มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนฯ เปิดโอกาสขอรับทุนไปศึกษางานด้านกฎหมายยาเสพติด ระดับสากล

มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำจุดประกาย กระตุ้นสานเสริมประมวลกฎหมายยาเสพติด มิติใหม่ของการเปลี่ยนแปลง เปิดให้นักวิชาการ-บุคคลทั่วไปขอรับทุนไปศึกษางานด้านกฎหมายยาเสพติด เน้น 2 ส่วนสำคัญ ปรับแก้กฎหมายภาพรวม และมุ่งพืชเสพติด กระท่อม กัญชา และยาบ้า ให้สอดคล้องในระดับสากล

วันนี้ (23 เม.ย.) รศ.ดร.นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยลัยมหิดล ในฐานะประธานขับเคลื่อน “โครงการจุดประกาย กระตุ้น สานเสริม ประมวลกฎหมายยาเสพติด มิติใหม่ของการเปลี่ยนแปลง” เปิดเผยว่า กล่าวว่า ตามที่โครงการฯที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก สสส. เพื่อเปิดให้นักวิชาการและบุคคลทั่วไป มาขอเป็นทุนวิจัยศึกษาเรื่องกฎหมายยาเสพติดเพื่อนำไปสู่มิติใหม่ของประเทศไทยที่เข้าสู่สากลเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศทั่วโลกและสอดคล้องกับสังคม วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของประชาชนคนไทยได้อย่างลงตัว เป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดและกฎหมายยาเสพติดในมิติของการพัฒนามากกว่าการลงโทษที่รุนแรงเพียงอย่างเดียว

“การเปิดโอกาสในครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญขององค์การสหประชาชาติ หรือ United Nations ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) คือ ส่งเสริมการป้องกันและรักษาการใช้สารในทางที่ผิด รวมถึงการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิดด้วย”

ในขณะที่ ศ.ดร.ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานของการพิจารณาจัดทำร่างขอบเขตของงาน (TOR) กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของโครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก เป็นส่วนของทั่วๆ ไปที่เปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้ารับทุนศึกษาวิจัยการเปลี่ยนแปลงกฎหมายยาเสพติดสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการต่อหมวดสำคัญต่างๆ ในประมวลกฎหมายยาเสพติด เช่น หมวดประเภทยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ หมวดการขึ้นทะเบียนตำรับยาเสพติดให้โทษและการขึ้นทะเบียนตำรับวัตถุออกฤทธิ์ และหมวดความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและบทกำหนดโทษ เป็นต้น

“ส่วนที่ 2 เป็นส่วนของความสนใจเฉพาะให้ทำการศึกษาวิจัยตัวยาเสพติด พืชเสพติด 3 ตัว ได้แก่ กระท่อม กัญชา และยาบ้า เพื่อให้ได้ข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือและเป็นรูปธรรมสากลประกอบการพิจารณาทางเลือกเชิงนโยบายในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายยาเสพติดที่สำคัญครั้งนี้”

ด้าน ดร.นพดล กรรณิกา ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ กล่าวว่า โครงการฯ เน้นไปที่การจุดประกาย กระตุ้น สานเสริม ประมวลกฎหมายยาเสพติด และการขับเคลื่อนกฎหมายยาเสพติดลดปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก สู่มิติใหม่ของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและเสริมสร้างความสุขของประชาชน ด้วยการเชิญชวนผู้สนใจเข้ารับทุนการศึกษาวิจัย ในการค้นหาข้อมูลที่เชื่อถือได้มีหลักวิชาการรองรับในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายยาเสพติดในมิติต่างๆ เพราะตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาการแก้ปัญหายาเสพติดได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความหวาดกลัวด้วยการลงโทษคนเสพ คนขาย ด้วยความรุนแรง ตั้งแต่การริบราชบาทว์ (ริบทรัพย์) ทเวนบก ทเวนเรือน เรื่อยมาถึงการเฆี่ยนตี การประจานให้อับอาย ปัจจุบันมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต แต่ปัญหายาเสพติดยังคงรุนแรงจนถึงปัจจุบัน

“มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำมีสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (Super Poll) เป็นหน่วยงานหนึ่งในการขับเคลื่อนเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของสาธารณชนต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อความสุขของประชาชน

โดยการศึกษาวิจัยควรทำการวิเคราะห์ทั้งเชิงคุณภาพด้วยการกรอบแนวคิดทฤษฎีเนื้อหาสาระที่หนักแน่นและเชิงปริมาณด้วยการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนประสิทธิผล การวิเคราะห์ต้นทุนประโยชน์ที่ได้ และการวิเคราะห์ต้นทุนอรรถประโยชน์ โดยผู้สนใจเข้าขอรับทุน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.superpollthailand.net หรืออีเมลที่ superpoll.thailand@gmail.com”