MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
หมายเหตุ : เนื่องจากเว็บไซต์ MGR Online กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ต้องการชมเนื้อหาย้อนหลัง คลิก https://bit.ly/mgrtop7 ขออภัยในความไม่สะดวก
(สรุปข่าวประจำวันที่ 7 - 20 เม.ย. 2561)
อันดับ 1 : ไม่ปลื้ม! "บิ๊กตู่" ตกเขียว "พลังชล" ดึง "ลูกกำนันเป๊าะ" ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
ทำเอาสังคมถึงกับอึ้ง เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 เม.ย. มีมติแต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา เป็นที่ปรึกษา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งทั้งสองเป็นบุตรชาย นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ" ผู้กว้างขวางภาคตะวันออก ที่ถูกพักการลงโทษในคดีจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชค หรือกำนันยูร เสียชีวิต และคดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. อ้างว่า ให้นายสนธยาเป็นที่ปรึกษานายกฯ เรื่องการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจำเป็นต้องมีคนเหล่านี้เขามาบ้าง เพราะไม่รู้ว่าการเมืองทำกันมาอย่างไร แต่ฝ่ายนักการเมืองอย่างนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า เป็นการผูกมัดนักการเมืองให้หนุนพรรคทหารก่อนการเลือกตั้ง ไม่แตกต่างอะไรกับการ "ตกเขียวทางการเมือง"
กรณีที่เกิดขึ้นสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นการสืบทอดอำนาจทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศชัดว่าพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ พร้อมกับข่าวว่าคนใกล้ชิดนายสมคิด คือ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม จะเป็นหัวหน้า "พรรคพลังประชารัฐ" มี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายสมคิดได้เรียก นายสกลธี ภัททิยกุล, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคชาติไทย จนเป็นที่วิจารณ์ว่า ตั้งพรรคการเมืองในทำเนียบรัฐบาล กระทั่งนายสกลธีลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าคนในรัฐบาลจะดึงกลุ่มการเมืองอื่นๆ อาทิ ตระกูลสะสมทรัพย์ กลุ่มบ้านริมน้ำ และกลุ่มมัชฌิมา ให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อีกด้วย
อันดับ 2 : สุดฉาว! พระผู้ใหญ่-กรรมการ "มหาเถรสมาคม" ถูกแจ้งความพัวพัน "เงินทอนวัด"
หลังเงียบหายไปนานคดีเงินทอนวัด หลังส่งฟ้องไปแล้วสองลอต ล่าสุดลอตที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อช่วงก่อนสงกรานต์ 11 เม.ย. พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ให้ดำเนินคดีกับพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร, 2.พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และเจ้าคณะภาค 4-7, พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และเจ้าคณะภาค 10, พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และ 5.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กระทำความผิดอาญาคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ความเสียหายทั้งสิ้น 70 ล้านบาท ซึ่ง 3 ใน 5 รูป เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับอีก 7 วัด แต่เมื่อวันที่ 19 เม.ย. พ.ต.ท.พงศ์พร ได้ขอเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด กระทั่งวันที่ 20 เม.ย. การประชุมมหาเถรสมาคม ได้มีมติให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยสรุปว่า การแจ้งความต่อตำรวจ ปปป. เป็นไปตามมูลหรือหลักฐานที่ตำรวจให้ไปแจ้งความตามหน้าที่ ไม่ได้มีอคติต่อพระชั้นผู้ใหญ่ดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และ ป.ป.ช. ยังไม่ได้เริ่มไต่สวนและวินิจฉัย ซึ่งตามรัฐธรรมนูญให้ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิด แต่ไม่ตอบว่าจะแจ้งความอีก 7 วัดเมื่อใด และวัดไหนบ้าง อย่างไรก็ตาม ในการประชุมมหาเถรสมาคม พบว่ากรรมการมหาเถรสมาคมต่างสอบถามถึงความรับผิดชอบของ พ.ต.ท.พงศ์พร อ้างว่าทำให้พระพุทธศาสนาเสียหาย และทำไมไม่มาสอบถามที่มาที่ไปก่อนจะแจ้งความ ทั้งที่เข้าประชุมด้วยกันอยู่แล้ว
อันดับ 3 : อย่าเพิ่งดีใจ! อัยการไม่รับคำร้อง "ครูปรีชา" แต่ให้กองปราบฯ ไปฟ้องกับ ป.ป.ช. แทน
