เขาหรือเธอเป็นใคร? ทำไมถึงล้มยักษ์ใหญ่แห่งวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ เราพาไปทำความรู้จักและเปิดใจแอดมินเพจ “ดอกจิก” ที่บรรดาคนชั่วๆ ต้องหัวใจสั่นระริกทันทีที่ได้ยินชื่อ! นับจากนี้...
สำหรับคนที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ย่อมจะรับรู้รับทราบถึงการจับกุมแบบยกแผงผู้ที่มีส่วนพัวพันกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง อย่าง “เมจิก สกิน” ที่ถูก อย.ฟันฉับ และถูกเจ้าหน้าที่บุกจับไปตามระเบียบ แถมท้ายด้วยรายชื่ออีกเพียบของบรรดาดาราเน็ตไอดอลนักรีวิวที่ตำรวจจ่อหมายเรียก ยาวเป็นหางว่าว
จะว่าเก๋าหรือก็ไม่ใช่... แต่หัวใจมันมาเต็ม
การศึกครั้งนี้ ระหว่างเพจเล็กๆ ที่เพิ่งตั้ง กับแบรนด์ดังที่สูงตระหง่าน ต่อเนื่องยาวนาน กินเวลามาแรมเดือนสองเดือน กว่าจะมาถึงวันนี้
แอดมินเพจนี้ ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร?
ถึงกล้าท้าชนกับยักษ์ใหญ่ขนาดนั้น?
ทุกบรรทัดถัดจากนี้ มีคำตอบ
แต่... เตือนไว้อย่าง ใครรู้ตัวว่าทำเรื่องชั่วๆ กับผู้บริโภคไว้
โปรดระวังตัวให้ดี เพราะการมาครั้งนี้ พี่ไม่ได้มาเล่นๆ ขำๆ!!
“ดอกจิก” สายดาร์ก พร้อมจะเปิดฉากแฉทุกเพจ “สายดำ”
ไม่ว่ามันจะใหญ่ มาจากไหน... ก็ตามที
• เบื้องต้น หลังจากบทสรุปอันลือลั่นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เมจิก สกิน ได้ผ่านไปแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? และเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณให้ข้อสรุปกับตัวเองหรือกรณีดังกล่าวอย่างไรบ้าง
รู้สึกเรายังต้องทำงานหนักต่อไปในฐานะผู้บริโภค มันไม่ใช่แค่เราออกมาตีแผ่เมจิก สกินแล้ว จบ มันมีการบ้านให้เราทำต่อไปเรื่อยๆ สินค้ามีหลายชนิดมากมายในท้องตลาด เราต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนนำเสนอ เราต้องให้ข้อมูลหลายๆ ด้านเพื่อผู้บริโภค ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่าเราจะทำยังไงให้มันออกมาดีที่สุด เราต้องต่อสู้กับผู้มีอิทธิพล เราต้องเจออะไรบ้าง สุดท้ายแล้วเราต้องสู้เพื่อความถูกต้องบนพื้นฐานของความเป็นจริง นำเสนอทุกข้อมูล โดยมีข้อมูลให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้
• บางคนเรียก “อีจิก” บางคนว่า “ไอ้จิก” บางคนไม่เอา “จิก” มาด้วย เรียกแต่คำนำหน้า “ดอก...” สรุปแล้ว “ดอกจิก” เป็นใครมาจากไหน?
