลกู๊ด เพราะด้วยมวลสารที่มันดีอยู่แล้ว กระแสแมส คนที่เราติดตาม เขาทำประโยชน์และสิ่งที่ดี อย่างศิลปิน BNK 48 หรือ เป๊ก-ผลิตโชค เราก็เอามาทำเพิ่มเติมในคาแรคเตอร์เรา เราเอามานำเสนอให้เป็นฟีลกู๊ด
ใช้ระยะเวลาในการคิดมุกนานหรือไม่
ทุกคลิปที่เกิดขึ้น นั่งเปิดดูทีวี ยูทูป ไปเจออะไร ก็ปิ๊ไอเดียมาเลย ทำลงเลย เพราะเราทำคนเดียว ซึ่งจุดเริ่มต้นคืออยากให้คลายเครียดจากตัวเองก่อน แต่มันส่งผลดี ส่งผลด้านบวกให้กับทุกๆ คนที่ติดตาม ส่วนตัว ณ ตอนนี้มองว่าสังคมโซเชียลทุกคนจะมาทางดราม่า คิดลบ แล้วก็จะมีคลิปคนตีกันตีกันเยอะเยอะมากมาย แล้วมันเป็นเรื่องที่คนอยากแชร์ ก็รู้สึกว่าอยากช่วยให้มีหลายๆ คลิปให้คนมองมุมนี้บ้าง ผมเองก็เสพข่าว ข่าวเครียดก็มี แต่รู้สึกว่ามันควรนำเสนอในมุมที่สังคมมันดูดี ดูบวกขึ้นมา พอทำคลิปสองคลิปแล้วคนเห็นมุมมองเรา เราก็ยิ่งอยากทำเพิ่มขึ้นมาต่อไปอีก
อย่างคลิป AVENGERS THAILAND ที่กลายเป็นกระแสเหนือคำว่าคลิปตลกพากย์นรก
ต้องบอกก่อนว่าอันนี้เป็นคลิปแรกและคลิปเดียวที่รู้สึกว่าอยู่ดีๆ ไอเดียมันผุดขึ้นมา หลังหนังจบปุ๊บแล้วมาเปิดดูข่าว บังเอิญมีพวกฆ่าสัตว์กับคนที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองสังคมไทย เราอย่าลืมเขานะ ก็รู้สึกว่าเราน่าจะจับประเด็นสองอันนี้มารวมกัน คนไทยก็มีฮีโร่ เราอยากให้คนเห็นว่าเขาเป็นฮีโร่ที่ทำให้สังคมเราดีขึ้น เราต้องช่วยกันยกย่อง
โดยหลักๆ บุคคลที่ทำประโยชน์ช่วยเหลือก็จะเป็นนักร้อง ดารา หรือข้าราชการที่มีข่าวในช่วงนี้ ก็อยากให้ยกย่องเขา คลิปนี้ก็เป็นเหมือนคลิปแรกที่อยากจะให้ผู้คนในสังคมโซเชียลได้รับประโยชน์และรับสารที่ดีเสพกันบ้าง แต่ก็แอบไม่ทิ้งลายเซ็นตัวเองที่มีความตลกเป็นตัวนำก่อน แล้วค่อยปิดท้ายด้วยสาระสำคัญ คนติดตามก็มีคอนเม้นท์ว่าขนลุก รักชาติ ก็ไม่คิดว่า ณ ตอนนั้นตัวเองจะทำได้
คือเกิดกระแสมาเยอะเลยในตอนนี้ทั้งกับผู้คนและสังคม ส่วนตัวรู้สึกอย่างไรบ้าง
ก็ดีใจ มันเหมือนเราปลุกใจคนให้หันมามองกลุ่มคนดีๆ ที่ทำเพื่อสังคมบ้านเรา คือ ณ ตอนแรกนั้นเราไม่ได้รู้ขนาดนี้ แต่ ณ ตอนนี้ที่ไล่อ่านคอมเมนต์ เรารู้สึกว่ามีความสุข แล้วเราก็เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ที่ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาในเรื่องตรงนี้ก็ดีใจ เพราะว่าอย่างที่กล่าวไป ในกระแสโซเชียล ข่าวไม่ดี คนชอบแชร์กันเสพไปเรื่อยๆ อคติในแง่ลบเข้าสู่คนเยอะขึ้น ตรงนี้ก็ช่วยได้ อยากให้ทุกคนช่วยกัน ตอนนี้โซเชียลอยู่ในมือทุกคนแล้วมันมีอิทธิพลมากกว่าเดิม มากกว่ายุคสมัยปีที่ผ่านมา