ยืดยาวมานานเกือบครึ่งปีแล้วสำหรับมหากาพย์หวย 30 ล้าน หลังจากเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ตำรวจกองปราบปรามส่งสำนวนไปให้อัยการ สั่งฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา และ นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าขายสลากกินแบ่งฯ ข้อหาแจ้งความเท็จ ให้การเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และสั่งไม่ฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ คู่กรณีในข้อหายักยอกทรัพย์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เม.ย. นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา และคณะ แถลงข่าวระบุว่า อัยการมีมติไม่รับสำนวน และส่งคืนให้กองปราบปราม แต่ให้ส่งไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อชี้มูลความผิดแทน ก่อนส่งให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตัดสิน
สาเหตุที่อัยการไม่รับสำนวน เพราะครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น ถูกกล่าวว่าว่าสนับสนุน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และอยู่ใน ป.ป.ช. ซึ่งพฤติการณ์ของคดีครูปรีชา และ พล.ต.ต.สุทธิ เกี่ยวพันกัน จึงต้องส่งเรื่องให้กรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนตามกฎหมาย ครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่นอย่าเพิ่งดีใจ เพราะอัยการไม่ได้สั่งไม่ฟ้อง และยุติคดี แต่ให้ ป.ป.ช. ไปรวมคดีต่อ ส่วนคดีแพ่งเป็นคดีส่วนตัวเกี่ยวกับพิพาทกรรมสิทธิ์ หากตกลงกันไม่ได้ให้ถือเอาผลคดีอาญาเป็นหลัก ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. ระบุว่า ได้รับสำนวนคืนจากอัยการไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย. และส่งสำนวนไปให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดแล้ว ยืนยันว่าไม่กระทบต่อคดี หากศาลพิพากษาว่าผิดจริงจะได้รับโทษหนักกว่าเดิม
อันดับ 4 : โฉมงามกับเจ้าชายหน้าพิการ กลายเป็นศึกแย่งชิงลูกสาวกับผัวเก่า
กลายเป็นที่อิจฉากันทั้งโลกโซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pu Aramboy ได้โพสต์ภาพพิธีแต่งงานระหว่าง นายบุญมี ขันทอง หรือ มีมี่ อายุ 37 ปี หนุ่มใบหน้ามีปานบริเวณแก้ม ริมฝีปากลงมาถึงคอ เป็นโรคเส้นเลือดฝอยแตก กับ น.ส.ภัสสรา อบนาค อายุ 23 ปี หญิงหน้าตาสละสลวย ที่บ้านหนองเทพใหญ่ ต.ณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ฝ่ายชายกล่าวว่า ช่วยพี่สาวขายส้มตำอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบรักกับหญิงคนนี้เมื่อ 7 เดือนก่อน มีลูกติดเป็นลูกสาววัย 7 ขวบ และตัดสินใจกลับมาแต่งงานแบบเรียบง่ายที่บ้านเกิด
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "คนเล่นนก กรงหัวจุก สงขลา" โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าเป็นอดีตสามีของ น.ส.ภัสสรา อ้างว่า เป็น รปภ. เฝ้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในหาดใหญ่ ฝ่ายหญิงเป็นพนักงานร้านส้มตำของพี่สาวนายบุญมี พบว่าติดเพื่อน ก่อนที่จะพาลูกหนีหายไป และทราบข่าวว่าไปแต่งงงานใหม่กับนายบุญมี จึงร้องขอความเป็นธรรมและอยากได้ลูกสาวคืน ด้านฝ่ายหญิงโต้กลับไปว่า เป็นหัวหน้าครอบครัวแต่ไม่ช่วยเหลือ ทิ้งลูกไปแข่งนกกรงหัวจุกหลายชั่วโมง ฝ่ายชายติดการพนันงอมแงม ทะเลาะกันให้เห็นต่อหน้าธารกำนัลบ่อยครั้ง
อันดับ 5 : ไม่หลีกทางรถฉุกเฉิน! คลิปแฉมาบ่อยมาก สุดท้ายคนไข้ตาย
มหากาพย์เกี่ยวกับการไม่หลีกทางรถฉุกเฉินเกิดคลิปแฉบนโลกโซเชียลบ่อยครั้ง กรณีแรก ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kenzaa Standby โพสต์วิดีโอคลิปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ขณะขับรถฉุกเฉินเพื่อนำนายพลประสิทธิ์ แรมครบุรี ผู้ป่วยส่งกลับโรงพยาบาลครบุรี จ.นครราชสีมา เมื่อมาถึงถนนมิตรภาพ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พบรถเก๋งซูซูกิ สวิฟท์ สีแดง ไม่หลีกทางให้รถฉุกเฉินแซงหน้าไป ต่อมานายภาณุวัฒน์ ศรีเจริญ แฟนคนขับรถเก๋ง ทำงานอยู่ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โจมตีว่าเป็นรถส่งต่อผู้ป่วย ไม่ใช่รถกู้ชีพ เห็นว่าถนนโล่งกลับขับจี้ท้าย ต่อมานายพลประสิทธิ์เสียชีวิต ทำให้ชาวเน็ตต่างประณามจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทเจ้าของรถฉุกเฉิน ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวของพนักงานขับรถพยาบาล พร้อมขอโทษ สพฉ. ที่ทำให้เดือดร้อน