เพจดอกจิกถือกำเนิดเมื่อกุมภาพันธ์ 2561 ด้วยการร่วมมือกันของหลากหลายอาชีพ มุ่งหวังเพื่อให้ความรู้กับประชาชน เตือนภัย และแฉขบวนการอาหารเสริมเครื่องสำอางเถื่อนซึ่งมีจำนวนมากในบ้านเรา โดยทุกอาชีพที่รวมตัวกัน ทั้งหมอ เภสัชกร นักวิชาการ นักกฎหมาย ทุกคนล้วนเจอกันบนโลกออนไลน์และคิดว่าเราจะใช้วิชาชีพของเราช่วยคนในวงกว้างได้อย่างไร จึงได้ทำเพจดอกจิก ซึ่งเป็นเพจดาร์ค ไม่เปิดเผยหน้าตา มีข้อมูลในเชิงลึก ภาษาพูดแบบกันเอง
อีกอย่าง สิ่งที่เราเน้นมากคือการทำสื่อกราฟฟิก คลิปวิดีโอต้องเข้าถึงคนดูและได้ประโยชน์ เรามีทีมตัดต่อของเราเอง 450 คน นี่พูดเล่นๆ เพราะโพสต์ถี่ และบางช่วงตีสามก็โพสต์ เราทำงานกันหนักมาก เพื่อผลิตสื่อโซเชียลให้น่าติดตาม น่าสนใจ พอคนสนใจ เราก็นำเสนอผ่านกราฟฟิกและคลิป ถือว่ามีการแชร์มากจริงๆ
เคสแรกที่เรามุ่งเป้าคือเมจิก สกิน เพราะส่งผลกระทบหลายมิติ ทั้งผู้บริโภค ผู้ลงทุน ระบบภาษี อิทธิพล และที่สำคัญ เรารู้ข้อมูลในการสวม อย.และโรงงานมาซักระยะหนึ่ง จึงเริ่มตีแผ่ข้อมูลของเมจิก สกิน ในทุกมิติ ซึ่งเพจดอกจิก นำเสนออย่างเข้มข้นพร้อมกับการโจมตีของฝั่งเมจิก สกินทุกรูปแบบ ทั้งบอกเพจผี เพจปลอม ข่าวลวง และให้คนมาสแปมเพจจนปลิวรายวัน เพจดอกจิกใหญ่ปลิวไปยังไม่กลับ ดอกจิกสู่ต่อด้วย ดอกจิก v.2-v.5 ปลิวทุกเพจแล้วเรียกกลับมาได้บางเพจ ปัจจุบันเหลือเพียง v.3 และ v.5 นี่คือการฟาดฟันสงครามในโลกออนไลน์จนเรากุมชัยชนะ สามารถล้มเมจิก สกิน ได้
• ชื่อเพจ “ดอกจิก” ตั้งใจให้มีความหมายอย่างไร? และเจตนารมณ์เริ่มแรกเลยของเพจ “ดอกจิก” คืออะไรยังไง?
ดอกจิกมาจากอะไร ก็จิกแบบไม่ปล่อยจิกทุกเรื่องจิกจนความจริงกระจ่าง ก็ตั้งใจมาเปิดโปงโดยตรงเลย
• ลักษณะการทำงานของเพจ คล้ายการทำงานของคนข่าว Investigative News คือสืบสวนสอบสวน ตรงนี้เรามีการค้นคว้าหาข้อมูลกันอย่างไร? หรือมีใครที่ไหนเข้ามาซัพพอร์ตบ้าง?
ไม่มีใครซัพพอร์ต เรามีทีมของเราเอง ที่ตรวจสอบข้อมูลจริงๆ มีการดูตั้งแต่การใช้รีวิวการใช้พรีเซนเตอร์ กลไกการขาย ลักษณะผลิตภัณฑ์เราตรวจสอบเองทั้งหมด รวมไปถึงส่วนผสม การใช้ส่วนผสม การเคลมโฆษณา
• ในโลกออนไลน์ที่ยากจะรู้ว่าใครเป็นใคร หรือเข้ามาหาเพจเราด้วยจุดประสงค์แบบไหน? คุณมีวิธีการคัดกรองหรือระแวดระวังอย่างไรเพื่อให้ได้ “ความจริง” โดยไม่ตกไปเป็นเหยื่อเสียเอง
เราตรวจสอบข้อมูลเสมอ รับฟังและรับพิจารณาแต่จะไม่เอาข้อมูลบุคคลที่3 เผยแพร่โดยไม่กลั่นกรอง ต้องมีการตรวจสอบ หาหลักฐานข้อมูลเพิ่ม และไม่ให้ใครใช้สื่อทำการดิสเครดิตอีกฝั่งเด็ดขาด ทุกอย่างเราตัดสินใจเองทั้งหมด
• มีความกลัวบ้างหรือเปล่า? กับการออกโรงแฉ ... และเราก็พอจะรู้มานิดๆ หน่อยๆ ว่า เพจของคุณเคย “ปลิว” มาแล้ว จนกระทั่งอวตารไปเป็น “ดอกจิก V2” “ดอกจิก V3”?
