พระมหาไพรวัลย์มองกรณี "พระสรยุทธ" ชี้ทำไมจะบวชไม่ได้ แจงกรณีศาลสั่งให้ประกันตัวระหว่างรอการต่อสู้คดี โดยศาลไม่ได้สั่งห้ามว่าในระหว่างที่ให้ประกันตัวห้ามอุปสมบท
จากกรณี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตนักเล่าข่าวชื่อดังของช่องน้อยสี ได้เข้าพิธีอุปสมบทบวชเป็นพระวัดหนองกระทุ่ม ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับฉายาทางธรรมว่า วชิรมโน แปลว่า ผู้มีใจดุจเพชร แล้วเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สามารถบวชได้ และพระผู้อุปัชฌาย์บวชให้แก่พระสรยุทธถูกหามส่งโรงพยาบาลด่วน หลังอาพาธหนักจากภาวะเครียดถูกวิจารณ์กรณีบวชให้ผู้ต้องหาคดีติดตัว
เมื่อวันที่ (26 เม.ย.) พระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร วัดสร้อยทอง ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีนี้ว่า "ทำไมพระสรยุทธจะบวชไม่ได้นั้น สรุปใจความได้ว่า ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี โดยยื่นเงื่อนไขให้ ซึ่งถ้าศาลไม่ได้บอกว่าในระหว่างที่ให้ประกันตัวห้ามอุปสมบท ผู้ต้องหาควรได้รับสิทธิ์ในการที่จะบวช ตามระยะเวลาที่ศาลอนุญาตการประกันตัวหรือไม่ ต่างจากกรณีของผู้ที่หลบหนีคดี ซึ่งอย่างหลังนี้หากพบว่าหนีมาบวช เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการสึกได้ทันที แต่กรณีของพระสรยุทธไม่ใช่แบบนั้น
เนื้อหาโพสต์ความว่า "กรณีพระสรยุทธนี่ ในทางพระวินัย ควรจะต้องตีความนะ และเรื่องการต้องคดีอาญานั้น การตัดสินโทษแบบรัฐในยุคพุทธกาล กับรัฐในยุคสมัยใหม่ก็ไม่เหมือนกัน เช่นในยุคโบราณ เมื่อต้องคดีแล้ว พระราชาหรือมหาอำมาตย์วินิจฉัยคดี ก็ต้องรับโทษตามนั้นทันที ไม่มีอุทธรณ์ ไม่มีฎีกา แต่ยุคปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้น ผู้ต้องหาสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีได้
ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว ระหว่างการต่อสู้คดี โดยยื่นเงื่อนไขให้ ถ้าศาลไม่ได้บอกว่า ในระหว่างที่ให้ประกันตัว ห้ามอุปสมบท ผู้ต้องหาควรได้รับสิทธิ์ในการที่จะบวช ตามระยะเวลาที่ศาลอนุญาตการประกันตัวหรือไม่ เรื่องค่อนข้างละเอียด และต่างจากกรณีของผู้ที่หลบหนีคดี ซึ่งอย่างหลังนี้หากพบว่าหนีมาบวช เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการสึกได้ทันที
แต่กรณีของพระสรยุทธไม่ใช่แบบนั้น เมื่อให้บวชแล้ว ในบางกรณี พระพุทธเจ้าปรับโทษแค่ทุกกฎสำหรับพระอุปัชฌาย์และพระคู่สวด ไม่ปรับโทษผู้บวช หมายถึงว่า ถ้าให้บวชแล้วก็บวชไป ไปจับเขาสึกไม่ได้ (เป็นการทำไม่ดี (ทุกกฎของคนที่บวชให้เท่านั้น) เรื่องนี้ ต้องพิจารณาให้ละเอียด และกรณีแบบนี้ก็ไม่ใช่มีแค่พระสรยุทธ ก่อนหน้านี้ก็มีนักการเมืองคนหนึ่งที่อุปสมบทระหว่างที่ยังต้องคดีอยู่เหมือนกัน นักแสดงหรือดาราบางคนก็ด้วย
ประเด็นสำคัญที่สุด เราควรจะต้องมองถึงที่มาของข้อห้ามในทางพระวินัยเกี่ยวกับเรื่องที่ทรงห้ามคนที่มีคดีบวช ว่าทรงหมายถึงกรณีแบบไหนบ้างอย่างไร เช่นอย่างที่ตรัสถึงผู้ต้องหาหนีจากเรือนจำ คนมีหมายจับ เป็นต้น แล้วนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับคนที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัว จึงจะเห็นชัดว่าเข้าข่ายการเป็นบุคคลต้องห้ามตามพระวินัยหรือไม่