วันนี้เด็กขวบสองขวบสามารถเล่นโซเชียลแล้วเขาเหมือนไม่ใช่เด็กแล้ว เขาลอกเลียนแบบผู้ใหญ่ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เร็วแล้ว ถ้าเราไม่ช่วยกันมันจะน่ากลัวมาก เพราะมันจะเริ่มเป็นทิศทางลบ ตรงนี้ก็เป็นแค่ส่วนน้อยมันก็คงยังไม่มากพอ ก็อยากจะปลุกกระแสตรงนี้ขึ้นมาอย่างน้อยก็มองสังคมให้มันฟีลกู๊ดขึ้นและก็พยายามช่วยกันเปิดมุมมองที่ดีในการปิดสรุป อยากให้โซเชียลมันไม่มีแต่ขยะ
คลิปของเรา 90 เปอร์เซ็นต์มันไม่มีสาระ แต่ว่าผมว่ามันยังดีกว่าการที่เราไปเสพอะไรดราม่าหรือที่บั่นทอน สังคมมันมีแต่ข่าวเครียด แล้วชีวิตจริงเรามันก็เครียด กลับบ้านมา เราก็ควรที่จะมีพื้นที่เข้าไปแล้วมีความสุข มีรอยยิ้มกลับมา ก็อยากให้เพจหรือสื่อของเราตรงนั้นเป็นตัวที่ตอบโจทย์ตรงนั้น
ด้วยสาระ ด้วยหมุดหมายในแต่ละคลิป หลังจากได้ไอเดีย ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการพากย์ให้เสียงและตัดต่อ
ทำราวๆ 5 ชั่วโมง ใช้โน๊ตบุ๊คและไมค์อัดเสียงปกติ แล้วก็โปรแกรม Adobe ในการตัดต่อ จากนั้นก็ใส่เรื่องของเสียงซึ่งในส่วนเรื่องเสียงตอนนี้ก็ได้ทั้งเสียงพระเอก เสียงคนแก่ เสียงเด็ก เสียงตลก หรือเสียงผู้หญิง เหลือเสียสัตว์ยังต้องฝึก ก็คิดว่าจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะหมดมุก ซึ่งเราก็อยากทำให้ถึงล้านซับสไครบ์ เนื่องจากพอคนเริ่มติดแล้ว คนเริ่มจับจุดเราได้ว่าเป็นพื้นที่คลายเครียด ทำให้คนมองสังคมแบบฟีลกู๊ด เราก็รู้สึกว่าเหมือนเรามีบทบาทในสังคมนิดหนึ่ง ก็อยากทำให้มันสุด ลองดูก่อน แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะสำเร็จ อยากทำไปเรื่อยๆ
ส่วนในเรื่องของเนื้อหาก็จะเป็นแบบฟีลกู๊ดต่อไป แต่ในทุกๆ ปี เราก็จะมีการปรับเล็กๆ น้อยๆ ให้ไม่เบื่อกัน แต่หลักๆ เน้นฟีลกู๊ด เพราะฟีลกู๊ด สำหรับผม มันเหมือนตลกครบครัน ดูไม่ค่อยมีสาระ แต่จริงๆ มันมีแฝงอยู่ ถ้าคนที่จับได้ เขาจะรู้สึกว่าในทุกๆ คลิปมันจะมีอะไรบอกอยู่ นอกจากง่ายๆ ที่สุดว่ามันหายเครียด ยิ้มตาม อย่างที่หลายคอมเมนท์บอกว่า กำลังร้องๆ ไห้อยู่ โดนแฟนทิ้ง ดูคลิปนี้แล้วหายร้องได้แล้วลืมเลย ซึ่งถ้าคนคิดเพิ่ม มองต่ออีกระดับ ก็จะแก้ปัญหาได้ ไม่เกิดความเครียด สติมา ปัญญาเกิด พยายามมองมุมดี มันก็จะมีแรงบวกต่อไป
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เพจ papaparty voice นักพากย์ฟีลกู๊ด