ไม่เคยกลัว ปลิวก็สร้างใหม่มีแต่เหนื่อยนิดหน่อยที่เราต้องไปตามเพื่อนๆ ในเพจเรากลับมา ต้องประกาศว่าเราอยู่เพจนี้นะ
• อะไรคือสิ่งที่ “ดอกจิก” กลัวที่สุด?
กลัวที่สุดคือกลัวเรื่องเงียบ ผู้เสียหาย ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม กลัวผู้เสียหายโดนข่มขู่ แต่เราก็มีมาตรการป้องกัน
• อย่างกรณีของเมจิก สกิน ถามจริงๆ คุณไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร ถึงกล้าไปขุดคุ้ยเปิดโปงเขาขนาดนั้น เพราะก็อย่างที่รู้ รายนี้น่ะ เขา “ใหญ่มากกกก...”
เขาเป็นรายใหญ่ใช่ครับ แต่เขาทำผิดกฎหมายหลอกลวงผู้บริโภคมาเป็นเวลานาน ก็อย่างที่เคยนำเสนอ เชือดไก่ให้ลิงดู ทำเป็นโมเดลไปเลยว่า ใหญ่ขนาดนี้ยังไม่รอด ผู้ผลิตก็ควรจะตระหนักในสินค้าที่ผลิตออกมา ว่าต้องทำถูกต้องมีคุณภาพ
• มองกว้างออกไปในโลกโซเชียลทุกวันนี้ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง เพราะบางที คนก็ใช้ช่องทางนี้ทำมาหากินกันแบบไม่คำนึงถึงจริยธรรม ศีลธรรม หรือความถูกต้องใดๆ แล้ว
หน่วยงานรัฐควรมีมาตรการการรับจดแจ้งสินค้า และการตรวจสอบย้อนหลัง เพราะบางแบรนด์ขอชื่ออีกอย่าง แต่ใช้อีกอย่าง ควรมีสื่อโซเชียลที่ไวและเข้าถึงประชาชน คนขายสินค้าควรมีจรรณยาบรรณ ไม่ใช่เจ้าของแบรนด์โฆษณาว่าไง ก็ตามเขาไปโดยไม่มีการหาข้อมูล
• ส่วนหนึ่งซึ่งไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ ก็คือบรรดาเน็ตไอดอลหรือดาราคนดังต่างๆ ที่รับงานโฆษณาของคนลวง ... ตรงนี้ อยากให้สติกับพวกเขาอย่างไรบ้าง หลายคนอ้างเหลือเกินว่า ไม่รู้เรื่อง...จนกระทั่งเกิดเรื่อง
ดารา เน็ตไอดอล จะอ้างไม่รู้ไม่ได้เลย เพราะคุณต้องตรวจสอบ มันเป็นอาชีพของคุณนะ คุณรู้มั้ยว่าผู้เสียหายเขาเชื่อคุณ เอาเงินมาลงทุนหมดตัว บ้านแตกขนาดไหน ที่ผ่านมาคงแก้ไขกันลำบาก คงเป็นไปตามการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าดาราแต่ละคนจะถูกดำเนินคดีอย่างไร ในอนาคต อาชีพรีวิวอาจจะล่มสลาย ถ้าดาราคนนั้นเพียงแค่ถือสินค้าและพูดว่าดี แต่ตัวเองไม่ได้ใช้ เข้าข่ายตีความว่าหลอกลวงประชาชนได้ ดาราต้องใช้เองใช้แล้วดี ดีถึงบอกต่อ ไม่ใช่รับเงินเขา เขาให้พูดอะไรก็พูด มันตื้นมาก รับผิดชอบสังคมด้วย เพราะคุณมีชื่อเสียง พูดอะไรคนก็เชื่อ ดาราทุกคนต้องตรวจสอบ เลข อย.เป็น มันง่ายมาก ตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่แจ้งให้ละเอียดชัดเจน ก่อนจะรับงาน
• ตอนนี้เชื่อว่า พวกแหกตาประชาชน คงร้อนๆ หนาวๆ กันพอสมควรแล้ว คุณเล็งว่า จะขุดคุ้ยอะไรต่อไปอีกไหม และตั้งธงวางหมุดหมายไว้อย่างไรบ้าง
เราคงยังต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อผู้บริโภคครับ
สำหรับคนที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ย่อมจะรับรู้รับทราบถึงการจับกุมแบบยกแผงผู้ที่มีส่วนพัวพันกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง อย่าง “เมจิก สกิน” ที่ถูก อย.ฟันฉับ และถูกเจ้าหน้าที่บุกจับไปตามระเบียบ แถมท้ายด้วยรายชื่ออีกเพียบของบรรดาดาราเน็ตไอดอลนักรีวิวที่ตำรวจจ่อหมายเรียก ยาวเป็นหางว่าว
จะว่าเก๋าหรือก็ไม่ใช่... แต่หัวใจมันมาเต็ม
การศึกครั้งนี้ ระหว่างเพจเล็กๆ ที่เพิ่งตั้ง กับแบรนด์ดังที่สูงตระหง่าน ต่อเนื่องยาวนาน กินเวลามาแรมเดือนสองเดือน กว่าจะมาถึงวันนี้
แอดมินเพจนี้ ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร?