อีกกรณีหนึ่ง ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Itthikorn Butsara โพสต์วีดีโอคลิปเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ขณะขับรถฉุกเฉินเพื่อนำ นายจตุรงค์ วงศ์เขียน อายุ 23 ปี ผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแก่งคอย ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสระบุรี เมื่อมาถึงบริเวณก่อนทางแยกต่างระดับเลี่ยงเมืองสระบุรี พบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ขับเลนขวามาตลอดโดยไม่ยอมหลีกทางให้ กระทั่งผ่านไป 2 กิโลเมตรจึงขับชิดด้านซ้าย ภายหลังพบว่า นายจตุรงค์ เสียชีวิต ส่วนคนขับรถเก๋ง ทราบชื่อคือ นายฤทธิกร ประมาณเมือง อ้างว่าที่ไม่หลบรถฉุกเฉินเพราะไม่เห็น เปิดเพลงเสียงดังเลยไม่ได้ยิน ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจเอาความแต่อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ หากไปถึงมือแพทย์เร็วกว่านี้อาจไม่เสียชีวิตก็ได้
อันดับ 6 : ไม่ต้องร้องไห้! ผบ.ทบ. สั่งช่วยเหลือ "หนุ่มใบแดง" กลัวยายไม่มีคนดูแล
ในโลกออนไลน์แชร์วีดีโอคลิปจากเฟซบุ๊ก Art Tua Por โพสต์เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ระบุถึงเหตุการณ์การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจําการ ประจําปี 2561 ในสถานที่แห่งหนึ่ง พบว่าหลังจับได้ใบแดง ชายคนดังกล่าวร้องไห้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารบนโต๊ะเอกสารสอบถามจึงได้ความว่าต้องเลี้ยงดูยายที่เจ็บป่วยเนื่องจากพ่อแม่ทอดทิ้งตั้งแต่เด็ก และเกรงว่าจะไม่มีใครดูแลยาย กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการเกณฑ์ทหารในโซเชียลมีเดีย พบชายคนดังกล่าวทราบชื่อคือ นายศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร หรือ หรั่ง อายุ 23 ปี เข้ารับการตรวจเลือกทหารที่วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา
หลังเกิดกระแส พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 สั่งให้สัสดีกรุงเทพมหานคร เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านในซอยเทอดไท 15 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. พบสภาพความเป็นอยู่ยากจน นายศักดิ์ฤทธิ์รับจ้างในบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ส่วนป้ากับยายช่วยกันร้อยพวงมาลัย ขายที่หน้าวัดนาคปรก รายได้วันละ 200 บาท ต้องเลี้ยงดูป้าอีกคนที่เจ็บป่วย และหลานชายอายุ 16 ปี กำลังเรียนหนังสือ นายศักดิ์ฤทธิ์ยืนยันว่าจะเข้ารับการฝึกที่หน่วยมณฑลทหารบกที่ 11 เขตดุสิต กทม. ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งทางหน่วยทหารใหม่จะดูแลเพื่อความสบายใจ คลายกังวล
อันดับ 7 : สุดอาลัย "น้องอิน เก๊กฮวย" ดาราเด็ก ซิ่งบีเอ็มดับเบิลยู ชนต้นไม้เสียชีวิต
เรื่องเศร้าวงการบันเทิง ที่ต้องสูญเสียดาราเด็ก สร้างผลงานมานานกว่า 15 ปี สู่นักแสดงสาวอนาคตไกล ต้องจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน เช้ามืดวันที่ 7 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู รุ่น X1 สีขาว ทะเบียน 5 กบ 5248 กทม. พุ่งชนต้นจามจุรีขนาดใหญ่ เชิงสะพานข้ามทางรถไฟ ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกตะวันตก) กม. 79 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระยครศรีอยุธยา ภายในรถพบร่าง น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี หรือ น้องอิน อายุ 21 ปี ดารานักแสดง ถูกอัดอยู่ในซากรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สำหรับสาเหตุเกิดจากฝนตก ถนนลื่น และบริเวณดังกล่าวมีผิวทางต่างระดับจากสะพานข้ามคลอง ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
สำหรับ น.ส.ณัฐนิชา หรือ น้องอิน เป็นดาราเด็กที่สร้างชื่อเสียงจากละครเรื่อง "แก้วตาดวงใจ" ทางช่อง 7 เมื่อปี 2546 และโฆษณาค่ายมือถือ GSM 1800 ของค่ายเอไอเอส ที่ร้องเพลง "เก๊กฮวยถ้วยใหญ่ๆ" จนกลายมาเป็นฉายาที่เรียกว่า "น้องอิน เก๊กฮวย" ก่อนที่จะมีผลงานในวงการบันเทิง ทั้งโฆษณา พิธีกร ถ่ายแบบ และเป็นนักร้องค่ายโซนี่ มิวสิค ผลงานชิ้นสุดท้ายคือ ซีรีส์สยองขวัญ Bangkok Ghost Stories ทางช่อง 3 ร่วมกับ แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม สำหรับศพของน้องอิน ได้มีพิธีฌาปณกิจไปเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่วัดราชสิงขร ซอยเจริญกรุง 74 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. ปิดตำนานดาราเด็กอนาคตไกลไปอย่างน่าเสียดาย
