สรรพากรจ่อเพิ่มอัตราอากรที่เก็บจากผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล จากเดิมร้อยละ 0.5 เป็น 2.0 อ้างเงินเฟ้อ - ค่าครองชีพเพิ่ม อัตราเดิมใช้มา 36 ปี สมัยที่รางวัลที่ 1 ยังมีเงินแค่ 1 ล้าน เผย หากอัตราใหม่บังคับใช้ คนถูกที่ 1 ต้องจ่าย 1.2 แสน จากเดิมที่จ่ายเพียง 3 หมื่น
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรกำลังปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... เพื่อปรับเพิ่มอัตราอากรแสตมป์สำหรับการรับรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะมีการเก็บค่าอากรแสตมป์จากผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่มขึ้น จากเดิมเก็บที่อัตราร้อยละ 0.5 ของเงินรางวัล เพิ่มเป็นร้อยละ 2 ของเงินรางวัล เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเงินรางวัลที่ปรับเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กฎหมายฉบับเดิมใช้มาตั้งแต่ปี 2525 หรือเมื่อ 35 - 36 ปีที่แล้ว ซึ่งสมัยนั้นถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัลเพียง 1 ล้านบาท แต่ปัจจุบันรางวัลได้เพิ่มเป็น 6 ล้านบาทแล้ว รวมถึงภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพก็ปรับมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กรมสรรพากรจึงต้องปรับค่าอากรแสตมป์ตามให้เหมาะสม เชื่อว่า จะไม่กระทบต่อผู้ถูกรางวัล เพราะเป็นส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อีกทั้งคนที่ถูกรางวัลก็น่าจะยินดี เพราะเทียบเงินรางวัลที่ได้มีมูลมากกว่าที่เสียไปเยอะมาก เช่น รางวัลเลขท้าย 2 ตัว จากเดิมเสียค่าอากรแสตมป์ 10 บาท จะเพิ่มเป็น 40 บาท ส่วนรางวัลอื่นก็ปรับเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่กำหนด
ทั้งนี้ หากมีการคำนวณการเสียอากรแสตมป์สำหรับผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ถูกรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 6 ล้านบาท ปัจจุบันจะเสียค่าอากรแสตมป์ที่ 30,000 บาท แต่เมื่อกฎหมายใหม่ผ่าน จะเสียค่าอากรแสตมป์เพิ่มเป็น 120,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 90,000 บาท ขณะที่รางวัลเลขท้าย 2 ตัว จะเสียเพิ่มจาก 10 บาท เป็น 40 บาท