ถึงกล้าท้าชนกับยักษ์ใหญ่ขนาดนั้น?
ทุกบรรทัดถัดจากนี้ มีคำตอบ
แต่... เตือนไว้อย่าง ใครรู้ตัวว่าทำเรื่องชั่วๆ กับผู้บริโภคไว้
โปรดระวังตัวให้ดี เพราะการมาครั้งนี้ พี่ไม่ได้มาเล่นๆ ขำๆ!!
“ดอกจิก” สายดาร์ก พร้อมจะเปิดฉากแฉทุกเพจ “สายดำ”
ไม่ว่ามันจะใหญ่ มาจากไหน... ก็ตามที
• เบื้องต้น หลังจากบทสรุปอันลือลั่นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เมจิก สกิน ได้ผ่านไปแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? และเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณให้ข้อสรุปกับตัวเองหรือกรณีดังกล่าวอย่างไรบ้าง
รู้สึกเรายังต้องทำงานหนักต่อไปในฐานะผู้บริโภค มันไม่ใช่แค่เราออกมาตีแผ่เมจิก สกินแล้ว จบ มันมีการบ้านให้เราทำต่อไปเรื่อยๆ สินค้ามีหลายชนิดมากมายในท้องตลาด เราต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนนำเสนอ เราต้องให้ข้อมูลหลายๆ ด้านเพื่อผู้บริโภค ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่าเราจะทำยังไงให้มันออกมาดีที่สุด เราต้องต่อสู้กับผู้มีอิทธิพล เราต้องเจออะไรบ้าง สุดท้ายแล้วเราต้องสู้เพื่อความถูกต้องบนพื้นฐานของความเป็นจริง นำเสนอทุกข้อมูล โดยมีข้อมูลให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้
• บางคนเรียก “อีจิก” บางคนว่า “ไอ้จิก” บางคนไม่เอา “จิก” มาด้วย เรียกแต่คำนำหน้า “ดอก...” สรุปแล้ว “ดอกจิก” เป็นใครมาจากไหน?
เพจดอกจิกถือกำเนิดเมื่อกุมภาพันธ์ 2561 ด้วยการร่วมมือกันของหลากหลายอาชีพ มุ่งหวังเพื่อให้ความรู้กับประชาชน เตือนภัย และแฉขบวนการอาหารเสริมเครื่องสำอางเถื่อนซึ่งมีจำนวนมากในบ้านเรา โดยทุกอาชีพที่รวมตัวกัน ทั้งหมอ เภสัชกร นักวิชาการ นักกฎหมาย ทุกคนล้วนเจอกันบนโลกออนไลน์และคิดว่าเราจะใช้วิชาชีพของเราช่วยคนในวงกว้างได้อย่างไร จึงได้ทำเพจดอกจิก ซึ่งเป็นเพจดาร์ค ไม่เปิดเผยหน้าตา มีข้อมูลในเชิงลึก ภาษาพูดแบบกันเอง
อีกอย่าง สิ่งที่เราเน้นมากคือการทำสื่อกราฟฟิก คลิปวิดีโอต้องเข้าถึงคนดูและได้ประโยชน์ เรามีทีมตัดต่อของเราเอง 450 คน นี่พูดเล่นๆ เพราะโพสต์ถี่ และบางช่วงตีสามก็โพสต์ เราทำงานกันหนักมาก เพื่อผลิตสื่อโซเชียลให้น่าติดตาม น่าสนใจ พอคนสนใจ เราก็นำเสนอผ่านกราฟฟิกและคลิป ถือว่ามีการแชร์มากจริงๆ
เคสแรกที่เรามุ่งเป้าคือเมจิก สกิน เพราะส่งผลกระทบหลายมิติ ทั้งผู้บริโภค ผู้ลงทุน ระบบภาษี อิทธิพล และที่สำคัญ เรารู้ข้อมูลในการสวม อย.และโรงงานมาซักระยะหนึ่ง จึงเริ่มตีแผ่ข้อมูลของเมจิก สกิน ในทุกมิติ ซึ่งเพจดอกจิก นำเสนออย่างเข้มข้นพร้อมกับการโจมตีของฝั่งเมจิก สกินทุกรูปแบบ ทั้งบอกเพจผี เพจปลอม ข่าวลวง และให้คนมาสแปมเพจจนปลิวรายวัน เพจดอกจิกใหญ่ปลิวไปยังไม่กลับ ดอกจิกสู่ต่อด้วย ดอกจิก v.2-v.5 ปลิวทุกเพจแล้วเรียกกลับมาได้บางเพจ ปัจจุบันเหลือเพียง v.3 และ v.5 นี่คือการฟาดฟันสงครามในโลกออนไลน์จนเรากุมชัยชนะ สามารถล้มเมจิก สกิน ได้
• ชื่อเพจ “ดอกจิก” ตั้งใจให้มีความหมายอย่างไร? และเจตนารมณ์เริ่มแรกเลยของเพจ “ดอกจิก” คืออะไรยังไง?
ดอกจิกมาจากอะไร ก็จิกแบบไม่ปล่อยจิกทุกเรื่องจิกจนความจริงกระจ่าง ก็ตั้งใจมาเปิดโปงโดยตรงเลย
• ลักษณะการทำงานของเพจ คล้ายการทำงานของคนข่าว Investigative News คือสืบสวนสอบสวน ตรงนี้เรามีการค้นคว้าหาข้อมูลกันอย่างไร? หรือมีใครที่ไหนเข้ามาซัพพอร์ตบ้าง?
ไม่มีใครซัพพอร์ต เรามีทีมของเราเอง ที่ตรวจสอบข้อมูลจริงๆ มีการดูตั้งแต่การใช้รีวิวการใช้พรีเซนเตอร์ กลไกการขาย ลักษณะผลิตภัณฑ์เราตรวจสอบเองทั้งหมด รวมไปถึงส่วนผสม การใช้ส่วนผสม การเคลมโฆษณา
• ในโลกออนไลน์ที่ยากจะรู้ว่าใครเป็นใคร หรือเข้ามาหาเพจเราด้วยจุดประสงค์แบบไหน? คุณมีวิธีการคัดกรองหรือระแวดระวังอย่างไรเพื่อให้ได้ “ความจริง” โดยไม่ตกไปเป็นเหยื่อเสียเอง
เราตรวจสอบข้อมูลเสมอ รับฟังและรับพิจารณาแต่จะไม่เอาข้อมูลบุคคลที่3 เผยแพร่โดยไม่กลั่นกรอง ต้องมีการตรวจสอบ หาหลักฐานข้อมูลเพิ่ม และไม่ให้ใครใช้สื่อทำการดิสเครดิตอีกฝั่งเด็ดขาด ทุกอย่างเราตัดสินใจเองทั้งหมด
• มีความกลัวบ้างหรือเปล่า? กับการออกโรงแฉ ... และเราก็พอจะรู้มานิดๆ หน่อยๆ ว่า เพจของคุณเคย “ปลิว” มาแล้ว จนกระทั่งอวตารไปเป็น “ดอกจิก V2” “ดอกจิก V3”?
ไม่เคยกลัว ปลิวก็สร้างใหม่มีแต่เหนื่อยนิดหน่อยที่เราต้องไปตามเพื่อนๆ ในเพจเรากลับมา ต้องประกาศว่าเราอยู่เพจนี้นะ
• อะไรคือสิ่งที่ “ดอกจิก” กลัวที่สุด?
กลัวที่สุดคือกลัวเรื่องเงียบ ผู้เสียหาย ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม กลัวผู้เสียหายโดนข่มขู่ แต่เราก็มีมาตรการป้องกัน
• อย่างกรณีของเมจิก สกิน ถามจริงๆ คุณไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร ถึงกล้าไปขุดคุ้ยเปิดโปงเขาขนาดนั้น เพราะก็อย่างที่รู้ รายนี้น่ะ เขา “ใหญ่มากกกก...”
เขาเป็นรายใหญ่ใช่ครับ แต่เขาทำผิดกฎหมายหลอกลวงผู้บริโภคมาเป็นเวลานาน ก็อย่างที่เคยนำเสนอ เชือดไก่ให้ลิงดู ทำเป็นโมเดลไปเลยว่า ใหญ่ขนาดนี้ยังไม่รอด ผู้ผลิตก็ควรจะตระหนักในสินค้าที่ผลิตออกมา ว่าต้องทำถูกต้องมีคุณภาพ
• มองกว้างออกไปในโลกโซเชียลทุกวันนี้ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง เพราะบางที คนก็ใช้ช่องทางนี้ทำมาหากินกันแบบไม่คำนึงถึงจริยธรรม ศีลธรรม หรือความถูกต้องใดๆ แล้ว
หน่วยงานรัฐควรมีมาตรการการรับจดแจ้งสินค้า และการตรวจสอบย้อนหลัง เพราะบางแบรนด์ขอชื่ออีกอย่าง แต่ใช้อีกอย่าง ควรมีสื่อโซเชียลที่ไวและเข้าถึงประชาชน คนขายสินค้าควรมีจรรณยาบรรณ ไม่ใช่เจ้าของแบรนด์โฆษณาว่าไง ก็ตามเขาไปโดยไม่มีการหาข้อมูล
• ส่วนหนึ่งซึ่งไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ ก็คือบรรดาเน็ตไอดอลหรือดาราคนดังต่างๆ ที่รับงานโฆษณาของคนลวง ... ตรงนี้ อยากให้สติกับพวกเขาอย่างไรบ้าง หลายคนอ้างเหลือเกินว่า ไม่รู้เรื่อง...จนกระทั่งเกิดเรื่อง
ดารา เน็ตไอดอล จะอ้างไม่รู้ไม่ได้เลย เพราะคุณต้องตรวจสอบ มันเป็นอาชีพของคุณนะ คุณรู้มั้ยว่าผู้เสียหายเขาเชื่อคุณ เอาเงินมาลงทุนหมดตัว บ้านแตกขนาดไหน ที่ผ่านมาคงแก้ไขกันลำบาก คงเป็นไปตามการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าดาราแต่ละคนจะถูกดำเนินคดีอย่างไร ในอนาคต อาชีพรีวิวอาจจะล่มสลาย ถ้าดาราคนนั้นเพียงแค่ถือสินค้าและพูดว่าดี แต่ตัวเองไม่ได้ใช้ เข้าข่ายตีความว่าหลอกลวงประชาชนได้ ดาราต้องใช้เองใช้แล้วดี ดีถึงบอกต่อ ไม่ใช่รับเงินเขา เขาให้พูดอะไรก็พูด มันตื้นมาก รับผิดชอบสังคมด้วย เพราะคุณมีชื่อเสียง พูดอะไรคนก็เชื่อ ดาราทุกคนต้องตรวจสอบ เลข อย.เป็น มันง่ายมาก ตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่แจ้งให้ละเอียดชัดเจน ก่อนจะรับงาน
• ตอนนี้เชื่อว่า พวกแหกตาประชาชน คงร้อนๆ หนาวๆ กันพอสมควรแล้ว คุณเล็งว่า จะขุดคุ้ยอะไรต่อไปอีกไหม และตั้งธงวางหมุดหมายไว้อย่างไรบ้าง
เราคงยังต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อผู้บริโภคครับ
